New Year Gift ของขวัญพิเศษ สำหรับคนพิเศษ

MyPomme
KBTG Life
Published in
2 min readDec 26, 2020

ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ใครหลายคนคงกำลังมองหาของขวัญที่ถูกใจเพื่อมอบให้กับคนพิเศษกันอยู่ ของอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ที่มีค่าคู่ควรกับคนพิเศษคนนั้นของคุณ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว สามี ภรรยา ลูกๆ หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง เชื่อว่าเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับคนหมู่มากเพราะไม่รู้จะซื้ออะไรดี???

ขอเท้าความก่อนว่าเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสไปอบรมหลักสูตร New Leadership Skill ซึ่งบรรยายโดย อาจารย์เรือรบ (จิณณ์ณัฏฐ์ พรหมนุรักษ์) ในเนื้อหาของหลักสูตรนี้มีส่วนหนึ่งที่อาจารย์ได้กล่าวถึงเรื่อง Lead with Love ไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม และสิ่งนี้เองสามารถนำมาใช้ได้ทั้งกับชีวิตเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว อาจารย์เรือรบได้บอกว่า “การให้ของขวัญแก่ใครซักคนที่เค้าสำคัญสำหรับคุณ ไม่จำเป็นต้องให้ของเป็นชิ้นเป็นอันเสมอไป ของขวัญที่เราสามารถให้ได้นั้นสามารถให้ได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน”

ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนจึงขออนุญาตนำเรื่องของขวัญ Lead with Love จาก อาจารย์เรือรบมาให้อ่านกัน เผื่อเป็นไอเดียในการมอบของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้สำหรับผู้อ่านทุกคน

อย่างแรกคือ TOUCH หรือ สัมผัส นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสด้วยมือ ตบบ่า โอบไหล่ กอด หรือการจุมพิตเบาๆ ล้วนถ่ายทอดความรู้สึกได้มากมายหลายอย่างเลยทีเดียวเชียว

ในครอบครัวของคนไทยแท้ 100% อย่างเราๆ หลายคนคงจะห่างเหินจากการสัมผัสมากๆ โดยเฉพาะผู้เขียนเอง จำได้ว่าตอนเด็กๆ นั้น น้อยครั้งมากที่ครอบครัวจะมีการกอดกันด้วยความรักใคร่ ผู้เขียนเองเติบโตมากับผู้ใหญ่ นั่นก็คือคุณย่าที่เป็นคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต บอกตรงๆ ว่าตอนเด็กนั้นเราโหยหากอดจากคุณย่ามาก แต่คงจะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับท่านเพราะสังคมไทยเราไม่ถนัดในเรื่องการสัมผัสเท่าไหร่นัก การแสดงออกเรื่องความรักจากท่านจึงเป็นการเลี้ยงดู อบรม และสั่งสอน มากกว่าความรักด้วยการสัมผัส นั่นจึงทำให้เราตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าสำหรับลูกๆ ตัวน้อยของเรา ไม่ว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการ แม่อย่างเราก็จะกอดด้วยความรักใคร่ ให้เขารู้สึกและจดจำความอบอุ่นนี้ไว้นานเท่านาน

เรื่องสัมผัสนี้ไม่ใช่เพียงแค่คนในครอบครัวเท่านั้นที่จะมอบให้กันได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพื่อน พี่ หรือเป็นหัวหน้าของใครสักคน คุณก็สามารถมอบสัมผัสนี้ให้กับเขาได้เช่นกัน ลองนึกดูว่าในวันที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย แค่หัวหน้ามาแตะบ่าของคุณเบาๆ และส่งสายตาให้กำลังใจกับคุณ แค่นี้คุณก็คงจะมีแรงทำงานถึงเช้าแล้ว… ใช่มั้ยล่ะ?

อย่างที่สอง คือ Gift หรือ ของขวัญ ไม่ว่าจะราคาถูกหรือราคาแพง แต่ถ้าคุณให้ด้วยใจ คุณค่าก็จะส่งไปถึงคนรับไปอย่างแน่นอน

