The President… บทบาทที่ท้าทาย
สำหรับคนที่กำลังอ่านคอนเท้นต์นี้ ความท้าทายของคุณคืออะไร?
ส่วนตัวนุชแล้ว ทุกครั้งที่เราคิดจะทำอะไรสักอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือความท้าทายแล้วล่ะ แต่ความท้าทายครั้งนั้นจะใหญ่แค่ไหนเป็นอีกเรื่อง…
นับตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ KBTG ก็รู้สึกว่าได้พบเจอกับความท้าทายหลายอย่างเหลือเกิน เริ่มกันตั้งแต่วัน Onboard เลยทีเดียว เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ชีวิตการทำงานจึงแปรสภาพมาเป็นในรูปแบบ WFH ทำเอาเงิบไม่น้อยเลย เพราะรู้สึกว่าอยากได้รับการ Transfer แบบเจอหน้า Face to Face มากกว่า แต่น่าแปลกที่สิ่งที่กำลังกังวลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด การทำงานจากบ้านก็ทำให้เรารู้จักทีมได้เป็นอย่างดี แถมยังทำงานร่วมกันได้แบบไม่สะดุดด้วย (ทำเอาตอนนี้หลงรักการ WFH มากๆ แล้วสิ 555)
ทุกๆ วันที่เป็นพนักงาน KBTG มีหลากหลายเรื่องที่เข้ามาทดสอบตัวเอง งานที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ งานที่ไม่เคยเจอก็ได้เจอ ปัญหาที่เก็บมาก็ต้องเข้าใจทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักระบบมันมาก่อน บอกเลยว่าทุกสิ่งที่ได้จับคือความท้าทายทั้งหมด
และแล้วก็เข้าสู่เดือนที่หก เวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกิน… หนึ่งบทพิสูจน์ที่ได้ก้าวข้ามมาคือ ผ่านโปรแล้วจร้าาาา แต่เมื่อผ่านโปรมาได้ แน่นอนว่างานที่เราจะได้รับผิดชอบนั้นอาจจะไม่ง่ายไปเสียหมด ซึ่งสิ่งที่คิดนั้นก็เป็นจริง (รับไปเลยรถเข็นขายข้าวแกง 🛒) สโคปงานแรกที่ได้ยินและคาดว่าต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งคือ KBTG Transformation
KBTG Transformation แบ่งการทำงานออกเป็นหลายๆ Workstream นุชจะอยู่ในส่วนของ Test Automation ซึ่งบทบาทหน้าที่หลักคือการพัฒนา Test Automation ให้ใช้งานได้จริง พร้อมทั้งผลักดันให้ KBTG มี Test Automation ที่สามารถนำมาทดแทนงาน Manual ได้ แต่ในการผลักและดันให้เกิดนั้น ใช่ว่าเราจะเดินไปบอก Software Engineer หรือ Test Engineer รายคนว่า เธอๆ ทำสิ มันดีนะ ในความเป็นจริงแล้วเราต้องไปช่วยปรับกระบวนการความคิดของคนเหล่านั้นให้เห็นถึงประโยชน์ของ Test Automation เพื่อให้เขาพัฒนามันขึ้นมาให้ตอบโจทย์งานของตัวเอง
เราจะทำยังไงให้ความเข้าใจที่มีต่อ Test Automation ของแต่ละคนนั้นไปในทิศทางเดียวกันล่ะ?!
