ในยุค Digital Transformation เมื่อพูดถึงอาชีพสายไอทีมาแรง เพื่อนๆ หลายคนคงจะมีอาชีพ UX/UI Designer ติดอยู่ในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ไม่มากไม่น้อย วันนี้เลยอยากจะแนะนำ 5 คอร์สเพิ่มสกิลสำหรับสายอาชีพที่ผู้เขียนคัดมา ทั้งสำหรับ Designer, Non-Designer หรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการเสริมสร้างทักษะทางด้านนี้ จะมีคอร์สอะไรบ้าง มาเริ่มกันเลยค่ะ
1. Interaction Design
บอกเลยว่าเว็บ interaction-design.org เจ้านี้มีคอร์สให้เลือกหลากหลายมากจริงๆ สามารถเลือกเป็นแขนงที่เราสนใจเฉพาะด้านได้ ไม่ว่าจะเป็น Product Manager, UX Designer, UI Designer, Visual Designer, Marketer, User Researcher หรือ Executive โดยค่าสมัครสมาชิกจะตกอยู่ประมาณ $192 หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 6,000+ บาทต่อปี (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินช่วงนั้นๆ) สามารถเรียนได้ทุกคอร์สทุกหมวดหมู่ในนั้นเลยค่ะ ถ้าได้คะแนนตั้งแต่ 70% ก็จะได้รับใบ Certificate ที่การันตีว่าเรียนจบคอร์สนั้นๆ นำไปประกอบใน Profile ของเราใน LinkedIn ได้เลย
Design Thinking
คอร์สนี้จะได้เรียนรู้ตั้งแต่การสัมภาษณ์ผู้ใช้งานเพื่อทำความเข้าใจผู้ใช้งานจริงๆ เทคนิคในการเลือก Participant รวมทั้งขั้นตอนการหา Empathy, Define, Ideate (เทคนิคการหาไอเดีย), Prototype และการทำ Test
ถ้าสนใจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่อได้ที่นี่เลย
2. Coursera
Google UX Design Professional Certificate
หลักสูตรนี้จะรวมความรู้และสกิลเบื้องต้นสำหรับผู้สนใจทำงานด้านสาย UX Designer แบ่งออกเป็น 7 คอร์สย่อยๆด้วยกัน
- Foundations of User Experience (UX) Design
- Start the UX Design Process: Empathize, Define, and Ideate
- Build Wireframes and Low-Fidelity Prototypes
- Conduct UX Research and Test Early Concepts
- Create High-Fidelity Designs and Prototypes in Sigma
- Responsive Web Design in Adobe XD
- Design a User Experience for Social Good & Prepare for Jobs
สิ่งที่จะได้จากหลักสูตรนี้
- เข้าใจขั้นตอนการออกแบบ คอนเซ็ปต์เบื้องต้นของการทำดีไซน์ Empathize, ระบุ Pain Points, คิดหา Solutions (Ideate Solutions), สร้าง Wireframe ทำ Prototypes ทดสอบ และทำซ้ำๆ เพื่อทดสอบ Solution
- เข้าใจพื้นฐานของการทำ UX Research ศึกษาและเรียนรู้ถึงการทำ Research การสัมภาษณ์เบื้องต้น การทำ Usability Test การแปรผล และวิเคราะห์ข้อมูลจากการทำ Research
- สร้าง UX Portfolio ระดับมืออาชีพ
ถ้าเพื่อนๆ สนใจหลักสูตรนี้ สามารถทดลองเรียนฟรีได้ 7 วัน โดยผู้ที่เรียนจบหลักสูตรจะได้ใบประกาศจาก Google ไปประกอบในโปรไฟล์ด้วยค่ะ สนใจสามารถคลิกได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย
3. Udemy Online
User Experience Design Fundamentals
