KBTG Apprentice มหากาพย์ฝึกงาน และทำงานระหว่างเรียน 1 ปี

Pornchananbalee
KBTG Life
Published in
3 min readOct 24, 2023

สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ Internship และการเป็น KBTG Apprentice ที่ KBTG ในตำแหน่ง Research Engineer ของทีม NLP ค่ะ ก่อนอื่นเลยขอแนะนำตัว เราชื่อนุ๊ก จบการศึกษาหมาดๆ จากคณะ IT สาขา Data Science ที่ KMITL นะคะ

ทำไมสนใจและอยากเข้าร่วมโครงการฝึกงานที่ KBTG?

ช่วงที่เรียนปี 3 ทาง KBTG ได้เปิดวิชาเลือก Practical Project ที่คณะฯ โดยมีพี่ๆ จาก KBTG เข้ามาเป็นอาจารย์สอน รูปแบบการเรียนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ

  1. ส่วนที่เรียนเนื้อหา Data Science แบบทฤษฎี
  2. ส่วนของการลงมือทำโปรเจค และมีการนำเสนอโปรเจคของเราให้พี่ๆ กรรมการช่วยกันคอมเม้นต์

ความสนุกของหลักสูตรนี้คือการได้ลองคิดหัวข้อโปรเจคเกี่ยวกับ Data Science โดยพี่ๆ เมนเทอร์จะคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับโปรเจคตามหัวข้อที่เราเลือก ซึ่งหัวข้อที่เราเลือกทำคือ Toxic Comment Classification เป็นโปรเจค ทางด้าน Natural Language Processing (NLP) ความรู้สึกหลังเรียนวิชานี้คือเราได้รับประสบการณ์การทำงานที่ดีมาก ได้ฟีดแบ็คจากพี่ๆ ทุกคนเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง ทำให้รู้สึกประทับใจในพี่ๆ KBTG ทั้งบรรยากาศการเรียนการสอน การให้คำแนะนำ ลองจินตนาการว่าถ้าได้ฝึกงานที่นี่จะเป็นยังไงกันนะ 🤔🤔 แล้วตอนนั้นเป็นช่วงกำลังหาที่ฝึกงานตามข้อกำหนดของคณะพอดี จึงได้ทำการสอบถามไปยัง KBTG และสมัครฝึกงานในโครงการ KBTG Internship Bootcamp 2022

ประสบการณ์การสัมภาษณ์ครั้งแรกเป็นยังไง?

KBTG Internship Bootcamp เป็นการฝึกงานครั้งแรกของเรา เท่ากับว่านี่คือการสัมภาษณ์ครั้งแรกเลย โดยเป็นการสัมภาษณ์ออนไลน์ผ่าน MS Teams

รูปตอนได้เมลสัมสัมภาษณ์ ดีใจมากก❤️

สำหรับการสัมภาษณ์ ช่วงแรกจะเริ่มจากการแนะนำตัวเอง เราชื่ออะไร เป็นใครมาจากไหน เล่าประสบการณ์ว่าเคยโปรเจคทำอะไรมาบ้าง สามารถใช้เครื่องมือหรือโปรแกรมอะไรได้บ้าง ถัดมาเป็นการถามตอบเชิง Technical เกี่ยวกับสิ่งที่เราอธิบายไปในช่วงแรก เช่น ทำไมต้องใช้โมเดลตัวนี้ โมเดลตัวนี้ดีกว่าอีกตัวยังไง ท้ายสุดเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับ Soft Skill เช่น ทำไมต้องรับเราด้วย ข้อดีของเราคืออะไร เมื่อสัมภาษณ์เสร็จ ทางพี่ HR จะก็ทำการติดต่อกลับมาแจ้งผล ซึ่งผลของเราก็คือผ่านจ้าา 👏🎖

ประสบการณ์ฝึกงานครั้งแรกในชีวิต!