คำถามแนวนี้คงเกิดขึ้นใน Workstream ต่างๆ ภายใต้ KBTG Transformation จึงเป็นที่มาของ Community ย่อมๆ ที่พี่ๆ ผู้ใหญ่ริเริ่มขึ้นเพื่อช่วยในการทำงานของทีมงาน
ครั้งแรกที่ได้ยินว่าจะมีการจัดทำ Community ขึ้น ความคิดแรกที่โผล่ขึ้นในหัวคือ… อีหยังหว่ะ!!! (และคำนี้เกิดบ่อยมากตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ 555) เอาจริงๆ ก็รู้จักแหละ ก่อนหน้านี้ก็ได้จอย Community หลายอันอยู่ แต่ที่เกิดคำนั้นในหัวคือแล้วตูต้องทำยังไง เคยร่วมแต่ไม่เคยจัดนะ (⊙.⊙(☉̃ₒ☉)⊙.⊙)
ได้ฟังบรีฟว่า Test Automation Club คือหนึ่งใน Transformation Community #1 นะ และใน Community นี้จะประกอบไปด้วย 3 คลับย่อย ได้แก่ Agile Club, DevSecOps Club และ Test Automation Club โจทย์แรกที่ได้รับคือให้ทั้ง 3 คลับระดมความคิดกันหน่อยว่า จะเปิดตัว Community เรายังไงเพื่อให้ได้สมาชิกที่มีแนวคิดในทิศทางเดียวกันมาร่วมคลับ พร้อมที่จะช่วยเหลือสนับสนุนงานของพวกเราไปด้วยกัน… นั่นไงล่ะ งานเข้าสิค่ะ แต่ก่อนเคยแต่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานที่มีหน้าที่เอางานเพื่อนแต่ละคนมารวมและเย็บเล่มพร้อมทำปก ไม่เคยจะคิดริเริ่มอะไรแบบนี้เลย ทำเอาอยากร้องอีกสักเพลง แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกที่จะไม่ทำได้รึป่าว 😂
ในเมื่อสิ่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของงาน เราต้องเข้าใจและลงมือทำให้เต็มที่ แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เราคาดคิดว่าจะต้องทำตั้งแต่แรก
เมื่อได้รับบรีฟ ก็เริ่มครุ่นคิดว่าจะทำยังไง พยายามวิ่งหาข้อมูลและความช่วยเหลือจากทีมงานของเราเพื่อนำไปพูดคุยกับอีก 2 คลับเพื่อเซ็ตอัพการเปิดตัว Community ของเรา ความกดดันเริ่มถาโถมเข้ามาเพราะอีก 2 คลับดูมีความเป็นมืออาชีพไม่น้อย คิดหาคอนเท้นต์ออกมาได้เร็วกว่ามาก จนเรากลายเป็นคลับสุดท้ายที่ส่งคอนเท้นต์สำหรับการเปิดตัว เมื่อได้ข้อสรุปทุกอย่างในวันเปิดตัวแล้ว หัวข้อต่อมาคือการคัดเลือกประธานของแต่ละคลับ ในที่ประชุมสรุปกันได้ง่ายและเร็วมากว่า Test Automation Club ประธานคือ “เรา” …ณ เวลานั้นสิ่งที่คิดคือฉันไม่พร้อม ฉันมีอายุงานน้อยสุดเลยนะในที่นี่ ยังเรียนรู้งานทุกอย่างไม่ครบ ยังไม่รู้จักคนที่นี่ดีพอเลย ฉันยังไม่อยากแบกรับภาระนี้ โอ๊ย!!! มากมาย แต่ทั้งหมดคือคิดในใจ ไม่กล้าที่จะถามออกมา ไม่รู้กลัวอะไรเหมือนกัน
ไหนๆ เราก็ก้าวผ่านจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของเรามาได้แล้วเมื่อ 6 เดือนก่อน กับแค่เรื่องงานใหม่ที่ใหญ่ขึ้นแค่นี้จะเป็นไรไป… ลองกันอีกสักยกให้รู้ว่าจะรอดหรือร่วง!!
“จงเริ่มเมื่อไม่พร้อม… ถ้ารอจนกว่าจะพร้อมคงไม่ได้ทำ ลงมือทำซะ!!”
ประโยคนี้ของครูเงาะใช้ได้ดีกับนุชเสมอ เพราะเป็นสิ่งที่พ่อบอกไว้ตลอดว่าถ้าเรามัวแต่รอให้พร้อม ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือเรื่องอะไร เราก็อาจจะพลาดกับโอกาสหลายๆ อย่างไปแบบไม่รู้ตัว หลายครั้งที่เราเริ่มตอนที่ไม่พร้อม แล้วเรากัดฟันสู้ เรามักจะรอดได้เสมอในรูปแบบที่เราทำไหว
The President จึงเป็นอีกบทบาทที่ก้าวเข้ามาท้าทายชีวิตนุช