คอร์สนี้จะเน้นเกี่ยวกับทฤษฎี ให้เข้าใจว่า User Experience Design ที่ดีเป็นอย่างไร และทำไมถึงสำคัญ การ Apply UX กับ Business, การกำหนด Scope, การวาง Strategy, การเลือกฟีเจอร์ที่ควรจะนำมาพัฒนาต่อหรือตัดออก ความคุ้มค่าในการพัฒนาในมุมมองที่เชื่อมกันระหว่างโลกธุรกิจกับการออกแบบ รวมทั้งแนะนำการทำ A/B Testing
สำหรับผู้สนใจ สามารถไปตามกันต่อได้เลยที่ลิงก์นี้ค่ะ https://www.udemy.com/course/user-experience-design-fundamentals/
4. Figma
หลังจากที่ได้เรียนรู้ทฤษฎีเกี่ยวกับการทำ UX/UI มากันบ้างแล้ว อยากหาเครื่องมือ (Tool) สักตัวสำหรับการออกแบบ ไม่รู้จะเลือกเครื่องมืออะไร เราขอแนะนำ “Figma” เครื่องมือด้านการออกแบบที่มาแรงขึ้นแท่นอันดับ 1 ในปี 2022 ที่สามารถออกแบบทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ใช้ออกแบบโลโก้ ทำพรีเซ็นต์ หรือทำ Artwork ต่างๆ ได้ง่ายๆ เป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ UX/UI Designer ทั่วโลกเลือกใช้
จุดเด่นของ Figma คือการที่สามารถทำให้ UX/UI Designer ในทีม ทำงานด้วยกันแบบพร้อมๆ กันได้ สามารถใช้งานได้ง่ายในรูปแบบ Browser-based และยังมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมายที่ช่วยให้การส่งต่องานระหว่างทีมทำได้ง่ายขึ้น นับว่า Tool ตัวนี้ได้คิดค้นมาเพื่อเหมาะกับการทำ UX/UI Interface โดยเฉพาะเลยค่ะ สนนราคาก็มีแบ่งเป็นแพ็กเก็จให้เราเลือกใช้ สำหรับผู้ที่ต้องการทดลองเบื้องต้นก็มีเป็นแพ็กเก็จ Starter ให้ลองเลือกใช้ฟรี
Figma Tutorial
นอกจากนี้ยังมี Tutorial สอนวิธีการใช้ Figma ซึ่ง Tutorial นี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ มีการแบ่งหัวข้อเป็นเรื่องๆ ตั้งแต่การ Explore ไอเดีย แนะนำการใช้ Tool และการทำ Prototype สำหรับตัวคลิปก็ไม่ยาวเกินไป มีทำเป็นตัวอย่างให้ดูในคลิปเลย สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดในลิงก์นี้ได้เลย
5. Skooldio
แนะนำคอร์ส UX Writing จาก Skooldio สอนโดย ธิชาวดี มีสมพืช
(Senior UX Writer, NocNoc)
“เขียนอย่างไรให้โดนใจลูกค้า และเขียนอย่างไรให้น่าไว้วางใจ” เป็นคำโปรยของหลักสูตรนี้ เห็นแค่นี้ก็ดูน่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ หลักสูตรน่าสนใจตรงที่เราจะได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานของ UX Writing ตั้งแต่คำถามพื้นๆ อย่าง UX Writing คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร ความแตกต่างระหว่าง UX Writer และ Copywriter หลักจิตวิทยาที่ผลกับการออกแบบข้อความ แถมมีตัวอย่าง UX Writing Patterns ที่พบเห็นบ่อยมาให้เรียนรู้กัน พร้อมแบบฝึกหัดหลังจากเรียนจบคอร์ส ให้เราได้ทบทวนความรู้ที่เราได้เรียนมาด้วยค่ะ สนใจสามารถเข้าไปดูคอร์สพรีวิวกันก่อนได้ที่นี่
อ่านเสร็จแล้ว อย่ารีรอ ปักหมุดคอร์สที่สนใจ แล้วเริ่มเรียนกันเลยค่ะ ลุย!!
สำหรับชาวเทคคนไหนที่สนใจเรื่องราวดีๆแบบนี้ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ Product ใหม่ๆ ของ KBTG สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.kbtg.tech