KLAND พาเที่ยว ภาค2!! ร้านระดับโลก กับแบรนด์ “Gentle Monster”
หลังจากที่พวกเราเสียทรัพย์ไปกับร้าน ‘tamburins’ (พาเที่ยวครั้งที่แล้ว) ไปเรียบร้อยแล้วพวกเราก็ออกกันมาที่หน้าร้านเพื่อตั้งสติกันว่าจะไปไหนต่อดีก็ไม่มีใครให้คำตอบเราได้ ก็เลย…เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ละกันถือซะว่าเก็บบรรยากาศข้างท้องถนนในย่านที่คนรวย,ผู้ชายหล่อ,ผู้หญิงสวยเยอะที่สุดในโซลก็ว่าได้ ฉะนั้นก็มโนไปว่าที่นี้คือ Final Walk ของฉันก็แล้วกัน เดินไปเดินมาด้วยความบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจก็ได้เจอกับร้านแว่นที่ขึ้นชื่อมาก ๆ ในเกาหลี เอ๊ะ! จะว่าทั่วโลกก็ว่าได้นะเพราะดารา นักแสดง นักร้อง บลา ๆ ก็ใส่กันเยอะมากก็คือร้าน ‘Gentle Monster’ เอาว่ะ!! ขอเข้าไปดูหน่อยไหน ๆ ก็ประทับใจร้านก่อนหน้าไปแล้ว ร้านนี้จะดีขนาดไหนนะ?? ด้วยความอยากรู้อยากเห็นบวกกับแรงดึงดูดเหมือนมีึคนกวักมือเรียกให้เข้าไปหาอยู่นั่นแหละเลยได้มาเป็นหัวข้อของบทความพาเที่ยวอันนี้เลยนี่ไง…
เป็นแบรนด์แว่นจากแบรนด์เกาหลีก่อตั้งจากคนชื่อ ‘คิมฮันกุก’ (Kim Han Kook)เมื่อปี 2011 ไม่นานนี้เองแต่ก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันก็ไปถึงระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ว่าได้เพราะมีสาขาไปเปิดเกือบจะทั่วโลกเลยทีเดียวด้วยตัวแว่นที่มีเอกลักษณ์ทางด้านดีไซน์อย่างสูงและโลโก้ที่โดดเด่นสุด ๆ เมื่ออยู่บนตัวแว่นอีกทั้งยังอยู่ในเครือกับร้าน tamburins ที่พวกเราพาไปมากันครั้งที่แล้วอีกด้วยก็เรียกได้ว่าแบรนด์ Gentle Monster นี้กำลังเติบโตสุด ๆ เลยและครั้งนี้เรามาก็ได้ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอนู่นนี่มาฝาก ตัวร้านของ Gentle Monster จะมีทั้งหมด 2 ฝั่งก็ฝั่งหนึ่งจะเป็นพวกแว่นธรรมดาพื้นฐานทั่วไปแต่จะพิเศษตรงที่มีประกันตัวสินค้าให้แถมเขาการันตีเลยว่าเราจะได้ประสบการณ์ดูแลหลังซื้อที่ดีมาก กับอีกฝั่งหนึ่งจะเรียกว่า Gentle Monster PARALLEL ที่จะมีแต่พวกสินค้า Limited Edition อาจจะมีแค่ไม่กี่ชิ้นในโลกเพราะด้วยวัสดุที่ใช้ในขั้นตอนการผลิตค่อนข้างจำกัดแต่ตัว Limited จะไม่มีประกันสินค้าให้ฉะนั้นใครไปช้อปมาก็ใช้ระวัง ๆ กันเนอะและก็แน่นอน !! เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทั้งสองร้านเลยเริ่มต้นที่ฝั่งธรรมดาก่อนเลย
เดินร้านเข้ามาก็ต้องตกตะลึงไปกับพื้นที่ของร้านและการตกแต่ง,ดีไซน์ของมันจริง ๆ อีกทั้งแถมการตกแต่งร้านก็ได้ยินว่าจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เป็นช่วง (อันนี้ไม่ชัวร์ในข้อมูลนะ) และเหมือนว่าช่วงที่เราไปจะเป็นช่วง Concept อีกา,สัตว์ประหลาด ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเกี่ยวอะไรกันแต่ยืนนึกไปนึกมาก็คงจะให้เกี่ยวกับชื่อร้าน Monster อะไรทำนองนั้นละมั้ง (สกิลการเชื่อมโยงดีใช่ไหม?)