แล้ววันเปิดตัว KBTG Transformation Community #1 ก็มาถึง ถามว่าตื่นเต้นมั้ย บอกเลยว่ามาก และคิดว่ามากกว่าทุกครั้ง ทั้งที่ส่วนตัวแล้วไม่ใช่คนที่ตื่นสนามขนาดนี้ เพราะว่าทุกๆ คลับไม่อยากทำพลาด จึงมีการนัดแนะนัดซ้อมเหมือนจริง ในสถานที่จริง กดดันไม่น้อยเพราะเราคือคลับสุดท้ายที่จะขึ้นพูด
ในการซ้อม ไม่ว่าจะ Agile หรือ DevSecOps ต่างพูดด้วยทฤษฎี มีการอ้างอิงหลักวิชาการ แถมมีตัววัดผลต่างๆ รวมถึงมี Demo งานโชว์อีกต่างหาก ย้อนกลับมาดูตัวเองทันทีว่าฉันมาด้วยธีมไรเนี่ย ขายตรงชัดๆ สไลด์ไม่มีหลักการ ไม่บอกกล่าวถึงทฤษฎีใดๆ มีแต่ตัวการ์ตูนและข้อความสั้นๆ ที่แลดูจะสั้นกว่าวลีซะอีก… แต่เอาเหอะ จากที่ได้ลองอ้างทฤษฎีหรือพูดเชิงหลักการเพื่อซ้อมให้ดูจริงจังเหมือนชาวบ้านมาเป็นสิบรอบแล้ว เสียงสะท้อนจากทีมที่เห็นและได้ยินต่างบอกว่า ความเป็นตัวตนของเราหายไป ให้ปล่อยวางและทำให้เป็นตัวเองที่สุดจะดีกว่า ต้องขอบคุณเสียงสะท้อนเหล่านั้นจริงๆ ที่ทำให้เราก้าวผ่านความกลัวและความตื่นเต้นในครั้งนี้มาได้แบบเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
🙏 ขอบคุณทุกคำชม ขอบคุณทุกแรงเชียร์ ขอบคุณเสียงสะท้อนจากคนรอบตัว 🙏 อาจจะไม่ใช่คำชื่นชมที่มากมาย แต่อย่างน้อยเสียงเหล่านั้นคือแรงผลักให้ Test Automation Club เดินหน้าต่อไป
นับจากวันแรกที่เริ่มต้น จวบจนวันนี้ Test Automation Club มีอายุย่างก้าวเข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้สร้างสรรค์คอนเท้นต์ออกมา 4 ครั้ง และกำลังจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในเดือนนี้ จุดประสงค์ที่พวกเราจัดทำยังคงเป็นจุดประสงค์เดิม คือเพื่อให้ชาว KBTG ได้รู้จักกับ Test Automation กันมากขึ้น โดยที่การจัด Meet-up แต่ละครั้ง เราไม่อยากให้เครียด เพราะเรารู้ดีว่าการที่ใครก็ตามมาจอย Community แบบนี้ นอกจากเขาจะอยากรับรู้อะไรเพิ่มเติม เขาเองก็อยากคลายเครียดจากงานที่ถืออยู่ ดังนั้นทุกครั้งที่เราจัด Meet-up จึงมักมีธีมที่อาจจะดูตลก หรือดูเหมือนเด็กจัดรายการในโรงเรียน แต่ในรายละเอียดของการจัดทุกครั้ง พวกเราตั้งใจทำกันมากๆ ทั้งซ้อมคิว ทั้งคิดคอนเท้นต์ สร้างกิจกรรมเล็กๆ สอดแทรกไปเพื่อลดความน่าเบื่อ ซึ่งที่จัดมาทั้งหมด ไม่มีครั้งไหนเลยที่นุชจะไม่ลงไปดูในทุกรายละเอียด
ต้องยอมรับว่าแรกๆ อาจจะไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แต่เมื่อได้เห็นความตั้งใจและความทุ่มเทของทีมงานในแต่ละครั้ง กลับหลงรักมันอย่างบอกไม่ถูก ฟังดูเวอร์แต่เป็นเรื่องจริงนะ ภายในทีมเรามีการตกลงกันว่าเราจะพยายามหมุนเวียนผลัดกันออกมาทำตรงนี้ให้ได้ครบทุกคน เหมือนออกแนวบังคับแต่แค่อยากให้แต่ละคนเห็นว่านอกจากงานที่ตัวเองทำแล้ว สิ่งเหล่านี้คือศักยภาพในตัวเราอีกอย่างทุกคนสามารถทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สืบเนื่องจากนโยบาย WFH ทำให้เราต้องจัดทุก Meet-up เป็นแบบออนไลน์ ดังนั้นการบ้านที่พวกเราคิดกันหัวแทบแตกเสมอคือทำยังไงให้สนุก
Meet-up #1: The Automation The Parallel World
เราเริ่มต้นจากคนเข้าฟังแค่ราวๆ 50 คนเท่านั้น การดำเนินรายการเป็นไปในธีมอวกาศที่มี Automation Test Engineer สองหนุ่มชวนทุกคนใน Session เล่นเกมส์ไปพร้อมกัน ในขณะเดียวกันก็พยายามสอดแทรกเรื่องราว Test Automation ลงไป เราไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองเราแบบไหน แต่สำหรับทีมงานมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีไม่น้อยเลย