สำหรับผู้เขียนเอง การเลือกซื้อของขวัญให้คนเป็นเรื่องที่ยากมาก แค่ของขวัญซื้อไปจับฉลากปีใหม่กับที่ทำงานยังใช้เวลาเลือกนานแสนนาน บอกเลยว่าเป็นคนที่ไม่มีทักษะทางด้านนี้จริงๆ แต่กับบางคนดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เหมือนเขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ เคยลองถามเพื่อนๆ ที่เหมือนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการหาซื้อของขวัญว่าตอนไปซื้อมีไอเดียอะไรอยู่ในใจ ทำไมถึงเลือกของชิ้นนั้นๆ คำตอบเขาง่ายมาก เขาบอกว่าโดยปกติแล้วคนซื้อมักจะคิดแต่เพียงว่า เขาต้องการซื้ออะไรให้คนรับ แต่บางครั้งเราลืมคิดไปว่า ผู้รับต้องการอะไร แต่… แค่นั้นยังไม่พอ เราควรทำการบ้านด้วยว่า คนรับคนนั้นมีความชอบเกี่ยวกับอะไร งานอดิเรกคืออะไร กำลังมองหาของชิ้นไหนอยู่ หรืออะไรที่เป็นความต้องการในชีวิตช่วงนั้นพอดี พอฟังแล้วก็รู้สึกว่าจริงอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ ยกตัวอย่าง เมื่อเราซื้อของขวัญให้ลูก เมื่อก่อนเราคิดแค่เพียงว่า ของขวัญชิ้นนี้มีประโยชน์อะไรกับลูกบ้าง เคยซื้อหนังสือเด็กสักชุดนึงให้กับเขา มี 10 กว่าเล่มในหนึ่งชุด ภาพสวย สีสันดึงดูด เนื้อหามีประโยชน์ คิดไปเองว่าถ้าลูกได้แล้วต้องดีใจแน่ๆ แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันมอบให้เขา ลูกเห็นของขวัญก็อุตส่าห์ทำท่าดีใจ แต่ก็แค่จับๆ มาเปิดดู จนถึงทุกวันนี้ยังไม่ยอมเอามาเปิดอ่านเลยแม้แต่เล่มเดียว แต่กลับกันเมื่อพ่อซื้อเลโก้ให้ แม่อย่างเราไม่อยากจะเชื่อว่า นอกจากเขาจะดีใจมากๆ แล้ว เขายังใช้เวลากับของสิ่งนี้แบบจริงจังมาก นั่งต่อเลโก้ได้อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าถ้าแม่ไม่บอกให้กินข้าวหรือไล่ไปนอนได้แล้ว เขาก็คงจะนั่งต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ นั่นเป็นบทเรียนอีกชิ้นว่าเราลืมสนิทว่าลูกเรากำลังต้องการอะไร ของขวัญที่ให้ไปสนองความต้องการของแม่อย่างเราล้วนๆ

อย่างที่สาม คือ Words หรือ คำพูด แน่นอนว่าคำพูดหวานๆ ใครๆ ก็อยากฟังทั้งนั้น แต่สำหรับบางคนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพูดคำพูดดีๆ ที่ผู้ฟังอยากฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายแมนๆ อย่างใครหลายๆ คน

แต่ว่าการให้ของขวัญด้วยคำพูดนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคำพูดหวานๆ หรือการบอกรักสำหรับคู่รักเสมอไป ไม่ว่ากับใครก็ตาม คุณสามารถให้สิ่งนี้ได้เช่นกัน คุณภรรยาที่ทำกับข้าวให้คุณสามีทานอยู่ทุกวัน แต่ถ้าวันนี้คุณสามีจะพูดกับคุณภรรยาไปว่า ขอบคุณนะที่ทำกับข้าวให้กินทุกวัน แค่นี้ภรรยาคุณก็หัวใจพองโตแล้ว หรือสิ้นปีหัวหน้าจะบอกกับลูกน้องว่าขอบคุณนะที่ลุยงานหนักด้วยกันมาทั้งปี แค่นี้ลูกน้องคุณก็หายเหนื่อย พร้อมลุยงานต่อในปีถัดไปอย่างแน่นอน หรือคุณจะบอกกับเพื่อนซี้คู่ใจของคุณว่าขอบใจนะที่แกยอมฟังเรื่องบ่นของชั้นมาตลอดทั้งปี หรือแม้กับลูกตัวน้อยๆ ของคุณ ถึงแม้จะดื้อขนาดไหน แต่เราก็เชื่อว่าลูกตัวน้อยนั้นยังรอคำพูดดีๆ จากคุณส่งต่อให้เขาอยู่ “ขอบคุณนะครับ ที่เป็นกำลังใจให้แม่ในทุกๆ วัน”

สำหรับเรื่องคำพูดนี้ ยิ่งถ้าไม่ได้เป็นคำพูดที่คุณพูดกันอยู่บ่อยๆ รับรองว่าคนฟังต้องมีน้ำตาคลอ ตื้นตันใจกับสิ่งที่คุณมอบให้เขาไปอย่างแน่นอน

อย่างที่สี่ คือ Service หรือ การบริการ ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้มีอาชีพบริการ แต่คุณก็สามารถให้สิ่งนี้กับคนพิเศษได้เช่นเดียวกัน และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งของขวัญที่วิเศษมากๆ

สำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ทานกับข้าวสำเร็จรูปทุกมื้อ ถ้าครั้งนี้คุณจะลองมาทำอาหารอร่อยๆ ให้ครอบครัวคุณทาน น่าจะเป็นมื้อที่สร้างความประทับใจไม่ใช่น้อย หรือคุณสามีจะบริการคุณภรรยาด้วยการบริการทำงานบ้านทุกอย่างให้หนึ่งวันเต็มๆ แค่นี้เขาก็น่าจะดีใจจนน้ำตาไหล หรือกับคุณพ่อคุณแม่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้าน ลองบริการนวดคลายปวดเมื่อยให้เขาดูบ้าง รับรองว่าเค้าอิ่มเอมใจแน่นอน

การกระทำดีๆ ไม่ว่าจะให้กับใคร คนรับย่อมมีความสุขอยู่แล้ว

อย่างที่ห้า คือ Quality Time หรือ เวลาที่มีคุณภาพ ยิ่งในยุคสมัยนี้ ผู้เขียนมองว่าเวลาคือสิ่งที่หายากที่สุดเลยแหละ

คุณเคยเป็นไหม? บางครั้งในครอบครัวนั่งกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันก็จริง แต่ทุกคนนั่งก้มหน้าดูแต่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง หรือบางครั้งเรากำลังพูดคุยกันอยู่ แต่ผู้ฟังกลับกำลังตั้งหน้าตั้งตาดูโทรศัพท์ หรือกำลังทำอะไรอยู่สักอย่าง แล้วคุณเกิดความรู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นกับคุณจริงๆ สักหน่อย หรือคุณเคยมีนัดกับลูกๆ แต่สุดท้ายคุณติดงานสำคัญจริงๆ ทำให้คุณไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกคุณได้ หรือคุณตั้งใจจะลาเพื่อพาคุณพ่อคุณแม่ไปหาหมอ แต่ก็โดนงานด่วนแทรกเข้ามา หรือนัดดินเนอร์กับแฟนไว้ สุดท้ายก็สายจนได้เพราะรถติดมากจริงๆ หรือนัดคุยกับลูกน้องไว้แต่ก็มีงานติดพันมากมายหลายอย่างจนทำให้ Weekly Update กลายเป็น Monthly Update หรือ Quarterly Update แทน หรือไม่เคยได้คุยกับลูกน้องจริงๆ จังๆ เลย

ปัจจัยหลายอย่างในยุคสมัยปัจจุบัน เราแทบจะมีเวลาที่มีคุณภาพจริงๆ เพื่อใช้ร่วมกับคนสำคัญของเรา ของขวัญปีใหม่นี้ คุณอาจจะลองดูว่าการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวหรือคนใกล้ชิดโดยไม่มีโทรศัพท์มือถือนั้นจะทำให้เราเปลี่ยนไปอย่างไรได้บ้าง ไม่แน่คุณอาจจะได้ทำกิจกรรมดีๆ อย่างอื่นอีกมากมาย ลองเล่นกับลูกๆ ถึงแม้จะเป็นแค่การชวนกันไปวิ่งหน้าบ้าน ก็เชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาและความทรงจำที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของลูกคุณเลยทีเดียว หรือสำหรับคนเป็นหัวหน้า เรารู้ว่าทุกคนล้วนงานยุ่ง แต่ลูกน้องทุกคนต้องการเวลาที่จะพูดคุยกับคุณเหมือนกัน ดังนั้นการให้เวลาพูดคุยกับลูกน้องเพื่ออัพเดตงาน รวมไปถึงการถามสารทุกข์สุกดิบต่ออีกสัก 5 นาที นั่นก็ทำให้ลูกน้องคุณมีกำลังใจและรับรู้ถึงความห่วงใยของคุณแล้ว

มาถึงจุดนี้ หรือหลังจากที่ผู้เขียนได้ฟังบรรยายเรื่องนี้ของอาจารย์เรือรบจบไป ก็เพิ่งจะตระหนักได้ว่า การให้ของขวัญ จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของเพียงอย่างเดียว เราสามารถแสดงออกหรือมอบของขวัญได้มากมายหลากหลายวิธี หวังว่าผู้อ่านคงจะได้ไอเดียการหาของขวัญให้คนพิเศษในช่วงเทศกาลพิเศษนี้กันไปบ้างนะคะ

ติดตามเรื่องราวดีๆ แบบนี้ รวมไปถึงอัพเดตข่าวสารเทคโนโลยีและผลงานใหม่ๆ ของชาว KBTG ได้ที่ www.kbtg.tech

--

--