ไป Techsauce Global Summit 2022 ยังไงให้คุ้มตังค์

จากที่ไปงาน Techsauce Global Summit 2022 มาแบบไม่มีการวางแผนใดๆ ล่วงหน้า ผมรู้สึกใช้เงินกับเวลาไม่คุ้มค่าเสียเลย จึงกลับมาคิดดีๆ แล้วตัดสินใจลองวางแผนย้อนหลัง เผื่อมางานรอบหน้าจะได้รู้ว่าต้องแพลนยังไงถึงจะคุ้ม ใครที่อยากไปงานรอบหน้า สามารถใช้บทความนี้เป็นไกด์ช่วยแพลนได้นะครับ

จุดประสงค์

เริ่มแรกต้องวางจุดประสงค์การไปงานของเราให้ชัด โดยหลักๆ จะมีเป้าหมาย 2 แบบด้วยกัน

1. Contact หา Contact ใหม่
2. Content หาความรู้ตามเทรนด์

ช่วงเวลางาน

อย่างงาน Techsauce Global Summit รอบนี้จะจัดตั้งแต่ 10.00–21.00 น. แนะนำว่าให้ศึกษาแผนที่กับกำหนดการให้ดีๆ ว่า Session ที่เราสนใจอยู่ห้องไหน มีเหลื่อมกับอันอื่นที่เราสนใจมั้ย ต้องเผื่อเวลาเปลี่ยนห้องมากแค่ไหน

รูปแบบงาน

จากจุดประสงค์ที่เราวางตอนต้น ให้นำมาจับคู่กับรูปแบบงาน เพื่อช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น

1. Staff ที่เดินในงาน (Contact)
2. Exhibition Hall โฆษณาบริษัท (Contact)
3. Tech Showcase Stage โฆษณาบริษัท (Contact)
4. Vertical Stage พูดในหัวข้อต่างๆ (Content)
5. Workshop พูดและทำกิจกรรมในหัวข้อต่างๆ (Content & Contact)
6. Business Matching (Contact)
7. Main Stage พูดหัวข้อต่างๆ (Content)
8. Party & Concert (Contact)

Exhibition Hall / Main Stage / Vertical Stage

Party & Concert / Staff / Business Matching (CR: TechsauceTH Facebook)

จัดความสำคัญ & วิเคราะห์

1. Workshop (90 mins; break 30 mins): ช่วงรอเริ่มและทำกิจกรรมจะได้คุยกับคนใหม่ๆ แถมก่อนทำกิจกรรมจะมีการให้ความรู้ก่อนด้วย ได้ทั้ง 2 อย่าง คุ้มเวลาที่สุด
2. Main Stage (30–60 mins; break 5 mins): ดีกรีคนพูดดีที่สุด แถมนั่งในโรงหนังใหญ่
3. Vertical Stage(15–45 mins; break 5 mins): ใกล้เคียง Main Stage ขึ้นอยู่กับหัวข้อ
4. Exhibition Hall & Tech Showcase Stage & Business Matching & Party & Concert: พวกนี้แล้วแต่ความสนใจในการหา Contact เลย
5. Staff: แล้วแต่ว่าอยากจะรู้จักใคร

วางแผน

10.00 น. — ลงทะเบียนเข้างาน นี่แหละโอกาสดีสำหรับการคุยกับ Staff ไหลไปเรื่อยๆ

10.05 น. — เข้าไป Exhibition Hall & Tech Showcase Stage หาโอกาสคุยแลก Contact ไปเรื่อย

10.30–18.00 น. — Workshop, Main Stage & Vertical Stage ขึ้นอยู่กับความสนใจ โดยทั้ง 3 แบบจะเริ่มด้วยคุยกับ Staff เข้าไปเจอคนที่เข้าไปฟังเหมือนเรา ได้ความรู้และโอกาสชวนคุย Workshop จะต่างออกไปนิดนึงตรงที่มีกิจกรรมให้ทำด้วย แต่ระยะเวลาที่ใช้ก็จะนานกว่า

18.00 น. เป็นต้นไป — Exhibition Hall, Tech Showcase Stage, Business Matching, Party, Concert & Staff ค่อยๆ มาอัดกันตรงนี้

สิ่งที่ประมาทไม่ได้คือระยะทาง!

จากแผนที่ จะเห็นว่าสถานที่จัด Workshop ติดกับ Vertical Stage 1, 2 และ 3 ในขณะที่ Main Stage แยกมาอีกด้าน ติดกับ Vertical Stage 11 และ 12 โดยระยะเวลาที่ใช้ในการเดินจาก Workshop ไปยัง Main Stage จะอยู่ที่ประมาณ 5–10 นาที

เทียบระยะเวลาง่ายๆ ก็จะเป็น 1 Workshop = 2-3 Main Stage = 2-4 Vertical Stage

ดังนั้นผมแนะนำว่าควรยึดจากเวลาเป็นหลัก โดยเราต้องเลือกจากการใช้เวลาน้อยสุด ได้จำนวนเยอะสุด โอกาสได้หัวข้อมีคุณภาพดีสุด เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดี จนกว่าจะได้ฟัง

ลงลึกไปอีกนิด ถ้าตัดสินใจไม่ได้จริงๆ…

อีกเกณฑ์นึงที่เราอาจจะใช้ตัดช้อยส์ได้ คือ Speaker บางคนจะมีพูดใน Podcast หรือมีเขียนหนังสือเขียนบทความ ก็สามารถหาฟังหาอ่านได้จากทางอื่น ถึงหัวข้อจะต่างกัน แต่รากฐานคนเดียวกัน เพราะฉะนั้นอาจจะเลือก Session อื่นที่ชนแทน

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1. โทรศัพท์มือถือ
2. นามบัตร
3. ดินสอ/ปากกา
4. สมุดจด
5. ข้าวกล่อง หากอยากประหยัดเวลากลางวันมากๆ**

**ไม่จำเป็นถ้าเราชวนเพื่อนใหม่ไปกินด้วยกัน

ให้คะแนนดีกว่า ว่าจะเลือกไปฟังอันไหน

• สนใน Content = 1 คะแนน
• โอกาส Contact = 1 คะแนน (โอกาสเจอคนที่สำคัญทางธุรกิจหรืองาน = 2 คะแนน)
• Activity ให้ทำ = 2 คะแนน (ให้ความสำคัญในการทำมากกว่าการดูและฟัง)

สมมุติ

• ใช้เวลาพอกัน เทียบ Workshop (Content + Contact + Activity) 4 คะแนน = 4 x Vertical Stage (Content) = 4 คะแนน ถ้าเท่ากันก็ต้องกัดฟันเลือกว่าไปอันไหน
• ใช้เวลาพอกัน เทียบ Workshop (Content + Contact + Activity) 4 คะแนน > 3 x Main Stage (Content) = 3 คะแนน อันนี้เลือกไป Workshop เลย

ใช้หลักการนี้ไปหย่อนลง Excel แล้วเทียบ ทำเป็นแผนที่จะไป ก็จะประหยัดเวลาและใช้ได้คุ้มค่าที่สุดครับ หวังว่าเคล็ดลับนี้จะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

สำหรับชาวเทคคนไหนที่สนใจเรื่องราวดีๆแบบนี้ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ Product ใหม่ๆ ของ KBTG สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.kbtg.tech