Agile From Anywhere With KBTG: Pt.2 จะอยู่ภาคไหน ก็ทำงานจากต่างจังหวัดได้

ตามสัญญาในพาร์ทแรก จากที่เราได้ไปพูดคุยกับพี่ตะวันที่เมกามาแล้ว ในบทความนี้เราจะกลับมาพูดคุยกับชาว KBTG ที่ไทยกันต่อ หลังจากที่มีประกาศ WFH พนักงานบางส่วนของเราได้เดินทางกลับไป WFH จากบ้านที่ต่างจังหวัดยาวๆ จนถึงตอนนี้ บรรยากาศการทำงานจะแตกต่างจากตอนที่อยู่กรุงเทพหรือนนทบุรี (ที่ตั้งตึก KBTG) มากแค่ไหน และรู้สึกยังไงตอนมีประกาศนโยบาย Agile From Anywhere เรามาฟังเรื่องราวจาก 3 พนักงาน 3 ภาค ได้แก่ คุณภัทร Agile Coach จากเชียงใหม่ คุณโอม BA ประจำทีมที่ดูแลระบบ K-Cash Connect Plus จากระนอง และคุณป๊อป สมาชิกทีม People Experience & Integration จากจันทบุรีกันค่ะ

Author’s Note: เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน แนะนำให้ใส่อินเนอร์ประกาศชื่อจังหวัดแบบมิสแกรนด์ไปด้วย

ภัทร / Agile Coach / เชียงใหม่

ตอนที่มาเชียงใหม่ไม่ได้คิดว่าจะมา WFH ยาวค่ะ คิดว่าจะแค่กลับมาหาครอบครัวไม่กี่วัน แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดที่มีความรุนแรงขึ้น และไฟลต์ที่จองไว้โดนยกเลิก เลยอยู่เชียงใหม่ยาวๆ ไปเลยค่ะ บรรยากาศการทำงานที่นี่แตกต่างออกไปเลยค่ะ อากาศดี ได้เห็นวิวภูเขาทุกวัน ช่วยให้เพลิดเพลินและผ่อนคลายดี ช่วงที่โควิดระบาดหนักๆ ก็รู้สึกว่าโชคดีที่อยู่เชียงใหม่ เพราะมีความเสี่ยงในการติดโควิดน้อยกว่าเยอะ ห้องที่นั่งทำงานที่เชียงใหม่ก็เงียบสงบมากๆ ทำให้โฟกัสกับการทำงานได้ดีกว่า อีกทั้งยังเป็นการบังคับให้ต้องหาทางว่าจะทำยังไงให้งานออกมาดีแม้จะไม่ได้เจอหน้ากัน เช่น ในการสอน Agile ต้องปรับเวิร์คช็อปจากเดิมแบบ Face to Face เป็นออนไลน์ รวมถึงหาวิธีทำให้คอร์สน่าสนใจ คนเรียนพร้อม Participate กับเราแม้ว่าจะเป็นออนไลน์

ตอนต้นปี 2020 ที่ KBTG ประกาศว่าจะให้ทำงานแบบ WFH ก็นึกภาพไม่ออกว่าเป็น Agile Coach จะทำงาน WFH ยังไงดีเพราะไม่ได้เจอหน้ากันจริงๆ การทำงานน่าจะลำบาก แต่หลังจากที่ได้ทำงานแบบ WFH มาจนเกือบ 2 ปีแล้ว ประทับใจมากที่ชาว KBTG สามารถปรับตัวให้ทำงานแบบ WFH ได้ดีมาก จนตอนนี้เกิด Paradigm Shift หรือเปลี่ยน Mindset ไปแล้ว และคิดว่าการทำงานแบบ WFH เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

ส่วนตัวคิดว่านโยบาย Agile From Anywhere จะช่วยดึงดูดคนให้อยากมาร่วมงานกับ KBTG มากขึ้นค่ะ มีน้องๆ ชาวเชียงใหม่ในสายไอทีหลายคนมาถามว่าที่ KBTG รับคนมั้ย แล้วต้องเข้าออฟฟิศตลอดมั้ย พอบอกว่าตอนนี้ KBTG มี Agile From Anywhere แล้ว ทุกคนสนใจอยากมาสมัครเลยค่ะ เพราะ KBTG ก็มีชื่อเสียงที่ดีที่ทุกคนอยากมาทำงานด้วยอยู่แล้ว แต่น้องๆ ชาวเชียงใหม่หลายคนเขาชอบชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่เชียงใหม่มากว่า Agile From Anywhere น่าจะทำให้น้องๆ สนใจและมีโอกาสได้ร่วมงานกับ KBTG มากขึ้นค่ะ

