เปิดประตูสู่โลกแห่งการลงทุนรูปแบบใหม่ด้วย “โทเคนดิจิทัล” (Digital Token)

ในยุคสมัยที่ทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและความเป็นดิจิทัล เราทุกคนคงไม่สามารถปฏิเสธการเข้ามามีบทบาทของสิ่งเหล่านี้ในชีวิตเราได้ เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า โดนปลุกด้วยเสียงของนาฬิกาจากโทรศัพท์มือถือ นั่งเลื่อนอ่านข่าวจากช่องทางโซเชียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Twitter การเช็คอีเมลของที่ทำงาน ไปจนถึงการพูดคุยกับเพื่อนผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ หากย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน เราอาจจะยังนึกภาพกันไม่ออกว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทและช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากขึ้นได้ขนาดนี้

นอกจากการเข้ามาช่วยให้ไลฟ์สไตล์ในชีวิตของเราง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น แน่นอนว่าเทคโนโลยีได้เข้ามาในโลกของการลงทุนเป็นที่เรียบร้อย ผู้อ่านหลายๆ ท่านอาจจะพอรู้จักกับเงินสกุลดิจิทัลหรือ Cryptocurrency ที่ใช้เพื่อการแลกเปลี่ยน แต่วันนี้พริมอยากจะแนะนำการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจัดว่าเป็นอีกหนึ่งการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นเดียวกับ Cryptocurrency โดยเรียกการลงทุนในรูปแบบนี้ว่า “โทเคนดิจิทัล” (Digital Token)

เราอาจกล่าวได้ว่า “โทเคนดิจิทัล” เป็นการลงทุนที่มีลักษณะผสมระหว่างการลงทุนแบบดั้งเดิมในตลาดและการลงทุนใน Cryptocurrency จุดที่มีความเหมือนกับการลงทุนดั้งเดิมในตลาดคือการที่มีสินทรัพย์มาหนุนหลังมูลค่าของโทเคน ซึ่งจะมีความคล้ายกับการลงทุนในหุ้น ในขณะที่การลงทุนในโทเคนนั้นจะมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามาใช้เพื่อช่วยแบ่งย่อยสินทรัพย์ให้ออกมาอยู่ในรูปของโทเคนดิจิทัล (Digital Token) ที่มีการเก็บมูลค่าแบบแยกส่วน และยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการกำหนดและแจกจ่ายผลตอบแทน โดยโทเคนดิจิทัลสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทตามลักษณะของสิทธิประโยชน์ที่ผู้ลงทุนจะได้รับ ได้แก่

1. Investment Token หรือโทเคนที่กำหนดสิทธิ์ในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการ ผลตอบแทนที่ได้จะคล้ายกับการลงทุนในหลักทรัพย์ ซึ่งอาจจะได้รับในรูปของเงินปันผล หรือ Capital Gain แล้วแต่เงื่อนไขที่กำหนด
2. Utility Token หรือโทเคนที่กำหนดสิทธิการได้รับสินค้าหรือบริการ ตามที่ทางผู้ออกและผู้ถือตกลงกันไว้ใน Whitepaper

มาถึงจุดนี้ ผู้อ่านหลายท่านน่าจะเริ่มมองเห็นภาพของการลงทุนในตัวโทเคนดิจิทัลนี้มากขึ้น แต่อาจจะยังสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องมาลงทุนในโทเคนดิจิทัลตัวนี้? สำหรับผลประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนข้อแรกเลย คือเราจะสามารถเข้าไปลงทุนหรือเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงๆ เช่นคอนโดใจกลางเมือง หรือที่ดินสักแห่ง ด้วยจำนวนเงินตามที่เราต้องการ อาจกล่าวได้ว่าเราเข้าไปเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ เพียงแค่บางส่วน (Fractional Ownership) โดยจะได้ผลตอบแทนเมื่อสินทรัพย์ที่เราเข้าไปลงทุนทำกำไรหรือราคาตลาดสูงขึ้น การลงทุนในโทเคนดิจิทัลจึงถือเป็นหนึ่งในทางเลือกใหม่สำหรับกลุ่มคนรายได้ปานกลางที่อยากจะเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาสูง เนื่องจากเราไม่จำเป็นต้องมีเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเข้าไปเป็นเจ้าของมัน และนอกจากจะสามารถเข้าไปเป็นเจ้าของสินทรัพย์บางส่วนได้แล้ว นักลงทุนยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่อยู่ในรูปแบบของ Utility Token อีกด้วย ยกตัวอย่างหากเราซื้อโทเคนของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง แล้วเราทำตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดไว้ใน Whitepaper เราก็อาจจะมีโอกาสได้เข้าไปพักในรีสอร์ทนั้นๆ ฟรี จะเห็นได้ว่าการลงทุนในโทเคนดิจิทัลนี้ นอกจากจะได้รับผลตอบแทนที่อยู่ในรูปตัวเงินแล้ว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วย

