5 สิ่งที่ CTO บริษัท startup เค้าทำกัน

มาดูกันดีกว่าถ้าอยากเป็น CTO ใน บริษัท startup เราควรมีทำไรบ้าง
เนื่องด้วยกระแส Startup ในบ้านเรากำลังบูม และProgrammer หลายๆ คนอยากจะผันตัวเองเป็น CTO ดูบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี หรือไม่รู้ว่าขาด skill ด้านไหนบ้าง ทางด้าน Eric Ries ผู้เขียนหนังสือ Lean Startup (ผมและเพื่อนได้ร่วมกัน import งานสัมมนา Lean Startup Machine มาจัดทำที่เมืองไทย โดยมุ่งหวังให้เป้นงานที่ได้รับความรู้และนำไปใช้ได้จริง ในราคาที่เข้าถึงได้ และคุณภาพที่มากที่สุด) หนังสือที่ Startup ทุกคนควรอ่านรวมทั้งสาย Technical ด้วย

กลับมาต่อเรื่อง cto กัน
โดยหลักๆ ถ้าคนที่อยากเป็น CTO ส่วนมากจะไม่ค่อยอยากจะเป็นสาย Management เพราะว่ามี technical background มาก่อน และก็รักในสิ่งนั้นๆ และคิดว่าการบริหารจัดการคนอื่นไม่ใช่อะไรที่เท่และสนุกเลย แต่ในความเป็นจริง cto จะต้อง “จำเป็น” ที่จะต้องเรียนรู้ skill อื่นๆเพิ่มเข้ามาด้วย ดังที่นาย Eric Ries ได้กล่าวไว่ในบทความนี้ ว่าเค้าจำเป็นต้องพัฒนาทักษะด้านการ manage คนเพื่อให้บริษัทที่เค้าทำอยู่สามารถมี productivity ที่ดีได้ และเค้าได้สรุปมา 5 ข้อหลักๆดังนี้

1. การเลือกใช้ platform และ Technology

ยกตัวอย่างเลยก็ตั้งแต่เริ่มที่จะทำ startup ทาง cto ก็ต้องเลือกว่าจะใช้ Technology ไหน เพื่อที่จะให้สามารถทำ Product แรกสุดที่จำเป็นออกมาได้? เมื่อผู้ใช้งานมากขึ้น จะเลือกใช้อะไรในการรองรับกับปริมาณ traffic ที่มี? เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จะใช้ technology อะไรในการ monitor และหาต้นเหตของปัญหานั้นๆ ? และการเลือก technology ต่างๆที่กล่าวมา เราจะรู้ได้ยังไงว่ามีผลกระทบกับส่วนต่างๆในระบบเรายังไง?

2. การมองภาพรวมทั้งหมด

CTO ต้องมีการคิดคำนวนไปมาในสมองเลยว่าสิ่งที่ technology สามารถทำได้มีอะไรบ้าง? code ส่วนต่างๆมีอะไรบ้าง? สามารถเพิ่มลดส่วนไหนแล้วกระเทือนอะไรบ้าง? และเมื่อต้องการเพิ่ม feature จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่? คุ่มหรือไม่กับระยะเวลาที่เสียไป? นี่คือการมองภาพรวมซึ่งเป็นอะไรที่มากไปกว่าการ code แค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบ

3. ให้ทางเลือก

เมื่อ ceo ต้องการจะทำ feature ไรใหม่ๆสักอย่าง โดยปกติแล้ว CTO จะไม่มีทางบอกว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ หรือ ‘เราจะไม่ทำสิ่งนั้น’ เพราะถ้า CEO บอกความต้องการมา คนที่จะสามารถแปลง Business requirement ให้สามารถนำมาพัฒนาและใช้งานจริงในงบประมาณที่จำกัดได้ก็คือ CTO นี่แหล่ะครับ โดย CTO ต้องทำการวิเคราะห์ทุกทางที่เป็นไปได้และพยายามเลือกทางที่ดีที่สุดในที่ตอบโจทย์งานนั้นๆ

4. การหา 80/20

ฟังแล้วอาจจะงงๆ นะครับ ว่ามันคืออะไร ยกตัวอย่างง่ายๆ คือถ้าเกิดมีใครในที่ประชุมเกิดอยากทำ function ใหม่ขึ้นมา ก็ตกเป็นหน้าที่ของ CTO เช่นกัน ที่ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้สามารถก่อประโยชน์ 80% ได้จาก cost 20%

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การตีความ, บริหาร cost และใช้ประโยชน์จาก Resource ที่มีให้เกิดประโยชน์และผลตอบแทนมากที่สุดนั่นเอง

5. สามารถสร้าง Technical Leader คนใหม่ๆขึ้นมาได้

ข้อนี้นับว่าเป็น Skill ที่จำเป็นมากๆ ทีเดียวเพราะว่าท้ายสุดบริษัทเราก็ต้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการที่เราจะสร้าง Engineer ให้กลายเป็น Technical Lead และการจายงานต่างๆ ให้กับคนเหล่านั้นย่อมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับงานในชีวิตประจำวันของ CTO

โดยข้อนี้ยังรวมไปถึงการบ่มเพาะให้คนเหล่านี้เห็นในวิสัยทัศน์ของบริษัท ทำให้เข้าใจในเนื้องานมากขึ้นและสามารถคิดและตัดสินใจในเรื่องย่อยๆ ได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเวลาเขียน PHP เป็นภาษาหลัก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราใช้ภาษาอื่นๆ มาทำงานด้วย ? แล้วถ้าใครบางคนดันเขียนแบบ OOP แต่บางคนไม่เขียนหล่ะ ? แล้วความสำคัญของการเขียน OOP และไม่เขียนคืออะไร? นอกเหนือไปจากการที่ CTO จำเป็นต้องรู้เรื่องเหล่านี้แล้ว CTO จำเป็นจะต้องสอนให้ Engineer ที่กำลังจะแปลงร่างเป็น Technical Lead สามารถตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ด้วย

ใครที่ต้องการเรียนรู้วิธีการทำ Startup แบบจริงๆ โดยไม่จำเป้นต้องลงทุนมาก เริ่มลงมือทำจริง ให้ไปลง workshop Lean Startup Machine ที่นี่ได้เลย https://www.eventpop.me/e/1006 สามารถใช้ Code “STARTUPCTO_SPECIAL”ลดแบบพิเศษ เหลือเพียง 6000 บาทเท่านั้น

ที่มา

http://www.startuplessonslearned.com/2008/09/what-does-startup-cto-actually-do.html