โอม / Business Analyst / ระนอง

ผมเพิ่งจะเริ่มงานได้เมื่อกลางปี 2020 พอดีกับช่วงที่ทุกคนทำงานกันแบบ WFH ยอมรับว่าช่วงแรกรู้สึกเคว้งอยู่พอสมควรครับ เนื่องจากทำงานเป็นที่แรกด้วย แต่เมื่อผ่านไปสักระยะ ในทีมเริ่มมีการแบ่งสลับกันเข้าออฟฟิศ ทำให้ผมได้เริ่มรู้จักและสนิทกับพี่ในทีมจริงๆ จนมาเมื่อช่วงต้นปี 2021 ตอนนั้นก็ WFH อยู่ที่คอนโดแถวแจ้งวัฒนะ ผ่านไปสักพัก ช่วงเดือน พ.ค. เริ่มรู้สึกเหงาๆ เบื่อๆ เนื่องจากอาศัยอยู่คนเดียว จึงไม่ค่อยได้เจอใคร ไม่ค่อยได้ออกไปไหน และส่วนใหญ่สั่งข้าวผ่านแอปมาทาน ทำให้ตัดสินใจที่จะกลับบ้านตั้งแต่เดือน มิ.ย. แต่ด้วยสถานการณ์ กว่าจะได้กลับจริงๆ ก็เดือนส.ค. ครับ

บรรยากาศที่ต่างจังหวัดค่อนข้างสบาย ปลอดโปร่งกว่า แต่จุดต่างจริงๆ คือการได้กลับมาอยู่กับครอบครัว มีคนอยู่ด้วย คุยด้วย ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น กิจวัตรก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากครับ ตื่นมาทำงาน มื้อเช้าและมื้อเที่ยงก็จะมีแม่คอยทำอาหารให้ทาน ช่วงเย็นบางวันก็ออกไปเดินหรือวิ่งหน้าบ้านสูดอากาศ มื้อเย็นบางวันจะทำอาหารร่วมกับแม่และน้องชาย ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่เป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้ดีครับ ส่วนไฮไลท์คือได้ประหยัดค่าใช้จ่ายประจำวันจากการกลับมาทำงานที่บ้าน ประหยัดเวลาในการเดินทางด้วย ทำให้มีเวลาส่วนตัวหรืออยู่ร่วมกับครอบครัวมากขึ้นครับ

รู้สึกว่า Agile From Anywhere เป็นนโยบายที่ดีครับ เพราะเรามีอิสระที่จะเลือก การเปลี่ยนบรรยากาศสำหรับผมก็ช่วยในเรื่องของไอเดียและความกระตือรือร้นพอสมควรครับ บางทีอยู่สภาพแวดล้อมเดิม สิ่งที่คิดหรือรู้สึกก็จะวนอยู่แบบเดิม เหมือนเราได้อยู่ในที่ชอบๆ ตลอดเวลา *หัวเราะ* วันไหนอยากทำงานที่ไหนก็ได้

ป๊อป / People Experience & Integration / จันทบุรี

ตอนที่ประกาศ WFH รอบ 2 ตอนนั้นกำลังเตรียมงาน New Joiner Bootcamp ตัดสินใจเลื่อนงานตอนห้าทุ่มของคืนวันนั้นเลย เนื่องจากห่วงความปลอดภัยของพนักงาน ทันทีที่ออฟฟิศประกาศให้ WFH เราก็เตรียมเก็บของแล้วกลับมาทำงานที่บ้านเลย ตอนกลับมา WFH ช่วงแรกมีรายได้เสริมเนื่องจากช่วงนั้นเป็นหน้าผลไม้พอดี ก็ได้นำผลไม้ที่สวนมาขายออนไลน์ในช่วงวันหยุด วันธรรมดาก็แยกห้องทำงาน มีการคุยอัพเดตกับทีมและวางแผนการทำงานตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สำหรับวันที่ไม่มีการประชุม การทำงานระหว่างวันจะค่อนข้างยืดหยุ่น ทั้งนี้มีสิ่งที่ทำเป็นประจำคือการทำมื้อเที่ยงและเย็นทานเอง