พอผ่านด่านสัมภาษณ์ สถานีถัดไปก็แอบกังวลว่าการฝึกงานจะเป็นยังไงกัน #เราต้องรอด(ไหมนะ)🥺 ปีเราจะฝึกงานแบบออนไลน์ 100% โดยวันแรกจะต้องเข้าไป KBTG เพื่อไปรับแล็ปท็อปของบริษัทและบัตรพนักงาน แถมได้เจอเพื่อนทีมอื่นๆ ด้วย ทุกคนก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้เรา

หลังจากที่รับคอมแล้ว ก็แยกย้ายเข้าทีม ซึ่งทีมที่เราฝึกงานนั้นใช้ Gather Town ในการติดต่อกัน ได้คุยกับพี่ๆ ในทีมก็รู้สึกเกร็งน้อยลง 555 เพราะพี่ๆ พยายามชวนคุยเพื่อเป็นการ Ice Breaking คุยเล่นกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาแจกโปรเจค ที่เราได้มาคือ Spam Detection การตรวจจับสแปมนั่นเอง 🔍👽 การทำงานจะเป็นลักษณะ 1 คนต่อ 1 โปรเจค การฝึกงานที่นี่จะค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถออกแบบไอเดียในโปรเจคของเราเองได้เลย เวลาเข้า-ออกงานคือ 08.30–17.30 และจะมี Daily Meeting ทุกเช้าตอน 09.30 เพื่ออธิบายว่าเมื่อวานทำอะไรมาบ้าง เจอปัญหาอะไรไหม ติดตรงไหนไหม อะไรประมาณนี้ และทุกวันศุกร์จะมี Knowledge Sharing สำหรับแชร์เทคนิคต่างๆ ที่จะมีวิทยากรมาให้ความรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill จัดหนักจัดเต็ม

ด้วยระยะการฝึกงานเกือบ 2 เดือน ความรู้สึกกังวลในตอนแรกนั้นค่อยๆ หายไป เราได้นำความรู้จากที่เรียนมาประยุกต์ใช้ในการทำโปรเจค ทั้งยังได้เก็บเกี่ยวความรู้และทักษะต่างๆ เรารู้สึกว่า KBTG เป็นองค์กรที่มีความพร้อมในการรับเด็กฝึกงานมาก สำหรับใครที่ฝึกโครงการ KBTG Internship Bootcamp ก็จะได้รับเกียรติบัตรเข้าร่วมโครงการด้วยน้า 👏👏

แล้วที่บอกว่าฝึกงาน 1 ปีคืออะไร?

ตลอดระยะเวลาที่ฝึกงาน ความรู้ที่สั่งสมมาก็ได้เอามาใช้จริงๆ ตอนนี้ ไหนจะช่วงฝึกงานที่ได้รับความรู้และประสบการณ์ต่างๆ จากพี่ๆ ในทีม NLP ทำให้เรารู้สึกว่ามาถูกทางแล้ว นี่แหละงานที่เราชอบ!! ในตอนนั้นเองที่คณะมีทำโครงการร่วมกับ KBTG ในชื่อ KBTG Kampus Apprentice ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ฝึกงานเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี!! เป็นการฝึกที่ยาวนานมากก แต่ตอนนั้นดันเป็นช่วงที่เรากำลังจะเปิดเทอม เลยรู้สึกกังวลมากๆ ว่าถ้าเรียนและฝึกงานพร้อมกัน เราจะรอดไหมเนี่ย แต่ก็คิดในใจ โอกาสมาอีกรอบแล้วนะ จะไม่ลองสมัครจริงเหรอ😄🧐

