A Step Ahead Forever: Powered by KBTG

Kris B
KBTG Life
Published in
3 min readJan 30, 2020
เวทีแถลงวิสัยทัศน์ KBank Vision 2020: A Step Ahead Forever

ตลอดเวลา 74 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยนำหน้าคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพียง 1 ใน 2 ธนาคารที่รอดจากยุควิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง หรือการทำ Digital Transformation ก่อนหน้าตั้งแต่ปี 2007 เมื่อก้าวสู่ปีที่ 75 ธนาคารกสิกรไทยยังคงยืนหยัดที่จะนำหน้าหนึ่งก้าวเช่นเคย KBTG (Kasikorn Business-Technology Group) รับหน้าที่สำคัญในการผลิตนวัตกรรมและระบบเทคโนโลยีการเงินล้ำสมัยให้กับธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและรอดพ้นในยุคดิสรัปชันอย่างในปัจจุบันนี้ เพราะในปี 2020 เรามองว่า Bank is the New FinTech

นี่คือวิสัยทัศน์ที่ทั้ง 4 คณะกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และพี่กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน KBTG ได้ขึ้นเวทีแถลงในงาน KBank Vision 2020 ที่สามย่านมิตรทาวน์เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม 2563 งานนี้จัดขึ้นเป็นปีที่สองภายใต้คอนเซ็ปต์ A Step Ahead Forever โดยบริเวณหน้างานได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆให้สื่อมวลชนและผู้ร่วมงานได้สนุกสนานกับไบโอเมตริกซ์ Facial Recognition ที่ทาง KBTG ได้พัฒนาขึ้นกันด้วย เช่น ตู้ Identity You ที่แสกนใบหน้าทำนายบุคลิค ลักษณะ ท่าทาง เพื่อสรรหาของที่ระลึกถูกใจ และตู้ Identity Smile ที่คำนวณรอยยิ้มบนใบหน้าออกมาเป็นเงินบริจาคสมทบทุนให้กับมูลนิธิส่งเสริมผู้พิการทางสมองและมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ (พิการทางการได้ยิน) มูลค่าเริ่มต้นที่ 8 บาท ยิ่งยิ้มสวย ยิ้มเยอะ ยอดบริจาคก็จะยิ่งสูง

ตู้ Identity You ที่แสกนใบหน้าเพื่อสรรหาของที่ระลึกถูกใจ

เมื่อถึงเวลา งานแถลงวิสัยทัศน์ก็เริ่มต้นขึ้น ประเดิมด้วยพี่เปิ้ล คุณขัตติยา อินทรวิชัย กับยุทธศาสตร์ใหม่การรับมือกับยุคดิจิตอลดิสรัปชันกับ 8 Transformation Journeys ยกระดับองค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของธนาคารและอำนาจของลูกค้า จากนั้นพี่เปิ้ลส่งเวทีต่อให้กับคณะกรรมการอีกสามท่าน ได้แก่ พี่ต๊อก คุณปรีดี ดาวฉาย กับการบริหารจัดการความเสี่ยงและดูแลข้อมูลของลูกค้าประหนึ่งทรัพย์สินล้ำค่า (Protect your Future) พี่ปั๋ม คุณพัชร สมะลาภา กับการผสานช่องทางที่ลูกค้าใช้บริการให้เป็นประสบการณ์เดียวกันอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Service Experience) และพี่บี๋ คุณพิพิธ เอนกนิธิ กับการตอบโจทย์การทำธุรกรรมระหว่างประเทศด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรนานาชาติ (The New Era of Asia) ซึ่งเป้าหมายทั้งหมดนี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีอย่าง KBTG

“คนทำคือยืนอยู่ตรงนี้ครับผม”

พี่กระทิง แม่ทัพใหญ่มากคารมของเรากล่าวว่า หน้าที่ของ KBTG คือการ “Transform without losing our soul” หรือการยกเครื่องระบบปฏิบัติการและระบบภายในให้เป็นดิจิทัลโดยที่ไม่สูญเสียความน่าเชื่อถืออันเป็นจิตวิญญาณของธนาคาร สำหรับบทบาทใหม่ในการเป็น FinTech ของธนาคารกสิกรไทยนั้น KBTG มีแผนขับเคลื่อนการทำแกนดิจิทัลของธนาคารใน 3 ปีข้างหน้าทั้งหมด 3 เรื่องหลักๆ คือ

การวางรากฐานสถาปัตยกรรมและโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีให้ทันสมัย (Modernized Architecture & Infrastructure)

วางรากฐานใหม่ให้มั่นคงพร้อมสู้คู่แข่งและหลุดพ้นจากโลกเก่าด้วยการใช้ Hyper and Hybrid Multi Cloud ระบบคลาวด์ที่ประสานงานอย่างรวดเร็ว Security and Data Privacy Uncompromised ระบบการจัดเก็บปลอดภัยรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และ Infrastructure-as-Code โครงสร้างจากโค้ดเพื่อการปรับเปลี่ยนอย่างคล่องตัว สามสิ่งนี้จะเอื้อให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถรองรับลูกค้า 20 ล้านคน ธุรกรรม 12,000 ล้านรายการ และประมวลข้อมูล 50 เทระไบต์ต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับ Game of Thrones ถึง 22 ตอนเลยทีเดียว!