ตัวร้านก็เป็น Experience Shop ที่ให้ลูกค้าได้มีความรู้สึกอินกับแบรนด์เพิ่มขึ้น ,ได้มีความรู้สึกผูกพันธ์กับสินค้าในระหว่างที่เดินดูนิทรรศการที่เขาจัดไว้ให้ ,ได้รับประสบการณ์ต่าง ๆ ไปจนกระบวนการซื้อของและจ่ายเงินในขั้นตอนสุดท้าย
ในส่วนตัวร้านก็มีพนักงานเยอะสมควรในร้านแต่ก็ไม่ได้รู้สึกทำให้อึดอัดอะไรนะ เขาจะยืนมองเราอยู่ไกล ๆ อย่างห่วง ๆ ถ้าเราหยิบจับสินค้าตัวไหนเขาถึงจะมาให้ข้อมูล มาบอกรายละเอียดของมันว่าเป็นยังไงทำนองนี้ก็ถือว่าดีนะ เราไม่ต้องอึดอัดแบบพวกร้านเครื่องสำอางที่พนักงานพร้อมบวกกับเราตลอดเวลา
หลังจากที่พวกเราเดินช้อปเดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนมาเจอ….แคชเชียร์ ฮะ!! ทำไมแคชเชียร์มาตั้งซะแบบชั้นบนขนาดนี้เลยอารมณ์เหมือนเป็นด่านสุดท้ายแล้วนะ ก่อนจะออก ก่อนไปที่อื่นจะซื้ออะไรหน่อยไหมทำนองนี้แถมดีไซน์ตกแต่งได้อบอุ่นมากกกก เหมือนยืนอยู่ในบ้านแถมก็ยังมีน้ำหอม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วยนะอารมณ์แบบจ่ายเงินยังไงให้ฟิลกู๊ด 555555 ที่นี่เลย
หรือเพื่อน ๆ คลิกดูวิดีโอก็ได้เลยนะ
หลังจากที่เราก็จัดการสร้างหนี้สร้างสินเรียบร้อยก็เดินมาที่ชั้นแรกกำลังจะออกไปข้างนอกก็เหลือบไปเห็นว่ามันมีฝั่งตรงข้ามอีกนี่น่า เท่านั้นแหละ ไปจ้า พวกเราไปผจญภัยกันเถอะ!
และด้วยความที่ร้านฝั่งนี้มันเป็นสินค้า Limited การตกแต่งอะไรจะต่างกันนิดหน่อยแค่หน้าร้านนี้ก็ตรงข้ามกันแหละ อีกฝั่งขาว อีกฝั่งดำ อะไรทำนองนี้ แถมในส่วนด้านในร้านก็แบบมีความหินงอกหินย้อยไปอีก ล้ำเวอร์ ถามว่างงไหม? ก็พยักหน้าไปเบา ๆ ว่างงจ๊ะ สิ่งที่ต่างจากร้านอีกฝั่งชัด ๆ เลยคือพนักงาน ฝั่งนี้เหมือนพนักงานลาหยุดกันอะ น้อยมากกก มีอยู่ไม่กี่คนเอง 2–3 คนเองมั้ง และในตัวสินค้านั้นร้านนี้ก็มีหลากหลายมากแต่จะเน้นไปที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ล้ำ ๆ ดูเข้าถึงยากแต่จะไม่มีประกันสินค้านะก็อย่างที่บอกแหละว่าวัสดุในการทำมันจำกัด เรียกได้ว่าใส่ไปแล้วไม่ค่อยซ้ำชาวบ้านหรอกเพราะตัวนึงมีไม่กี่ชิ้นในโลก แต่ก็นะเมื่อมาขนาดนี้แล้ว ราคาก็จะอัพไปอีก แพงไปอีกนิดหนึ่ง (?)
และนั่นก็คือ 2 ร้านจาก Gentle Monster ที่เราพาเพื่อน ๆ ไปดูกันจนเราพูดได้เลยมั้งว่าถ้าคุณมาเกาหลีใต้แล้ว คุณควรที่จะไปเยี่ยมชมช็อปเขาจริง ๆ เพราะมันดีมากกก การบริการสมกับที่โฆษณาไว้จริง ๆ แถมในตัวร้านมันก็สวยมากพอให้อัพรูปในไอจีได้เป็นสิบ ๆ เลยแถมสินค้าก็ยังดี คิดว่าคนไทยไปน่าจะชอบกันแน่นอนเพราะดีไซน์ตัวแว่นมันเอามาใส่ที่ไทยแล้วคงเท่แน่นอนกับประเทศที่แดดตลอดเวลาแบบนี้และวันนี้เราก็ต้องขอตัวไปก่อน อย่าลืมติดตามกันได้ว่าต่อไปจะไปร้านไหนกัน แอบกระซิบไว้ล่วงหน้าเลยว่าเป็นร้านเสื้อผ้าที่คนชอบความ Perfect จะต้องถูกใจแน่นอน!
Sinsa, Seoul, South Korea
533–6, sinsa-dong, gangnam-gu, seoul, korea
Phone. +82–70–5080–0196
Mon~Sun. 12:00pm~9:00pm
