มารู้จักทีมของเราให้มากขึ้น กับ Futurespectives: Hero’s Journey

Sinj Menaruchi
KBTG Life
Published in
3 min readFeb 29, 2024

“การย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้ง มองไปข้างหน้าบ้างก็ดีเหมือนกัน”

สวัสดีครับ อย่างที่รู้กันว่าใน KBTG ของเรานั้นมีการใช้ Agile ในการทำงานกัน โดยมีการแบ่งการทำงานเป็นรอบๆ (Sprint) และในช่วงท้ายๆ ของแต่ละรอบ เราก็มักจะปิดท้ายด้วยการทำ Retrospectives เพื่อแก้ไขปัญหาที่พบหรือ พัฒนาผลลัพธ์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม (Continous Improvement)

แต่… ขึ้นปีใหม่ทั้งที ผมจึงอยากเริ่มต้น Sprint แรกของปีด้วยการลองทำอะไรใหม่ๆ ดู เปลี่ยนจากการคุยเรื่องปัญหาที่เจอ มาเป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง โดยหวังว่าการทำ Retrospective รอบนี้จะช่วยให้รู้จักตัวตนของทุกคนมากขึ้น รวมถึงอาจจะได้รู้ว่าน้องๆ แต่ละคนมีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษไหม หรือมีความกังวลอะไรหรือเปล่า เป็นการ Health Check ไปด้วยในตัว

จากโจทย์ ผมเลยลองหาว่ามี Retrospectives Template ไหนบ้างที่เหมาะกับการทำอะไรแบบนี้ หลังจากกูเกิลได้สักพัก ผมก็ไปสะดุดกับคำว่า “Futurespectives”

Futurespectives are collaborative team meetings in which participants think ahead about potential challenges, goals, wishes, or anxieties they have or may run into.

ยอมรับว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีแบบนี้ด้วย พอได้ลองอ่านๆ ดี ก็รู้สึกสนใจ ซึ่งการทำ Futurespectives นั้นมี Template ต่างๆ เหมือนการทำ Retrospectives เลย แถมมีหลาย Template ที่น่าสนใจและสามารถนำมาทำ Futurespectives ได้ เช่น Hot Air Balloon, Hero’s Journey, Hands on Deck, 4Ls Pre-Mortem และ Year in Review

ซึ่งผมเลือก Hero’s Journey มาเป็น Template ในการทำ Futurespectives เพราะดูแล้วน่าจะเหมาะกับทีมของผมมากที่สุด เพราะเป็น Template ที่…

“ดูน่าสนุก” “สร้างสรรค์” และ “มีอิสระในการแสดงความคิดเห็น”

Hero’s Journey Template

Hero’s Journey (การเดินทางของวีรบุรุษ)

เป็น Template นึงที่นิยมมาใช้ทำ Futurespectives โดยให้สมาชิกในทีมสร้าง Hero สมมุติขึ้นมา แล้วจินตนาการถึงการเดินทางให้ Hero ของเรา โดยมีหัวข้อที่ต้องใส่รายละเอียดดังนี้

  1. <HERO> คืออะไรก็ได้ที่ให้สมาชิกในทีมสมมุติขึ้นมา โดยมีความสามารถ พื้นฐาน บทบาท และเป้าหมายต่างๆ ตามจินตนาการ
  2. <GUIDE> คืออะไรก็ตามที่ช่วยให้ <HERO> ของเราสามารถเดินทางไปถึงปลายทาง <THE END> ได้โดยสะดวกและ ราบรื่น จะเป็นอะไรก็ได้
  3. <DANGERS> คืออันตรายหรืออุปสรรคต่างๆ ที่มีโอกาสพบเจอในการเดินทาง
  4. <TREASURE> คือรางวัลที่เราจะได้รับเมื่อเดินทางถึงเป้าหมาย
  5. <THE END> คือจุดสิ้นสุดที่เมื่อ <HERO> ของเราไปถึง ให้ตั้งคำถามต่อว่าเมื่อมาถึงจุดสิ้นสุดว่า “HERO ของได้พัฒนาอะไรขึ้นบ้าง” “แล้วตอนต่อไปจะเป็นยังไง” “ถ้าย้อนกลับไปเริ่มใหม่ได้ อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไร”

โดยใน Session นี้ ก่อนที่จะเริ่มทำ Hero’s Journey เรามีการเล่นเกมส์กันเล็กน้อย เพื่อสร้างบรรยากาศและปฏิสัมพันธ์กันในทีม แล้วค่อยอธิบายกติกาของ Hero’s Journey รวมถึงความหมายของ HERO, GUIDE, DANNGER, TREASURE และ THE END

หลังจากนั้นเราให้เวลาสมาชิกในทีมสร้าง Hero’s Journey ของแต่ละคน ทั้งหมด 15 นาที เสร็จแล้วก็จะผลัดกันเล่าเรื่องการเดินทางของวีรบุรุษทีละคนจนครบ โดยเราจะค่อยๆ เปิดการ์ดไปทีละใบระหว่างเล่าเท่านั้น และนี่คือผลลัพธ์ที่เราได้

Heroes in My Squad

<HERO>

เราพบว่าสมาชิกใน Squad มีความแฟนตาซีซ่อนอยู่ในตัว ชอบการผจญภัย มองการทำงานเป็นการเก็บประสบการณ์ มีความต้องการการเรียนรู้และเติบโต เป็นผู้กล้าที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่ง Hero แต่ละตัวสามารถสะท้อนตัวตนของคนๆ นั้นได้เป็นอย่างดี