WFH ถือว่าเป็นช่วงที่พิสูจน์ในหลายๆ เรื่อง ทั้งสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้ Experience เปลี่ยนตาม เราก็ต้องตามให้ทันและคิดว่าทำยังไงพนักงานถึงจะทำงานได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน รวมถึงพนักงานใหม่ที่เข้ามา พวกเขารู้สึกอย่างไรและต้องการอะไรเป็นพิเศษ เราจึงได้ทำการบ้านมากขึ้น และรู้สึกว่าเราได้เติบโตไปพร้อมๆ กับ KBTG ทั้งยังรู้สึกว่าเป็นเวลาเกือบทั้งชีวิตที่เราไม่เคยได้อยู่บ้านนานขนาดนี้มาก่อน ได้รู้จักนิสัยและได้คุยกับน้องมากขึ้น ได้ใกล้ชิดดูแลพ่อแม่ ได้ใช้เวลากับครอบครัว ได้เล่นกับสุนัข เพราะก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตตัวคนเดียวในกรุงมาตั้งแต่ช่วงมัธยม

พอได้ข่าวเรื่อง Agile From Anywhere รู้สึกว่านี่คือองค์กรที่เรามองหา องค์กรที่เข้าใจพนักงาน ป๊อปเชื่อว่าวิถีการทำงานต่อจากนี้มันจะเปลี่ยนไป ไม่มีกฎ หรือนโยบาย One Size Fit All ทุกคนสามารถเลือกใช้ชีวิตทั้งส่วนตัวและการทำงานได้ ตราบใดที่งานมาพร้อมกับคุณภาพ หลังจากนี้ต่อให้ไม่มีโควิด เราก็ยังสามารถกลับมาทำงานที่บ้านได้ในช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่แค่เยี่ยมบ้านในช่วงวันหยุด

ก่อนจะจากกันไป เราได้ถามทั้ง 3 คนว่าอยากทำงานแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่าง WFH อย่างเดียวเลย หรือแบบ Hybrid สลับเข้าออฟฟิศบ้าง ซึ่งทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบอย่างหลังมากกว่า

ภัทร: อยากกลับเข้าออฟฟิศบ้างเป็นครั้งคราวค่ะ อยากจะใส่เสื้อ One KBTG และเข้าไปในออฟฟิศเพื่อจะได้เจอหน้าเพื่อนๆ บ้าง

โอม: ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็อยากสลับเข้าออฟฟิศบ้างครับ เพราะแม้ว่าช่วง WFH จะทำให้เราสามารถโฟกัสกับลักษณะงานส่วนตัวที่ใช้ความคิดได้ดี แต่สำหรับงานที่ต้องการประสานงานหรือระดมความคิด ถ้าไปประชุมแบบเจอหน้ากันน่าจะมีประสิทธิภาพกว่า

ป๊อป: ส่วนตัวรู้สึกว่าสถานที่ทำงานก็ยังเป็นสถานที่รวมใจของทุกคน ในช่วงที่เราสนุกหรืออยากพูดคุยกันทั้งในทีม การได้เจอกันทำให้เข้าถึงอีกฝ่ายและเข้าใจกันได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าวันไหนไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากัน เราก็ WFH และประชุมกันผ่านระบบออนไลน์ได้ค่ะ

สำหรับใครที่ไม่ได้อยู่ KBTG เผอิญผ่านเข้ามาอ่านและอยากมีชีวิตการทำงานที่ดีไซน์ได้แบบนี้ อย่ารอช้า สมัครกันมาได้เลยที่ www.kbtginspire.com ค่ะ (ขายเก่งงงงง)

สำหรับชาวเทคคนไหนที่สนใจเรื่องราวดีๆแบบนี้ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ Product ใหม่ๆ ของ KBTG สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.kbtg.tech