KBTG Internship Bootcamp แบบคนไม่มีประสบการณ์ทำ Test Automation มาก่อน

Test Automation จะยากไหมนะ?

ถ้าจะสมัคร KBTG Internship Bootcamp ต้องเจออะไรบ้าง?

สวัสดีทุกคน เราชื่อ ครีมส์ เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาคอมพิวเตอร์ ชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ต้องหาประสบการณ์การฝึกงานในช่วงซัมเมอร์ช่วงเดือน มิ.ย.- ก.ค. ในตอนที่กำลังหาที่ฝึกงานกันอย่างหัวหมุนนั้น เราก็ได้พบกับ KBTG Internship Bootcamp จากเพื่อนที่ส่งมาให้สมัครกัน ในประกาศมีหลายสาขาให้เลือก ก็มีความลังเลว่าจะเลือกอะไรดี? ให้สอดคล้องกับที่เราเรียนอยู่ แล้วเราก็สะดุดตากับ Test Automation เลยเริ่มหาข้อมูลว่าสิ่งนี้คืออะไร ต้องทำอะไรบ้าง สุดท้ายก็เลือกทั้งๆ ที่เราก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรียน เกี่ยวกับการทำ Test Automation มาก่อนเลย

ถ้าไม่เคยมีประสบการณ์แล้วทำไมถึงสมัคร Test Automation ล่ะ

คิดว่าเป็นคำถามที่ทุกคนสงสัยแน่ๆ เพราะตอนนั้นเราเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน 555 แต่จากการที่เราไปหาข้อมูลมา ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เราเรียนสามารถนำมาใช้ได้ แถมยังเป็นความรู้ใหม่นอกหลักสูตรสำหรับเรา ซึ่งอันนี้แหละเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เราตัดสินใจเลือก เราได้รู้จักการทำ Test ครั้งแรกตอนที่เรียนทำเว็บไซต์แล้วต้องมีการทำ Test Case ต่างๆ ตอนนั้นเราก็รู้สึกเอนจอย พร้อมค้นพบว่าหน้าที่ในการการตรวจสอบคุณภาพงานว่าออกมาเป็นอย่างไร มีจุดบกพร่องตรงไหนรึเปล่า ถือเป็นส่วนที่สำคัญมากเหมือนกัน นั่นทำให้เราเลือกที่จะฝึกงานกับ KBTG ในสาขา Test Automation

การฝึกงานโดยไม่มีความรู้เชิงลึกเป็นไปได้ไหม แล้วต้องเตรียมตัวแบบไหน

ช่วงแรกเราก็แอบกังวลว่าจะตามทุกคนทันได้ไหม หรือเราต้องอ่านตรงไหนเพิ่มเป็นพิเศษ ดังนั้นเพื่อเตรียมพร้อมในการฝึกงานนี้ เราเริ่มหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ก่อน โดยการสัมภาษณ์ของเราในปีนี้เป็นแบบออนไลน์ มีการให้พรีเซนต์ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำ Test Automation ซึ่งเราก็ได้ทำการค้นคว้าจากกูเกิลเพื่อเติมเต็มความรู้ในส่วนนั้น ระหว่างสัมภาษณ์ก็จะมีการถามเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับความเห็นของเราต่อสิ่งที่เราพรีเซนต์ ซึ่งเราจะได้ความรู้มากมายจากการเตรียมตัวตรงนี้

การสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดี แต่สถานีต่อไปก็กังวลว่าการฝึกงานนั้นจะเจออะไรหินๆ ไหมนะ ในปีนี้การฝึกของเราเป็นแบบออนไลน์ 100% โดยวันแรกจะต้องเข้าไป KBTG เพื่อไปรับแล็ปท็อปของบริษัท และที่ต้องไปรับก็เพราะทุกอย่างต้องดำเนินการผ่านคอมพิวเจอร์ที่กำหนดเท่านั้น (ซีเคียวสุดๆ) การฝึกงานจะเริ่มจากการแนะนำบริษัทและพี่ๆ ในทีม ซึ่งที่ KBTG มีการจัดแบ่งนักศึกษาฝึกงานเป็นบ้านๆ หรือแผนกต่างๆ จากนั้นก็เข้าสู่โหมดปรับพื้นฐานความรู้ ติดอาวุธให้ก่อนไปใช้งาน ช่วงสัปดาห์แรกจะเป็น Training Course โดยทางพี่ๆ จะเตรียมคลิปวีดีโอไว้สอนในหลายๆ ส่วน และแนะนำว่าตำแหน่งหรือแผนกไหนควรจะเลือกเรียนวิชาใดบ้าง เพื่อให้เรามีความรู้เพียงพอในการไปทำงานในตำแหน่งนั้นๆ ถ้าหากสงสัยหรือติดตรงไหนก็ถามพี่ๆ ได้ตลอด :)