สร้างเครื่องจักรผลิต AI และนวัตกรรมใหม่ๆ (AI and Innovation Factory)

แรงบันดาลใจจาก Ant Financial สู่การยกเครื่องแพลตฟอร์ม Data และเครื่องจักรผลิต AI โมเดลใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ทุกด้าน ผสานระบบการทำงานทั้งหมดเอาไว้ด้วยกัน พร้อม Innovation Runway แพลตฟอร์มที่เปิดให้คนของ KBTG และธนาคารลงมือสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างรวดเร็ว

API รับการเชื่อมต่อระหว่างพันธมิตรและบริการธนาคาร (Open Banking API)

KBank ได้เพิ่มการเปิดรับการเชื่อมต่อ API เป็น 100 Interfaces ให้กับพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 50 บริษัท ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน Ecosystem ของบริษัทนั้นๆได้อย่างเรียบเนียน เสริมสร้างประสบการณ์และตอบโจทย์ด้านการเงินของลูกค้าครบในทุกช่องทาง

KBank’s New Digital Core, Powered by KBTG

ด้วยแกนดิจิทัลใหม่นี้ พี่กระทิงตั้งเป้าไว้ว่า KBTG จะทำสิ่งที่เหนือชั้นกว่าปัจจุบันให้เหนือความคาดหมายขึ้นไปอีก อาทิ Beyond Banking การสร้างธนาคารอัจฉริยะที่เรายังคงพัฒนาต่อเนื่องจากปีที่แล้ว Beyond AI ที่ KBTG มองว่า AI อาจจะเป็นนวัตกรรมที่เก่าเกินไปแล้ว จึงมีการค้นคว้า Deep Tech ในเรื่อง IoT และเทคโนโลยี 5G อื่นๆ อย่าง Thai NLP (Thai Natural Language Processing) ระบบ AI อ่านภาษาไทยที่ KBTG วิจัยร่วมกับ NECTEC และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือตู้ Facial Recognition ต่างๆที่กล่าวไปข้างต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะเล็กเกินไปสำหรับเราแล้ว พี่กระทิงชี้ว่าเราต้องมองไกล Beyond Thailand ออกไปอีก นำธงชาติไทยของเราไปปักที่ประเทศจีนเสียเลยด้วยการจัดตั้ง KaiTai Tech ที่เมืองเสินเจิ้น หรือที่เรียกกันว่าเป็น Silicon Valley ของจีน ตัวบริษัทจะมีลักษณะคล้ายๆ KBTG วางแผนเจาะ Chinese Tech Ecosystem และจ้าง Developer ชาวจีนมากกว่า 300 คนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับตลาดจีน โดยพี่กระทิงจะควบตำแหน่งบริหาร KBTG และ KaiTai Tech ไปด้วยกัน

ประเด็นสุดร้อนของงานวันนี้ดูจะหนีไม่พ้นช่วงท้ายของงานที่พี่กระทิงประกาศตั้ง KASIKORN X อย่างเป็นทางการ KASIKORN X หรือเรียกสั้นๆว่า KX เป็นบริษัท S-Curve Factory ที่มุ่งผลิตยูนิคอร์น FinTech รายแรกของประเทศไทย จริงๆแล้วชื่อนี้ได้มีการจดทะเบียนแบบเงียบๆเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 แล้ว แต่พี่กระทิงเผยว่าอยากจะรอให้ทุกอย่างพร้อมก่อนประกาศออกไปจริงๆ ซึ่ง KX จะมีโมเดลธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ จึงทำให้รูปแบบแตกต่างจากธนาคารกสิกรไทยและ KBTG

KASIKORN X, The New S-Curve Factory

ก่อนจบงาน พี่กระทิงยอมรับว่าปี 2020 จะเป็นอีกปีที่เหนื่อยสำหรับคนไทย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ย่อท้อแต่อย่างใด “สำหรับเรา KBTG และธนาคารกสิกรไทย เราบอกว่าต่อให้ทำดีที่สุดแล้ว มันก็ยังดีไม่พอหรอกถ้าคุณทำดีเท่าแค่เมื่อวาน Do it better, the best and beyond yesterday”

“As a country, let’s pioneer together for the better”

ถ้าคุณอ่านจบแล้วอยากร่วมเดินทางไปกับเรา สมัครมาได้เลยที่ https://www.careers-page.com/kbtg หรือที่ recruitment@kbtg.tech

--

--