เงื่อนไขของโครงงานนี้คือต้องมีหัวข้อโปรเจคที่อยากทำ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะส่งหัวข้อโปรเจคจบ เพราะได้นำโปรเจคจบไปทำตอนฝึกงานเลย แต่ว่าโปรเจคจบเราไม่ได้เกี่ยวกับ NLP นะสิ ถ้าจะฝึก เราก็อยากทำโปรเจค NLP สุดท้ายตัดสินใจส่งหัวข้อใหม่ กลายเป็นว่าต้องทำ 2 โปรเจคใหญ่ๆ พร้อมกัน #เราต้องรอด 🤨 เราทำการยื่นหัวข้อพร้อมเรซูเม่ หลังจากนั้นก็รอพี่ HR ติดต่อกลับมา

การสัมภาษณ์อีกครั้ง ✌️

การสัมภาษณ์ครั้งนี้ค่อนข้างจะตื่นเต้นน้อยลงกว่าครั้งแรก ซึ่งเทคนิคการเตรียมตัวของเราคือทบทวนโปรเจคที่ตัวเองเคยทำมาทั้งหมด และสรุปเนื้อหาว่าโปรเจคนี้ได้อะไร ความผิดพลาด จะพัฒนาอะไรต่อได้บ้าง ทำให้เราเรียนรู้อะไร และเวลาสัมภาษณ์ที่รอคอยก็มาถึง การสัมภาษณ์จะคล้ายๆ กับครั้งแรก ช่วงแรกเราก็แนะนำตัวเอง อธิบายโปรเจคต่างๆ จากนั้นจะเป็นการถามตอบข้อสงสัยต่างๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเชิง Technical ช่วงสุดท้ายจะเป็นคำถามทั่วไป เช่น เคยฝึกงานที่นี่มาแล้ว ทำไมถึงสมัครมาอีก การสัมภาษณ์ครั้งนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี รอผลสัมภาษณ์จากพี่ HR ประมาณ 2–3 วันก็ทราบผลว่าเราผ่านน 👏🤩

ทำงานที่ไม่ใช่ฝึกงาน ตั้ง 1 ปีนานไปไหม แล้วคุ้มค่าไหม? 🤔

มาดู Benefit ที่เราได้จากการเข้าโครงงานนี้กันเลย

  1. ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานจริงกับผู้เชี่ยวชาญในภาคธุรกิจ
  2. สามารถนำโปรเจคจบมาทำได้
  3. มีค่าตอบแทนแต่ละเดือนจำนวน 1x,xxx บาท
  4. เข้าทำงานกับ KBTG ได้ทันทีหลังจบการศึกษาแบบไม่ต้องผ่านกระบวนการทดลองงาน

เรื่องของความคุ้มค่า เรารู้สึกว่าการฝึกงาน ไม่ใช่สิ! อย่าเรียกว่าการฝึกงาน ต้องเรียกว่าการทำงานจริง เป็นส่วนหนึ่งของทีม NLP ที่ KBTG ระยะเวลากว่า 1 ปีที่นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะเรามักจะเห็นว่าเวลาบริษัทต่างๆ เปิดรับสมัครพนักงาน มักจะเขียนว่า ‘ต้องการรับคนที่มีประสบการณ์’ ซึ่งเด็กมหาลัยจบใหม่จะไปหาประสบการณ์การทำงานจากที่ไหนกันนะ? เราเลยคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราในฐานะนักศึกษาจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ รวมถึงโอกาสจะได้ร่วมงานกับ KBTG ในอนาคต 🤩🤩🤩

บรรยากาศการฝึกงาน

Day 1 อีกครั้ง ช่วงเช้าจะต้องเข้าไป KBTG เพื่อไปรับคอมของบริษัท โดยครั้งนี้เราได้เครื่อง Macbook Pro มาใช้ในการทำงาน 🤩 บรรยากาศช่วงเช้าไม่ค่อยมีอะไร ส่วนใหญ่เป็นการแนะนำองค์กร ตอนบ่ายเป็นการแยกย้ายเข้าทีม การฝึกงานรอบนี้ก็ใช้ Gather Town ในการติดต่อหากันเช่นเคย ในส่วนของเวลาการเข้า-ออกงานคือ 08.30–17.30 และจะมี Daily Meeting ทุกเช้าตอน 09.30 นอกจากนั้นยังมีอีเว้นต์ที่นัดเหล่า Intern มาร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนๆ ตำแหน่งอื่นอีกด้วย

Internship กับ KBTG Kampus Apprentice ต่างกันยังไง?