  • บางคนชอบศึกษาค้นคว้า ก็สร้าง Hero เป็นนักวิทยาศาสตร์
  • บางคนก็ชอบดูอนิเมะ อยากให้ Hero ของเราเป็นพระเอกอนิเมะก็ไม่ผิดกติกา (ตรงนี้มีแปะรูปอ้างอิงด้วย ฮาๆ)
  • บางคนก็มองว่า Hero ของเขาทำงานกันเป็นทีม คอยช่วยเหลือกัน ก็มาเป็นปาร์ตี้เลย มีทั้ง Tanker, Healer และ Runner
Hero’s Guide

<GUIDE>

ในส่วนนี้ ทีมมีความเห็นคล้ายๆ กัน คือต้องการอาจารย์ (ผู้เชี่ยวชาญหรือพี่ๆ) ในการชี้แนะ ช่วยเหลือ และถ่ายทอดความรู้ รวมถึงอยากได้ความรู้จากคลังสมบัติ (Knowledge Sharing, Confluence, Document) เพื่อนำมาใช้ในการเดินทาง รวมถึงอยากได้เพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายเดียวกัน พึ่งพาได้ มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

<DANGER>

อันตรายที่ Hero ของเรามีโอกาสเจอ ไม่ว่าจะเป็น สัตว์ประหลาด สัตว์ร้าย สิ่งที่น่ากลัว ซึ่งสะท้อนถึงสิ่งที่ยังไม่รู้ งานใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน หรือความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามากระทันหันหลังจากที่เดินทางแล้ว (Start a Sprint) ซึ่งหาก Hero ของเรายังมีค่าประสบการณ์น้อย หากมาเจอศัตรูที่มีเลเวลสูงๆ ก็อาจทำให้การเดินทางมีปัญหาและติดขัดได้

ตรงนี้ก็จะเป็นแนวทางของทีมกันต่อไปว่าก่อนการเดินทาง (Start a Sprint) เราต้องทำความรู้จักศัตรูของเราให้ได้มากที่สุด (Sprint Planning) เพื่อให้การเดินทางของเราแต่ละรอบนั้นราบรื่นและรับรู้ล่วงหน้าว่าจะมีสัตว์ร้ายอะไรคอยเราอยู่

Hero’s Treasure

<TREASURE>

รางวัลที่ Hero ของเราอยากได้ ซึ่งมีหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายฟาร์ม 555+ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความรู้ เพื่อใช้เลเวลอัพต่อไป หรือ Hero บางคนก็มองว่ารางวัลที่ได้รับคือการได้เดินทางร่วมกับ Hero คนอื่นๆ

และสุดท้ายการเดินทางต้องมีค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นเรื่องเงินก็สำคัญไม่แพ้กัน 😂

Hero’s Danger

<THE END>

สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด หลังจากผ่านการเดินทาง Hero ของเราก็พบกับความสงบสุข พร้อมกับนำอันตรายที่พบเจอมาเป็นบทเรียน ศึกษาและพัฒนาวิธีการต่อสู้ให้ดีขึ้นในการเดินทางต่อๆ ไป จากนั้นก็พักผ่อน เติมพลัง เพื่อพร้อมลุยกับจอมมาร(งาน) ที่จะเจอในการเดินทางครั้งหน้าต่อไป…

สิ่งที่ได้จากการทำ Hero’s Journey

เป็นการเปิดปีใหม่ด้วยการลองทำอะไรใหม่ๆ บ้าง และนี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าทีมของเราได้มา

  1. Team Insight ถึงแม้ว่าจะเป็น Session สั้นๆ 1 ชั่วโมงนิดๆ แต่ทำให้เราได้รู้จักกับตัวตนของสมาชิกในทีมเรามากขึ้น ในมุมมองต่างๆ ที่เราไม่สามารถหาได้จากการทำงานเพียงอย่างเดียว
  2. Story Telling เราได้เห็นการปลดปล่อยจินตนาการออกมาอย่างเมามันส์ ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในเรื่องจริงๆ ฮาา
  3. Team Building เมื่อเราได้รู้จักกันมากขึ้นผ่าน Hero ของเรา ก็จะทำให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น เมื่อต้องออกเดินทาง(ทำงาน) ร่วมกัน ก็จะมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน
  4. Relax เป็นการผ่อนคลายท้าย Sprint อีกรูปแบบนึง เหมือนเป็นการพูดคุยกันเล่นๆ ไม่ต้องเอาปัญหามากางให้ปวดหัว นานๆ ทีมาทำอะไรแบบนี้ดูบ้างก็คลายเครียดดี

ปิดท้าย Hero’s Journey เหมาะกับทีม…

เป็นความคิดเห็นส่วนนะครับ ผมคิดว่าการทำ Futurespective เหมาะกับทีมที่มีการทำ Retrospective เป็นประจำอยู่แล้ว และอยากลองทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงเป็นทีมที่ค่อนข้างเปิดใจในการแสดงความคิดเห็น มีความเป็นกันเอง ในเคสของผม น้องๆ ในทีมค่อนข้างจะเป็นเด็กรุ่นใหม่พอสมควร

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต่างทีมต่างวาระ อย่าเชื่อผม ต้องลองดูครับ ^-^

สำหรับใครที่ชื่นชอบบทความนี้ อย่าลืมกดติดตาม Medium: KBTG Life เรามีสาระความรู้และเรื่องราวดีๆ จากชาว KBTG พร้อมเสิร์ฟให้ที่นี่ที่แรก

--

--