Meet-up #2: Automation Podcast… Podcast ที่จะปลุกความเป็น Test Automation ในตัวคุณ
เราอยากให้ทุกคนที่ร่วม Session กับพวกเราเข้าใจว่าการทำ Test Automation นอกจากพวกคุณจะพัฒนาขึ้นมาได้ด้วยเทคนิคหรือเครื่องมือต่างๆ ลึกๆ แล้วยังจำเป็นต้องมีมุมมองอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำ Test Automation อีกด้วย จึงเป็นที่มาของหัวข้อในครั้งนี้ เสียงตอบรับที่ได้คือยอดคนเข้าฟังที่เพิ่มมากขึ้นมาอีกเล็กน้อย
Meet-up #3: How I Discover My Passion
สิ่งที่เราคาดหวังไม่ใช่เพียงแค่ให้ความรู้ด้าน Test Automation กับสมาชิกเดิมๆ ที่เคยร่วมคลับ แต่เป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นคือเราอยากให้ Tester หรือ Test Engineer มาเป็นสมาชิกคลับเรามากขึ้น อยากให้เขาเหล่านั้นได้รู้จักกับ Test Automation เราจึงมีการเชิญ Test Engineer ที่พัฒนา Test Automation Script ให้แอปพลิเคชันต่างๆ ใน KBTG มาพูดคุยเพื่อให้สมาชิกหลายคนได้เห็นมุมมองและจุดเปลี่ยนจาก Manual Tester สู่ Test Engineer ที่ทำ Test Automation ได้ ครั้งนี้คนเข้าฟังเรานับร้อยคน แต่ก็ยังไม่ใช่เครื่องการันตีความสำเร็จของพวกเรา เพราะเชื่อว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
Meet-up #4: Let’s Contribute to Automation Together
มีความเข้มข้นของเนื้อหาเชิงเทคนิคมากขึ้น เพราะคาดหวังว่าเพื่อนสมาชิกที่อยู่ด้วยกันมา 3 ครั้งคงอยากรู้และอยากลงมือทำกันบ้างแล้ว ครั้งนี้เราเลยจัดหนักจัดเต็มด้วยการเล่าถึง Framework ที่พวกเรากำลังสร้าง
ตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมา ประธานในความคิดใครหลายคนคงหมายถึงคนสั่งการหรือคนตรวจการ แต่สำหรับนุชไม่ใช่เลย ทุกครั้งนอกจากไปนั่งดูนั่งฟังเพื่อฟีดแบ็คทีมงานแล้วนั้น นุชต้องกลับมาทำการบ้านเพิ่มว่าแล้วหลังจากครั้งนี้ต้องทำอย่างไรต่อ รวมถึงกิจกรรมที่จัดในครั้งนั้นๆ เหมาะสมจริงรึเปล่า การวิ่งประสานงานเพื่อขอรางวัลสนับสนุนกิจกรรม ตลอดจนเข้าไปแก้สคริปที่น้องๆ ใช้พูดในแต่ละครั้ง และแม้แต่โฆษณาหรือโปสเตอร์ต่างๆ ที่ใช้เพื่อประชาสัมพันธ์คือหน้าที่ของนุชเช่นกัน ทั้งนี้นุชไม่หมายความว่าไม่มีทีมช่วยเหลือ เพราะทุกคนช่วยเหลือดีมาก เพียงแต่นุชต้องการให้รายละเอียดต่างๆ ของ Test Automation Club ออกมาในสไตล์ของพวกเรา ดังนั้นส่วนใดที่ทำเองได้ นุชจะรับหน้าที่ตรงนั้นมาทำ
และนี่คือ The President ในรูปแบบของนุช… และนุชเชื่อว่ามันจะไม่หยุดแค่นี้ ยิ่งนานวันไป ความท้าทายในบทบาทนี้จะค่อยๆ ทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ว่าจะยากแค่ไหน นุชก็จะตั้งใจทำ เพราะมันเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงศักพภาพในตัว…
ท้อได้ หยุดได้ หากเราไม่ไหว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรามีสติอีกครั้ง จงเรียกพลังแล้วปลุกตัวเองให้สู้กันอีกสักตั้ง แล้วทุกบทบาทที่เข้ามาจะกลายเป็นความท้าทายที่ทำให้เราเติบโต (>‿◠)✌
สำหรับชาวเทคคนไหนที่สนใจเรื่องราวดีๆแบบนี้ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ Product ใหม่ๆ ของ KBTG สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.kbtg.tech