มาถึงตรงนี้ เราสิ่งที่เคยกังวลว่าไม่มีความรู้มาก่อนจะทำได้ไหมนั้นหายไปเยอะพอสมควรเลย ✨

วิชาที่เรียนของเรา ยกตัวอย่างเช่น การใช้ Robot Framework ทั้งในการเขียนเพื่อใช้งานกับ API หรือการเขียนเพื่อใช้ทดสอบหน้า UI ของเว็บไซต์ โดยมี Workshop ท้ายคาบให้ได้เราลงมือเขียนเอง เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เพราะไม่มีอะไรเข้าใจได้ดีเท่ากันลงมือปฎิบัติแล้ว ถูกไหม 😁

ในช่วงท้ายของสัปดาห์แรกๆ พี่ๆ จะมาช่วยรีวิวโค้ดที่เราทำใน Workshop โดยเป็นการจัด Meeting ให้แต่ละคนแชร์ปัญหาที่พบเจอใน Workshop พร้อมบอกวิธีแก้ไข หากเพื่อนคนอื่นเจอปัญหานี้ในอนาคต จะได้นำไอเดียและวิธีการแก้ต่างๆ มาช่วยแก้ไขกัน

ในขณะเดียวกัน พี่ๆ ก็จะมารีวิวและแนะนำว่าเราสามารถพัฒนาหรือเขียนโค้ดให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ได้อย่างไรบ้าง ให้เราสามารถเขียนโค้ดได้ดีขึ้นไปอีก ซึ่งเราได้ความรู้จากพี่ๆ ที่มีประสบการณ์หลากหลายรูปแบบและหลากหลายความคิดจากการแชร์ไอเดียแบบนี้ ดีมากๆ เลย

ในหลักสูตรเองก็มีมากกว่าการเขียนโค้ด

เราจะได้เรียนเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานขององค์กรที่เรียกว่า K-Agile การใช้เครื่องมือหลายๆ อย่างที่เราอาจจะไม่เคยแตะหรือทดสอบเอง และหลักการทางความคิดขององค์กรที่หาจุดแข็งจุดอ่อนมาพัฒนาต่อยอด

ทาง KBTG มีทีมงานที่เรียกว่า KBTG Academy ที่ช่วยจัดการเรียนการสอนเนื้อหาต่างๆ ให้กับเรา โดยในระหว่างการฝึกงานก็มีคอร์สให้เรียนสด เป็น Meeting แทบจะทุกวันศุกร์ โดยเนื้อหาจะมีหลากหลายประเภทสลับกันไป ยกตัวอย่างเช่น การสอนใช้เครื่องมือของ Test Automation การสอนในแนวคิดแบบ Design Thinking หรือบาง Meeting ก็จะเป็นการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เราสนิทกันมากขึ้น

เราได้รับรู้และสัมผัสถึงการให้ความสำคัญในการส่งมอบความรู้ เพื่อเพิ่มความสามารถของคนที่มาฝึกงานในองค์กรได้แบบว้าวมากตลอดทั้งโครงการ

หลังจบ Training Course ในสัปดาห์แรกแล้วเป็นไงบ้าง

หลังจากที่อาทิตย์แรกผ่านไป ก็จะเข้าสู่การฝึกงานกับแผนกต่างๆ ซึ่งพี่ๆ ก็ดูแลเราเป็นอย่างดี โดยมีทั้งการบรีฟ พูดคุยมอบหมายงาน ให้โปรเจคไปทำ สอนภาพรวมว่าทีมของเราทำงานกันอย่างไร มีระบบการทำงานยังไง เช่น จะมีการอัพเดตในตอนเช้าของทุกๆ วัน ที่เรียกว่า Daily Update โดยเราจะมาแลกเปลี่ยนกันว่าเมื่อวานเราทำอะไร วันนี้จะทำอะไร มีติดขัดอะไรบ้าง ทั้งช่วยสร้างความคุ้นเคยให้การทำงานอย่างเป็นทีมเดินไปอย่างราบรื่น ซึ่งอันนี้เห็นด้วยมากๆ เพราะเป็นด่านแรกที่จะให้ทีมทำงานบรรลุเป้าหมายในอนาคต อีกทั้งยังมีการให้เอกสารเกี่ยวกับความรู้ต่างๆ ที่เราอาจจะจำเป็นต้องใช้ในการทำงานเพิ่มเติม

ถ้าใครได้รับโปรเจคแล้วมีปัญหา ก็สามารถถามพี่ที่ดูแลได้แทบจะตลอดเวลา เราเองก็ถามบ่อยเหมือนกัน (เกรงใจจัง) แต่พี่ก็ตั้งใจสอน และตั้งใจตอบคำถามเรามากๆ ทุกครั้งเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะติดปัญหาที่หาทางออกไมได้ พี่ๆ ใจดีกันมาก