ความแตกต่างที่เราเห็นได้ชัดคือ KBTG Kampus Apprentice จะเป็นการลงมือทำงานจริง เป็นโปรเจคจริงของทีมที่เราสังกัดอยู่ การทำงานเหมือนกับพี่ๆ ในทีมทุกคน ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานกับทีมงานจริง โดยโครงการ KBTG Apprentice จะมีการ Progress โปรเจคกับพี่ Senior ทุกๆ 1- 2 สัปดาห์แล้วแต่ช่วง เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเรา ทำงานเป็นยังไงบ้าง จะต่างจาก Internship ที่มีระยะเวลาในการฝึกงานประมาณ 2 เดือน ซึ่งพี่ๆ จะคิดโปรเจคแยกต่างหาก เพื่อให้ครอบคลุมกับระยะเวลาในการฝึกงานของเราเท่านั้น

Last Day ของ KBTG Apprentice ก่อนจะก้าวเข้าสู่การเป็น Research Engineer ที่ KBTG — ความรู้สึกหลังฝึกงานจบทั้ง 2 โครงการ

การที่เราได้เข้ามาฝึกงานและทำงานในฐานะ KBTG Apprentice รวมๆ แล้วประมาณ 14 เดือน ทำให้เราสามารถพัฒนาตัวเอง เพื่อทำงานร่วมกับ KBTG ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยากบอกว่าประสบการณ์และคำแนะนำที่ได้รับจากพี่ๆ ที่ KBTG มันเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก แถมยังทำให้เราได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ KBTG ด้วย โปรเจคที่เราได้รับมอบหมายก็ถูกนำมาใช้งานจริง ปัจจุบันเราไม่ได้เป็น KBTG Apprentice แต่เป็นพนักงานคนนึงของ KBTG แล้วค่ะ ณ วันที่เราเริ่มงานในฐานะพนักงานเต็มตัว เราแทบไม่ต้องปรับตัวในการทำงานกับพี่ๆ เลย สามารถทำงานต่อเนื่องจากงานเดิมได้ในทันที และไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ผ่านทดลองงาน เพราะระยะเวลากว่า 1 ปีที่พี่ๆ ได้ส่งมอบความรู้ Coaching และประเมินผลงานกันมาตลอด มันเพียงพอที่จะการันตีว่าเราสามารถเป็นพนักงานของ KBTG ได้จริงๆ ค่ะ

สุดท้าย ถ้าตอนนั้นไม่ได้ยื่นทั้ง 2 โครงการคงแอบเสียดายมาก เพราะจะไม่มีทางได้รับประสบการณ์ที่สนุกแบบนี้แน่นอน ต้องขอบคุณพี่ๆ ในทีม NLP ทุกคนที่มอบโอกาสต่างๆ ให้มากมายขนาดนี้ค่ะ

ใครที่กำลังมองหาที่ฝึกงาน หรือทำงานระหว่างเรียนเพื่อ Upskill แบบเร่งสปีดให้กับตัวเอง เราอยากแนะนำที่นี่ KBTG เป็นทางเลือกที่ดีสุดๆ สำหรับใครที่อยากให้รีวิวเรื่องอื่นหรือมีคำถามใดๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นต์กันเข้ามาได้นะคะ

สำหรับใครที่ชื่นชอบบทความนี้ อย่าลืมกดติดตาม Medium: KBTG Life เรามีสาระความรู้และเรื่องราวดีๆ จากชาว KBTG พร้อมเสิร์ฟให้ที่นี่ที่แรก

--

--