เดินทางไปสิงคโปร์ครั้งแรกกับงาน TOKEN2049
สวัสดีครับ ห่างหายไปนานกับการเขียนบทความ ครั้งนี้เราได้รับโอกาสดีๆ จากทาง KBTG Labs ในการไปเข้าร่วมงาน TOKEN2049 ซึ่งเป็น International Conference ด้าน Cryptocurrency และ Decentralized Finance (DeFi) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จัดขึ้นที่ Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 28–29 กันยายน 2565
ตัวงานประกอบไปด้วยเวทีหลักทั้งหมด 3 ที่ คือ Stage 1, Wemade Stage และ Trust EVM Stage ซึ่งมี Speaker หลายท่านมาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นและเล่าถึงงานที่ตัวเองทำ นอกจากนี้ภายในงานยังมีบูธต่างๆ มากมายจากหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Exchange เจ้าดังๆ บริษัททางด้าน Blockchain ต่างๆ เช่น Polkadot, Cardano, Tron และอื่นๆ รวมทั้งบริษัททางด้าน DeFi และ Enterprise Solution ต่างๆ
นี่ถือเป็นครั้งแรกสำหรับเราที่ได้ขึ้นเครื่องบินทีเดียวเลยล่ะ โดยเราใช้เวลาอยู่สิงคโปร์ทั้งสิ้น 4 วัน 3 คืน มาดูกันว่าการเดินทางครั้งนี้จะเป็นอย่างไร และมีความรู้อะไรน่าสนใจบ้างภายในงาน
วันแรก
เริ่มต้นด้วยการขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เช้า มุ่งหน้าสู่สนามบิน Changi Internation Airport เมื่อลงจากเครื่อง ก็เดินทางไปยังโรงแรม แต่ด้วยความที่ไม่เคยมาสิงคโปร์ พาลทำให้หลงทางเล็กน้อย หลังจากที่เช็คอินเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลากินข้าวเที่ยง ซึ่งเราไม่พลาด Tian Tian Hainanese Chicken Rice เจ้าดังที่หลายๆ แหล่งบอกว่าต้องลอง
มาบ้านเมืองสิงคโปร์ทั้งที เราขอแวะ Buddha Tooth Relic Temple หรือที่คนไทยรู้จักกันว่า วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว ไปไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลและดูพิพิธภัณฑ์สักหน่อย หลังจากนั้นก็เดินเที่ยว Chinatown เพื่อหาว่าจะกินอะไรในตอนเย็นดี
เป้าหมายที่แท้จริงในทริปสิงคโปร์ครั้งแรกนี้ พลาดไม่ได้แน่นอนสำหรับการไปถ่ายรูปที่ Landmark อย่างรูปปั้น Merlion และแน่นอนทุกคนก็มาถ่ายรูปเหมือนกัน (คนเยอะมากๆ)
วันที่สอง
เริ่มต้นเช้าวันใหม่กับการเดินทางไปยัง Marina Bay Sand โซน Expo ซึ่งเราเลือกเดินทางด้วยรถบัส (ใช้บัตร YouTrip แตะจ่ายได้เลยนะ ทั้งรถบัสและรถไฟฟ้า) เพราะคาดว่าน่าจะถึงได้ทันเวลา แต่ปรากฏวันนั้นดันมีการปิดถนนเนื่องจากงาน Singapore Grand Prix ทำให้รถบัสทุกคันไม่สามารถเข้าไปยังเขต Marina Bay ได้ สุดท้ายจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าแทน
หลังจากที่ไปถึงโซน Expo ที่ Marina Bay Sand จะเห็นว่าคนรอลงทะเบียนเยอะมากๆ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยแสตนบายพร้อมช่วยเสมอหากติดปัญหาหรือมีคำถามใดๆ ใช้เวลาสักครู่ในการลงทะเบียน รับบัตรห้อยคอและสายรัดข้อมือ เสร็จแล้วก็เข้างานกันได้เลย
ส่วนตัวแล้วสนใจหลายบูธเหมือนกัน ซึ่งจากที่ได้ไปคุยมา ทุกคนพร้อมที่จะตอบคำถามและแชร์ความรู้ เลยใช้เวลาไปประมาณนึงในการพูดคุยแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ยังใช้เวลาในการเข้าฟังหลาย Session ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเวทีหลักหรือเวทีรองต่างก็มีเนื้อหาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ถ้าเอามาสรุปลงในบทความนี้ก็น่าจะยาวเกินไป อย่างนั้นขอเลือกมาสัก 1 Session คือ The Future of Crypto: Navigating the Decade Ahead
Session นี้มีความน่าสนใจตรงที่ได้ฟังความคิดเห็นของบุคคลที่เป็นตัวแทนของธุรกิจ 3 ประเภท คือ Standalone Blockchain, MultiChain และ Centralized Exchange (CEX) โดยได้พูดคุยกันเกี่ยวกับอนาคตของ Crypto ว่าจะเป็นอย่างไร สรุปมุมมองที่น่าสนใจได้ดังนี้
- Stablecoin และ CBDC จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อให้ Regulator สามารถกำกับการใช้งาน Crypto Product จำเป็นที่จะต้องให้ความรู้กับ Regulator เพื่อช่วยในการวางแผนแนวทางในการกำกับดูแล
- ในมุมมองของ Blockchain ทั้ง 3 ท่านได้ให้ความเห็นต่างกัน ในด้าน Infrastructure บ้างก็บอกว่า MultiChain เหมาะสมกว่า บ้างก็ว่า Layer 1 สามารถทำแบบนั้นได้เหมือนกัน โดยให้ไปเน้นที่ Ecosystem ดีกว่า
