Three-Year Life เปิดประสบการณ์ 3 ปีที่ KBTG Core Banking
คุณเคยคิดบ้างมั้ยว่าจะมีระบบงานใดบ้างทำแล้วจะได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์หลายด้าน ครอบคลุมเกือบทุกศาสตร์ที่ชีวิต Software Engineer คนนึงจะได้รับ จนไม่รู้ว่าทั้งชีวิตจะได้เก็บเกี่ยวครบหรือเปล่าด้วยซ้ำ
ผมว่าผมเจอแล้วนะ…
จากผมได้มีโอกาสทำงานเป็น Software Engineer ที่ดูแลระบบ Core Banking ของ KBTG มา 3 ปีแล้ว วันนี้ผมจึงอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวและบรรยากาศการทำงาน เพราะเชื่อว่าคนส่วนใหญ่พอได้ยินคำว่า Core Banking แล้ว อาจจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งลึกลับ และไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่
Core Banking คืออะไร
“Core Banking เปรียบเสมือนหัวใจของระบบธนาคาร”
Core Banking เป็นระบบไอทีที่สำคัญที่สุดของธนาคาร เกี่ยวข้องกับการทำงานพื้นฐานทั้งหมด ตั้งแต่ ฝาก ถอน โอนเงิน กู้เงิน ระบบบัญชี และอื่นๆ อีกมากมาย
Core Banking จึงเปรียบเสมือนหัวใจของธนาคาร เพราะถ้าหากหัวใจเป็นอะไร อวัยวะอื่นๆ ของร่างกายก็จะพลอยทำงานไม่ได้ตามไปด้วย
ทำงาน Core Banking ได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ระบบ Core Banking เป็น Enterprise Application หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือเป็นแอปพลิเคชันที่ใหญ่มากๆ และเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในหลายส่วน ดังนั้นผู้ที่ดูแลและพัฒนาระบบ Core Banking จึงต้องใช้ความรู้ในหลากหลายด้านด้วยกัน
- ความรู้ทางด้านธุรกิจธนาคาร ผมเชื่อว่าการที่จะเป็น Developer ที่ดีได้นั้น เราควรจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจให้ดีที่สุด เพื่อที่จะสามารถออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม แน่นอนว่าการที่เราได้มาพัฒนาระบบ Core Banking เราจะได้เรียนรู้ในแง่มุมธุรกิจต่างๆ เช่น ระบบการลงบัญชี, ฝาก/ถอน/โอน, ระบบสินเชื่อ และความรู้ด้านการเงินอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย
- ความรู้ทางด้าน Regulation เนื่องจากธนาคารเป็นสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Protocol ต่างๆ ในการกำกับดูแลที่ขึ้นชื่อว่าเข้มข้นที่สุด
- ความรู้ทางด้าน Software Engineering อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าระบบ Core Banking เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในหลายส่วน ผู้ที่ดูแลและพัฒนาระบบจึงได้ทำงานที่เกี่ยวข้องทั้ง Front-end, Back-end, DevSecOps, CI/CD, Network & Infrastructure เรียกได้ว่าแทบจะครบทุกด้านที่ Software Engineer คนนึงจะได้มีโอกาสเรียนรู้ในที่เดียว
- ความรู้ทางด้านการดูแลและพัฒนา Enterprise Application ด้วยความที่ Core Banking เป็นระบบขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน มีปริมาณธุรกรรมสูง ต้องใช้งานได้ตลอดเวลา และเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก (หลายสิบล้านคน) ย่อมได้รับการดูแลอย่างพิเศษมากกว่าระบบทั่วๆ ไป จึงต้องมีการทำ System & Application Performance Tuning, Monitoring และ Forecast Business Growth เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในโลกยุคดิจิทัลอยู่เสมอ
- ความรู้ทางด้าน Large Scale Architecture เนื่องจากระบบ Core Banking มีความเกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันต่างๆ ทั้งในและนอกธนาคารจำนวนหลายร้อยระบบ การออกแบบและพัฒนาระบบใดๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบโดยรอบ
บรรยากาศการทำงานเป็นยังไง
วันแรกที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม KBTG Core Banking ก็รู้สึกประหม่าอยู่บ้าง เพราะตอนที่ตัดสินใจมาทำ ยังนึกภาพของ Core Banking ไม่ออกเลยว่าใหญ่แค่ไหน ต้องทำอะไรบ้าง รู้แค่ว่าพอได้ยินชื่อแล้วฟังดูน่าสนใจ ท้าทายดี น่าค้นหา และน่าจะมีอะไรที่แตกต่างจากแอปพลิเคชันทั่วไปที่หาจากธุรกิจอื่นๆ ได้ยาก แล้วจะยากไปไหมนะ? กดดันไหมนะ? เครียดไหมนะ? บรรยากาศในทีมจะเป็นยังไง?
พอได้มาทำงานจริงก็รู้สึกสบายใจสุดๆ พี่ๆ ในทีมเป็นกันเองมาก ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี อีกทั้งยังจัดสรรเวลามาแบ่งปันความรู้เสมอ ไม่ว่างานอะไรเข้ามาก็มีความเป็นทีมเวิร์ค งานยากแค่ไหน หรือถึงแม้บางโปรเจคจะกดดันในความเร่งรีบ ก็ทำให้รู้สึกว่าเราจะผ่านพ้นมันไปได้ แถมยังได้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ในเกือบทุกงานที่ผ่านเข้ามาตลอดช่วงเวลา 3 ปี
แล้วใครบ้างที่เหมาะกับงาน Core Banking
จากที่ผมเล่ามาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความใหญ่โต ความซับซ้อน และการดูแลเอาใจใส่อย่างดีเป็นพิเศษ
ส่วนตัวผมคิดว่างานนี้เหมาะกับคนพิเศษ คนที่ชอบความท้าทาย ชอบแก้ปัญหา และชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในทุกๆ วัน เพราะอย่างผมเองที่ทำงานกับ Core Banking มาตลอด 3 ปี ผมยังเพลิดเพลินและรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก ได้เรียนรู้บางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ หรือแทบจะหาโอกาสทำแบบนี้ไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ที่นี่ ขนาดผมคิดว่าความรู้ที่ได้รับมาเยอะพอสมควรแล้ว ก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรให้ได้เรียนรู้อีกมากมาย และตัวผมเองยังสามารถเป็นคนที่เก่งกว่าเดิมได้ในทุกๆ วันที่ได้รับ Assignment ใหม่ๆ เข้ามา
ถ้าใครสนใจมาทำงาน Core Banking ด้วยกัน คิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและเติบโตไปอีกขั้นในฐานะ Software Engineer สมัครมาได้เลยครับที่ www.kbtg.tech
