To Become a Business Analyst at KBTG โดยพี่จุ๊บ ชุติมา

Kris B
KBTG Life
Published in
2 min readJun 23, 2022

ถ้าพูดถึงตำแหน่งงานที่ KBTG ที่คนมักจะให้ความสนใจมากที่สุด หนึ่งในนั้นย่อมหนีไม่พ้น Business Analyst (หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ติดปากว่า BA) ซึ่งข้อมูลนี้เราไม่ได้นั่งเทียนเขียนแต่อย่างใด เพราะแค่ยอดวิว Job Description ของ BA บนเว็บหลักเอง ก็แทบไม่เคยตกจากท็อป 3 เลยซักครั้ง นานๆ ทีถึงจะมีตำแหน่งอื่นมาโค่นลง แต่พอเดือนถัดมาเขาก็กลับมาทวงตำแหน่งคืนสำเร็จ ทำไมคนถึงนิยมสายงานนี้กันนะ แล้วสิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับสายงาน Business Analyst ที่ KBTG ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากแค่ไหน เราเหมาะกับงานนี้จริงๆ รึเปล่า ชวนทุกคนมาฟังคำตอบจากพี่จุ๊บ ชุติมา เกษมกรกิจ Deputy Managing Director ของ KBTG กันค่ะ

ทำไม BA ถึงเป็นตำแหน่งที่คนสนใจกันเยอะคะ

คนที่สมัครงาน BA จะแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ค่ะ กลุ่มแรกคือคนที่เรียนจบไอทีมา แต่ไม่ได้อยากทำงานไอทีจ๋าหรือโตไปในสาย Deep Tech พวกเขาอยากที่จะต่อยอดพื้นฐานไอทีของตนมาทำในสิ่งที่ก่อให้เกิดคุณค่าทางธุรกิจมากกว่า ส่วนกลุ่มที่ 2 คือคนที่ไม่ได้เรียนไอทีมา อาจจะจบทางสายธุรกิจบ้าง ด้านบริหารจัดการ เศรษฐศาสตร์ หรืออื่นๆ แต่อยากจะเข้ามาอยู่ในโลกของนวัตกรรม ทำอะไรใหม่ๆ ที่ดูว้าว ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้จะมองว่า BA เป็นจุดที่ประจบตรงกลางพอดีระหว่างเทคโนโลยีและธุรกิจค่ะ

อะไรคือสิ่งที่คนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับงาน BA

หลายคนจะสับสน BA กับตำแหน่ง Product Owner ค่ะ ถ้าเป็นน้องกลุ่มที่ไม่ได้จบไอทีมา เขาอาจจะเข้าใจว่า BA เป็นคนคิด Product ออกสู่ตลาด ต้องทำ Market Survey ทำ Business Case ซึ่งถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ของธนาคาร ก็จะเป็นหน้าที่ Product Manager ของฝั่งธนาคาร โดยเขาจะให้ Requirement เรามาว่าเขาอยากออกผลิตภัณฑ์หน้าตาแบบไหน มีฟีเจอร์อะไรบ้าง ส่งต่อมาให้ BA เราช่วยลงรายละเอียดให้ครบถ้วนและนำไปออกแบบต่อ

หรือบางคนเข้าใจผิดว่า BA มีหน้าที่แค่เก็บลิสต์ Requirement เฉยๆ แล้วค่อยส่งให้คนที่เป็น System Analyst ดีไซน์ต่อ แต่ที่ KBTG ตัว BA จะต้องเป็นคน “ออกแบบ” ทำในส่วนของ Functional Design ด้วย โดยจะต้องแปลง Requirement ของ Business User (BU) เป็นรูปธรรมมากขึ้น ให้พวกเขาเห็นภาพว่าระบบที่ลูกค้าจะเห็นหรือ Workflow หน้าตาเป็นยังไง พอมาถึงตรงนี้ คนที่ไม่ได้จบไอทีมาก็จะเริ่มกังวล กลัวตัวเองทำไม่ได้เพราะไม่มีความรู้ด้านการดีไซน์ระบบ พี่ก็จะช่วยเสริมว่าแต่จริงๆพวกเราก็ใช้แอปกันเป็นประจำอยู่แล้ว เราแค่ต้องใส่หมวกเป็นลูกค้าแล้วดูว่าลูกค้าต้องการอะไร เช่น หน้าจอต้องสื่อความง่ายๆ ต้องกรอกข้อมูลน้อยๆ เท่าที่จำเป็น และพี่ก็มี Checklist เป็นกรอบให้ด้วยเพื่อเช็คว่าดูครบทุกมุมแล้วรึยัง เช่น เราต้องออกแบบอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้ากรอกข้อมูลผิด อย่าลืมดูเรื่องการจัดเก็บข้อมูล PDPA การเก็บจำนวน Volume Transaction ที่ระบบต้องรองรับได้ พอน้องๆ ได้ยินแบบนี้ก็จะสบายใจขึ้น

คุณสมบัติของคนที่จะมาเป็น BA ที่ KBTG

พี่จะดูทั้งหมด 3 ส่วน คือทักษะ องค์ความรู้ และคาแรกเตอร์

ทักษะ

  • Analytical Thinking ทักษะนี้สำคัญมากๆ ต้องวิเคราะห์และจัดโครงสร้างเรื่องราวเป็น เพราะปกติ User จะฝันฟุ้ง อยากได้เยอะแยะไปหมด ซึ่ง BA จะต้องทำให้เป็น Structure ตกผลึก และทำ Prioritization ออกมาให้ได้
  • Problem-Solving เรากำลังทำ Solution เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ ดังนั้นเราจะต้องเข้าใจ Problem Statement และวิเคราะห์ตัวเลือกทั้งหมด ดูข้อดีข้อเสีย วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น Timeline ทรัพยากรคน เพื่อสรุปออกมาว่าตัวเลือกไหนเหมาะที่สุด
  • Communication & Facilitation เพราะเราเป็นตัวกลางระหว่าง User และทีม Dev เราต้องรู้จักวิธีการพูด ต่อรอง โน้มน้าว ไปจนถึงการเข้าถึงความต้องการของอีกฝ่ายจริงๆ (Empathy Listening)