อีกอย่างที่มีประโยชน์มากๆ คือคลิปวีดิโอที่เคยใช้เรียนก่อนหน้านี้ เรายังสามารถกลับไปเรียนได้อยู่เรื่อยๆ แม้จะหมดสัปดาห์ Training Course ไปแล้ว พอมีเวลาว่างก็เข้าไปดูซ้ำ ช่วยให้เราแก้ปัญหาและเข้าใจได้ดีทีเดียว 🙂

โปรเจคหรืองานที่ได้รับ ผลออกมาเป็นไงบ้าง

เราได้ฝึกงานในหน่วย Digital Lending ซึ่งเป็นด้านที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ พี่ๆ มอบหมายให้เรากับเพื่อนออกแบบโปรแกรม Test ที่เกี่ยวข้องการประเมินสินเชื่อ (ขออนุญาตไม่ลงในรายละเอียดนะคะ) โดยเรากับเพื่อนได้คนละหัวข้อกัน แม้จุดประสงค์และผลลัพธ์เพื่อยืนยันคุณภาพงานจะคล้ายคลึงกันในหลักการของการ Test แต่สุดท้ายเราก็ทำออกมาไม่เหมือนกัน เพราะเส้นทางหรือรูปแบบการออกแบบนั้นมีได้หลากหลาย เรากับเพื่อนมีการปรึกษาหาข้อมูลกันเป็นระยะๆ ติดขัดบ้างก็ถึงมือพี่ๆ (อีกแล้ว) สุดท้ายก็สำเร็จลุล่วงไปได้แบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ยังๆๆๆ ไม่จบแค่นี้ เราต้องเตรียมพรีเซนต์ประกอบการทำงานนี้ด้วย เพราะอย่างที่บอกข้างต้นว่าแนวคิดในการออกแบบการ Test มีได้หลากหลาย จึงเป็นโอกาสที่ดีที่พี่ๆ จะเข้ามาช่วยดู แชร์ประสบการณ์และวิธีการรับมือต่างๆ ให้ฟัง ซึ่งดีมากๆ

สรุปว่าการฝึกครั้งนี้เราได้อะไรบ้าง

ส่วนตัวแล้วเราคิดว่า KBTG เป็นองค์กรที่มีความพร้อมในการรับฝึกงานมาก แม้เราจะไม่มีความรู้เชิงลึกก็สามารถมาฝึกได้ เพราะเขามีการเตรียมสื่อการสอนให้เหมาะกับงานของแต่ละแผนก มีการเตรียมบุคลากรเพื่อซัพพอร์ตและสามารถสอนงานได้จริง และจากการที่ได้เทรนมา เราได้ทั้งความรู้ใหม่ๆ ได้เห็นแนวคิดในการทำงาน ประสบการณ์ที่นำมาแชร์กัน นับว่าเป็นช่วงเวลามีค่าที่ได้มาอยู่ที่นี่ แม้เป็นเวลาสั้นๆ

เราคิดว่าถ้าใครมีพื้นฐานในการเขียนโปรแกรมก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อยอดการทำ Test Automation เพราะหัวใจหลักของการทำ Test บางทีก็ไม่ใช่การเขียนโค้ดให้ออกมาดีที่สุด เพอร์เฟ็คที่สุด แต่เป็นการทำความเข้าใจจุดประสงค์ในเรื่องที่จะทดสอบให้ดี นำไปสู่การเตรียมข้อมูลในการทดสอบที่ถูกต้องเหมาะสม การเข้าใจ Flow ทีต้องการทดสอบ คาดหวังผลลัพธ์อะไร ผลลัพธ์ที่ได้ถูกต้องตามจุดประสงค์ไหม วิธีการที่เช็คนั้นเช็คใช้ได้จริงๆ รึเปล่า นี่อาจจะเป็นหัวใจของมันมากกว่า เพราะเราคือคนที่จะตรวจเช็คทุกอย่าง หาข้อบกพร่อง และทำให้สมบูรณ์ก่อนที่จะนำไปใช้จริง จึงถือได้ว่า Test Automation ก็สำคัญไม่น้อยกว่าแผนกอื่น และการฝึกงานกับ Test Automation ในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก

ใครที่มองกำลังมองหาที่ฝึกงานอยู่หรือคิดไม่ออกว่าจะฝึกงานอะไรดี อยากแนะนำว่าให้ใส่ KBTG ไว้ในลิสต์ต้นๆ เลย โดย KBTG Internship Bootcamp จะมีการรับสมัครช่วงปลายปีของทุกปี ตั้งตารอได้เลย รับรองว่าจะได้ความรู้กันไปแน่นๆ เต็มกระเป๋ากันแบบจุกๆ แน่นอน ✨

สำหรับชาวเทคคนไหนที่สนใจเรื่องราวดีๆแบบนี้ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ Product ใหม่ๆ ของ KBTG สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.kbtg.tech