Payment Technology ที่จะช่วยให้คุณใช้จ่ายแบบ Social Distancing

ART C SERMSINTHAM
KBTG Life
Published in
2 min readAug 8, 2020

ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติอย่างที่กำลังเผชิญกันอยู่ตอนนี้ ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราเปลี่ยนไปจากเดิมไม่มากก็น้อย ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ทั้งเรื่องการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) หรือการลดการสัมผัสกับผู้อื่นให้น้อยลงที่สุด (Contactless) อย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตในสังคมนอกบ้านก็ยังเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนั่นก็พ่วงมากับการจับจ่ายใช้สอย วิธีชำระเงินที่เราคุ้นเคยที่สุดอย่างการใช้ ‘เงินสด’ ดูไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal สักเท่าไหร่นัก เพราะแม้จะตัวจะห่าง แต่ก็ยังเกิดการสัมผัสระหว่างกันในทางอ้อม โดยมี ‘ธนบัตร’ เป็นสื่อกลาง ทั้งนี้เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีการชำระเงินนั้นพัฒนาไปไกลมาก วันนี้ผมจึงอยากมานำเสนอตัวอย่างเทคโนโลยีการชำระเงิน (Payment Technology) ที่จะช่วยให้การจับจ่ายนอกบ้านมีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แทนการใช้ธนบัตรอันเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

การโอนเงินผ่าน Mobile Banking

วิธีที่คนไทยคุ้นเคยและรู้จักมากขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ จากการซื้อขายสินค้าผ่านทางโลกออนไลน์ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศของเรา ทำให้การชำระเงินแบบออนไลน์เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์นี้สุดๆ ทั้งในด้านความปลอดภัยของการยืนยันตัวตนด้วยเลขบัญชีหรือชื่อของเจ้าของบัญชี รวมไปถึงความสะดวกสบายและประหยัดเวลา ไม่ต้องไปที่ตู้เอทีเอ็มหรือสาขาเพื่อทำธุรกรรม แถมยังสามารถดาวน์โหลดใบเสร็จเมื่อทำธุรกรรมสำเร็จ แชร์ไปยังร้านค้าเพื่อยืนยันการชำระเงินได้อย่างง่ายดาย

การชำระเงินประเภทนี้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่เราสามารถนำวิธีนี้มาประยุกต์ใช้กับการชำระเงินนอกบ้านได้ด้วย เราสามารถถามร้านค้าที่ไปจับจ่ายใช้สอยได้เลยว่า “รับชำระเงินด้วยการโอนรึเปล่าครับ?” หรือง่ายๆ “โอนได้มั้ย?” เท่านี้เราก็สามารถลดการสัมผัสและรักษาระยะห่างระหว่างกันผ่านแอป Mobile Banking

K+ (Mobile Banking)

นอกจากนี้ เรายังสามารถจ่ายบิลต่างๆ ผ่านแอปดังกล่าวได้เลย ไม่จำเป็นแม้แต่จะต้องออกนอกบ้านเพื่อไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าเน็ตแต่อย่างใด

QR Payment

ต้องยอมรับเลยว่าการใช้ QR Code ในการชำระเงินนั้นเป็นที่แพร่หลายในสังคมของเรามากขึ้น สังเกตได้จากร้านค้าตามตลาดนัดต่างๆจะมี QR Code ของร้านตนเองตั้งอยู่ ไม่ว่าจะมาเป็นในรูปแบบของ ปี้บจังจากกสิกร หรือแม่มณีจากไทยพาณิชย์ วิธีนี้สะดวกและง่ายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ผู้ซื้อทุกคนสามารถหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดแอปธนาคารที่ตนเองใช้อยู่ หาเมนู ‘Scan QR’ แล้วสแกน QR Code ของร้านนั้น การชำระเงินก็จะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วินาที สิ่งที่เราต้องสัมผัสตลอดทั้งกระบวนการมีเพียงแค่โทรศัพท์ของเรา

แสกน QR Code ผ่านช่องทาง Mobile Banking เพื่อชำระเงิน

ไม่ได้มีแค่ผู้ซื้อกับร้านค้าเท่านั้นที่สามารถใช้ QR Payment ได้ หากเรามีบัญชีที่ผูกกับแอป Mobile Banking อยู่แล้ว เราก็สามารถสร้าง QR บัญชีของเราได้ หรือที่เรารู้จักดีในชื่อของ PromptPay หลายคนอาจจะคุ้นเคยชื่อนี้จากการนำเบอร์โทรศัพท์หรือเลขที่บัตรประชาชนไปผูกกับบัญชี แต่จริงๆแล้วบริการนี้สามารถสร้าง QR Code ที่ผูกกับบัญชีของเราออกมาได้เลย โดยส่วนมากเราจะหา QR ของเราได้ในหมวด ‘สแกน’ (ถ้าเป็น K+ ก็จะอยู่ในหมวดสแกนภายใต้แถบ ‘รับเงิน’ ) หรือ ‘QR ของฉัน’ ตามแอป Mobile Banking ต่างๆ เท่านี้เราก็สามารถให้เพื่อนหรือคนใกล้ตัวสแกน QR ของเราแล้วจ่าย หรือง่ายๆก็สแกนเพื่อโอนให้เรานั่นแหละ ทั้งนี้ QR Code นี้ไม่จำเป็นต้องเปิดเฉพาะบนแอปเสมอไป แต่เราสามารถดาวน์โหลดรูป QR ของเราแล้วแชร์ไปให้เพื่อนของเราได้เลย