องค์ความรู้

เวลาสัมภาษณ์พี่จะไม่เคยนำสิ่งนี้มาเป็นตัวตัดสินหลักนะ เพราะเป็นสิ่งที่เราเรียนกันได้ แต่พี่จะมองหาคนที่เป็น Fast Learner มากกว่า โดยความรู้ที่ BA ต้องมีจะเป็นตามนี้ค่ะ

  • Banking Business ผลิตภัณฑ์ธนาคาร ฟีเจอร์ของแต่ละผลิตภัณฑ์ ช่องการการขายและให้บริการของผลิตภัณฑ์ รวมถึง Operation หลังบ้าน โมเดลการซัพพอร์ต ไปจนถึง Pain Point ในปัจจุบันและเทรนด์ในอนาคต
  • Technology ระบบปัจจุบันที่ใช้เป็นระบบอะไร มีขีดจำกัดตรงไหน พอเก็บข้อมูลมาแล้ว หลังบ้านไหลไปที่ไหนบ้าง ใช้ทำอะไร เพื่อให้เวลาเราทำ Impact Analysis จะได้ดูครบด้าน

คาแรกเตอร์

พี่มองหาคนที่เป็น Driver เราทำงานเป็นโปรเจคที่มีสโคปและกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งระหว่างทางอาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ เราจะพาโปรเจคผ่านพ้นอุปสรรคเอาโปรเจคขึ้นให้ได้อย่างไร ไม่ใช่นั่งรอให้ปัญหาแก้ตัวเอง เป็นคนถือธงพาเดิน และถ้าอ้างอิงจาก MBTI จะมี N ที่มองภาพใหญ่ กับ S ที่ชอบลงดีเทล พี่ว่าคนแบบ S จะเหมาะกับงาน BA กว่าค่ะ

Source

คุณสมบัติขั้นต่ำที่ของ BA คือจะต้องมีทักษะและคาแรกเตอร์ตรงกับที่กล่าวข้างต้นค่ะ เราจะต้องสามารถสื่อสารอธิบายหรือลงรายละเอียดเนื้องานที่ตัวเองทำได้ เวลามีปัญหา ต้องเป็นคนที่กระโดดลงไปช่วยกันแก้ ซึ่งถ้าเราเป็นคนที่ไม่ชอบแก้ปัญหาหรือเผชิญหน้ากับปัญหา ไม่ได้มองว่าปัญหาเป็นความท้าทาย งาน BA ก็อาจจะไม่ใช่งานที่เหมาะกับตัวเอง

ส่วนองค์ความรู้จะขึ้นอยู่กับว่าคนสมัครเป็นใคร ถ้าเป็น Fresh Grad เราไม่สามารถคาดหวังให้เขารู้ธุรกิจธนาคารหรือแอปพลิเคชันที่ใช้มาก่อนอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็น Experienced Hire ก็ควรจะมีติดตัวมา อาจจะเคยทำ BA ฝั่ง Banking และรู้จักผลิตภัณฑ์ Banking มาก่อนแล้ว หรือเคยทำระบบนี้มาก่อน รู้ว่ามีแพทเทิร์นเป็นยังไงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

สมมุติว่าคุณสมบัติได้แล้ว เราจะทำยังไงให้โปรไฟล์ของเราเด่นกว่าเพื่อนคะ

ถ้าเป็น Experienced Hire สามารถเล่าประสบการณ์โปรเจคที่เคยผ่านมาได้เลยค่ะ แต่ถ้าเป็น Fresh Grad พี่จะชอบดูชิ้นงานที่เขาภูมิใจ และเขาสามารถขายงานนั้นได้ถูกจุดมั้ย โดย BA จะต้องแม่นในเรื่องวัตถุประสงค์ว่าเขากำลังจะตอบโจทย์อะไร ดังนั้นพี่จะชอบคนที่เขียนเรซูเม่เล่าโปรเจคโดยระบุถึงปัญหาต้นตอและผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่เล่าว่า Solution ที่ทำคืออะไร และอีกสิ่งที่พี่อยากเห็นคือ Passion ค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนจบไอทีที่อยากรู้เรื่องธุรกิจ หรือจบธุรกิจมาแล้วอยากทำไอที ก่อนหน้านี้คุณเคยทำอะไรเพื่อเสริมทักษะที่ขาดตรงนี้แล้วบ้าง พี่จะให้เครดิตมากๆ ถ้าสมมุติเขาจบธุรกิจมาแล้วไปเข้า Data Camp เพื่อเสริมทักษะไอที หรือจบไอทีแล้วไปลองแข่ง Business Case ที่เขาได้มีโอกาสเข้าใจและเสนอไอเดียตอบโจทย์ธุรกิจ เขารู้ว่าเขาต้องปิดแก็ปอะไรแล้วเขาเริ่มเดินตาม Passion ของเขาเลย โดยไม่ต้องรอเข้า KBTG ก่อนแล้วค่อยเริ่ม ถ้าทำแบบนี้ได้ รับรองโปรไฟล์เราจะโดนตาคณะกรรมการแน่นอนค่ะ พี่จุ๊บการันตี

สำหรับชาวเทคคนไหนที่สนใจเรื่องราวดีๆ แบบนี้ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ Product ใหม่ๆ ของ KBTG สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.kbtg.tech

--

--