อีกข้อดีนึงคือการลงทุนในโทเคนดิจิทัล (Digital Token) ช่วยประหยัดเวลาในการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องมีการเซ็นเอกสารการโอน การรอผลตอบรับการกู้จากธนาคาร หรือกระบวนการเข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยของสินทรัพย์ด้วยตัวเอง เนื่องจากทางผู้ออกโทเคน (Issuer) หรือผู้ที่ต้องการระดมทุน และทางที่ปรึกษา (ICO Portal) จะทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพของสินทรัพย์และศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน โดยขั้นตอนเหล่านี้จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ในกรณีที่นักลงทุนต้องการขายหรือเปลี่ยนมือ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายในตลาดรอง หรือที่เราเรียกว่า Exchange กระบวนการขายจะมีลักษณะคล้ายกับการขายหุ้นในตลาด ซึ่งจะมาช่วยเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายโทเคนดิจิทัล

ทีนี้เรามาลองดูฝั่งผู้ที่มีความต้องการระดมทุน (Issuer) ผ่านวิธีการ Initial Coin Offering (ICO) ทางบริษัทที่มีความสนใจระดมทุนผ่านวิธีการนี้สามารถเข้าไปปรึกษากับทางบริษัทที่ทำหน้าที่เป็น ICO Portal ได้ โดยหน้าที่หลักๆ ของทาง ICO Portal คือให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ออกใหม่ในตลาดแรก และจะช่วยกลั่นกรองลักษณะของโทเคนดิจิทัลที่จะเสนอขาย คุณสมบัติของผู้ออก และความครบถ้วนถูกต้องของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลและร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อให้การลงทุนมีความน่าเชื่อถือและให้นักลงทุนได้รับผลประโยชน์ที่เหมาะสมที่สุด

สำหรับผู้อ่านที่อาจจะยังไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของการลงทุนในโทเคนดิจิทัลนี้ ต้องขอบอกก่อนเลยว่าทาง ก.ล.ต. ได้มีการออกประกาศเพื่อควบคุมและดูแลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นนักลงทุนสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของการลงทุนประเภทนี้ได้ ในขณะนี้มีบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการเกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลนี้ทั้งหมด 4 ที่ ซึ่งล่าสุดทาง KASIKORN X (KX) บริษัทในเครือกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ได้จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาในนาม “Kubix” พร้อมมุ่งเป็นผู้นำในตลาดด้านการพัฒนาการลงทุนในโทเคนดิจิทัล โดยขณะนี้ Kubix ยังอยู่ในช่วงการยื่นขอใบอนุญาตผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่หากผู้อ่านท่านไหนมีความสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.kubix.co

สุดท้ายนี้พริมมีความตั้งใจที่อยากจะแนะนำการลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนหลายๆ ท่าน และเชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะมีโทเคนดิจิทัล (Digital Token) ตัวแรกออกมาให้เราได้เห็นกันอย่างแน่นอน อย่าลืมศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมและเตรียมพร้อมสำหรับดีลแรกกันนะคะ

สำหรับชาวเทคคนไหนที่สนใจเรื่องราวดีๆแบบนี้ หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ Product ใหม่ๆ ของ KBTG สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์ www.kbtg.tech