Contactless Payment

การชำระเงินประเภทนี้จะอาศัยเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) หรือ NFC (Near Field Communication) ในการทำงาน เพียงแค่คุณนำบัตรหรืออุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยีสองตัวนี้ไปแตะหรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเครื่องอ่าน ก็เป็นอันเสร็จสิ้นในการใช้งาน อันที่จริงแล้วการชำระเงินประเภทนี้อยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด ตัวอย่างง่ายๆ ที่เราจะพบเห็นบ่อยคือ บัตรโดยสารบน BTS และ Easy Pass สำหรับขึ้นทางด่วนนั่นเอง ตราบใดที่เราอยู่ในรัศมีของเครื่องสแกน ตัวเครื่องก็จะสามารถอ่านเลขบัตรแล้วจัดการทำธุรกรรมให้เราในทันที ไม่ต้องไปต่อแถวซื้อบัตร นอกจากนี้บัตรเครดิตบางเจ้ายังมีการรองรับเทคโนโลยีที่ว่านี้อีกด้วย โดยสังเกตได้ที่สัญลักษณ์ NFC บนบัตรนั้นๆ

แตะบัตรผ่านเครื่องอ่าน NFC บน BTS

จริงๆแล้วเทคโนโลยีนี้เป็นที่แพร่หลายในต่างประเทศมากๆ กับการใช้รถโดยสารสาธารณะ เช่นเกาหลีและญี่ปุ่น บนสมาร์ทโฟนบางรุ่นนั้นก็มีการรองรับการใช้งานฟังก์ชัน NFC เพียงเราใส่ข้อมูลบัตรลงไปในโทรศัพท์ ก็สามารถใช้โทรศัพท์แตะกับเครื่องอ่านโดยที่ไม่ต้องพกบัตรเลย สะดวกสบาย ช่วยลดการสัมผัสกับผู้อื่น แล้วยังง่ายกับการใช้ชีวิตอีกด้วย เพราะยังไงโทรศัพท์มือถือก็เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของร่างกายเราไปแล้ว

E-Wallet

กระเป๋าเงินดิจิทัลที่จะทำให้เราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวอีกต่อไป เราสามารถเติมเงินเข้าแอปพลิเคชัน E-Wallet หรือนำไปผูกกับบัตรเครดิตของเราก็ได้ จากนั้นนำไปจับจ่ายใช้สอยกับร้านค้าที่รับการชำระเงินผ่านทาง E-Wallet ได้เลย เทคโนโลยีตัวนี้สามารถโอน เติม จ่ายได้ภายในแอปเดียว นอกจากนี้ทางผู้ให้บริการแต่ละเจ้ายังสามารถใส่สิทธิพิเศษให้กับตัว E-Wallet นี้ได้อย่างมากมาย ทั้งส่วนลดและสิทธิพิเศษการแลกซื้อ ตัวอย่าง E-Wallet ที่ใช้งานง่ายคือ Rabbit Line Pay เพียงแค่มีแอปและบัญชีที่มีเงินอยู่ในแอป ก็สามารถเติมเงินเข้าบัตร BTS ได้เลย ตัดปัญหาเรื่องยืนต่อคิวรอเติมเงิน หรือจะเป็นไว้ใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้ออย่าง True Money ที่สามารถให้พนักงานที่ 7–11 สแกนเราเพื่อจ่ายผ่านแอปได้เลย ไม่จำเป็นต้องควักเงินสดออกมา

สแกนผ่าน True wallet เพื่อจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ

Biometric Authentication

จะมี User ID และ Password ไหนดีไปกว่าร่างกายของเรา เทคโนโลยี Biometric กำลังมาแรงสุดๆ ตอนนี้ มีผู้พัฒนาหลายเจ้ากำลังเร่งพัฒนาเพื่อให้นำมาใช้ได้จริงในตลาดบ้านเรา ทั้งนี้เราอาจจะยังไม่เห็นในวงกว้างนัก แต่เทคโนโลยี Biometric ถูกนำมาใช้กับสินค้าตัวอื่นมาสักพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่การสแกนลายนิ้วมือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าที่ใช้ระบบ Facial Recognition หรือแม้กระทั่งการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคโทรศัพท์ เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับโลกการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ว่าเทคโนโลยีนี้เริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆในวงการ Financial Technology เราสามารถสแกนหน้าเพื่อเข้าแอป Mobile Banking ได้แล้วสำหรับบางผู้ให้บริการ และสำหรับ KBTG เองที่กำลังมีการพัฒนา Face Pay บริการจ่ายเงินผ่านการสแกนใบหน้าให้พร้อมเปิดใช้งานเชิงพานิชย์ในช่วงปีหน้า ลองนึกภาพคุณเดินออกไปเที่ยวนอกบ้าน จับจ่ายสิ่งของ แล้วสิ่งที่คุณใช้ในการจ่ายเงินคือใบหน้าของเราสิ จะสะดวกสบายขนาดไหน แถมยังปลอดภัยมากๆ อีกด้วย ในอนาคตอันใกล้นี้เรามีโอกาสได้ลองใช้เทคโนโลยีนี้เป็นที่แน่นอน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่างเบื้องต้นของ Payment Technology ที่จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal ได้อย่างง่ายและปลอดภัยมากขึ้น ทั้งยังได้สนับสนุนสังคมไทยในการก้าวสู่ยุคไร้เงินสดเต็มตัวด้วย อย่างไรก็ตามทุกคนต้องไม่ลืมที่จะป้องกันตนเองด้วยนะครับ

--

--