- Stablecoin จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากใครๆ ก็สามารถสร้างบัญชีได้ฟรีโดยใช้ Open-Source Software เปรียบเทียบกับ Traditional Finance ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลบัญชีมากกว่า อย่างไรก็ตาม Regulator จะมาเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสิ่งเหล่านี้อยู่ดี
วันที่สาม
พอได้บทเรียนการเดินทางจากวันก่อนหน้า ทำให้การเดินทางในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยเราได้เดินทางจากโรงแรมไปยังสถานีรถไฟฟ้า แล้วเดินต่อไปยังโซน Expo ที่ Marina Bay Sand จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปยังสถานที่ Conference ก่อนเวลางาน
เมื่อมาถึง สิ่งแรกที่เจอเลยก็คือขบวนพาเหรดที่กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมทุกท่านตื่นตัวก่อนเริ่มงาน ตอนแรกก็สงสัยว่าพวกเขามาทำอะไรกัน แต่นับว่าเป็นสีสันที่ดีไปอีกแบบ สามารถลองดูที่วิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย
ในวันที่สองของงาน TOKEN2049 เรามีแผนที่จะไปเดินดูบูธต่างๆ ต่อจากเมื่อวาน รวมถึงพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายๆ โปรเจค และร่วมฟังสัมมนาสักหน่อย ซึ่งวันนี้ก็มีหลายๆ Session ที่น่าสนใจ และมีคนดังในวงการมากมายขึ้นเป็น Speaker ด้วย สำหรับ Session เด็ดของวันที่เราอยากนำมาแบ่งปันก็คือ The Emerging Social Economy: Digitizing Communities and Individuals
Session นี้ว่าด้วยเรื่องของ Social Economy และ Community เป็นหลัก มีเนื้อหาคร่าวๆ ดังนี้
- ความหมายของ Fan Token คือ Fungible Token ที่สามารถทำให้ผู้ถือ (Holder) ได้รับ Membership จากผู้สร้าง (Creator) หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของผู้สร้าง
- จะทำอย่างไรให้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย: อาจจะต้องมี Utility ต้องแสดงให้เห็นว่ามี Value สำหรับ Brand นั้นๆ
- ผู้ถือ Token ต้องการเสียงที่จะทำให้สามารถโหวตหรืออำนาจในการตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ รวมถึงต้องการความพิเศษในการถือ Token นั้นๆ เช่น Top Fan อยากถูกผู้สร้างจดจำได้ หรือสำหรับผู้สร้างในรูปแบบของ Sponsorship ก็อาจจะเป็น Exclusive Content
- Decentralized Autonomous Organization (DAO) มีไว้สำหรับการสร้างกลุ่มของผู้ถือ ซึ่งพวกเขาสามารถสนับสนุนผู้สร้าง เพื่อที่จะบรรลุสิ่งใดๆ สำหรับผู้สร้างคนนั้นๆ
วันสุดท้าย
หลังจากที่ได้พักผ่อนและบรรลุภารกิจหลักในการเข้าร่วม TOKEN2049 เราเริ่มชินกับการเดินทางโดยใช้รถบัสและรถไฟฟ้าแล้ว แต่ไม่ทันไรเราก็ต้องเตรียมตัวออกเดินทางเพื่อกลับบ้าน
ในวันนี้ไม่มีอะไรมาก เราเดินทางจากโรงแรมด้วยรถไฟฟ้าไปยังสนามบิน Changi โดยไม่ลืมที่จะแวะถ่ายรูปและเที่ยวชมห้างที่สนามบินหลังจาก Checkout ซึ่งหนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปหนีไม่พ้น Jewel Changi Airport ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้าและสวน โดยมีจุดเด่นคือน้ำตกตรงกลาง รวมถึงแวะซื้อของฝากเล็กน้อยก่อนขึ้นบิน และเดินทางกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย
สุดท้ายนี้
นี่ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เดินทางไปต่างประเทศ นอกจากความรู้ทางด้าน Cryptocurrency และ DeFi จากผู้เชี่ยวชาญต่างๆ แล้ว เรายังได้แนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ในการใช้งาน Crypto เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น แถมยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมการเป็นอยู่ของชาวสิงคโปร์ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่แปลกตา
ในการเดินทางครั้งนี้เราได้เก็บเกี่ยวอะไรหลายๆ อย่างเยอะมาก ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลย เราจะได้นำความรู้เหล่านี้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมหรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาให้กับทุกคนได้ใช้งานกันแน่นอน อยากให้ทุกคนรอติดตามชมกันนะครับ
สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์ดีๆ แบบนี้สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ KBTG ได้เลยที่ https://www.kbtg.tech/career