เมื่อฉันเป็น PM ในบริษัทเทคโนโลยีญี่ปุ่น🇯🇵

วันนี้จะขอแหวกแนวจาก blog ที่ผ่านๆ มาบน Medium ของเราซักหน่อย โดยจะพาทุกคนมาเปิดประสบการณ์การทำงานในบริษัทเทคโนโลยีจากประเทศที่ได้ชื่อว่ามีระเบียบวินัยมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก สำหรับสายปลาดิบหรือวากิว A5 อาจจะเคยได้ยินได้ฟังถึงความน่าชื่นชมในวินัยของคนในแดนปลาดิบกันมาบ้าง ส่วนท่านไหนที่อาจจะไม่เคยได้ยินได้ฟัง ลองตามมาดูกันครับว่า คนที่นั่น เค้ามีมุมองการทำงานในด้านเทคโนโลยีกันอย่างไร 🍣

เกริ่นประวัติให้ฟังเบาๆ ผู้เขียนเองก่อนจะได้รับโอกาสได้มาร่วมงานกับทางกรุงศรี เคยมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 10 ปี ซึมซับวัฒนธรรมทั้งการทำงาน การใช้ชีวิตมาซักพักใหญ่ๆ จาก developer ตัวน้อยๆ ค่อยๆ ได้รับโอกาสขึ้นมาจนถึงตำแหน่งที่ต้องมีการบริหารจัดการอย่าง PM 📑

ด้วยความที่มีความสนใจในด้านบริหารจัดการอยู่แล้ว ประกอบกับได้รับโอกาสจึงใช้เวลาตัดสินใจไม่ยากนักที่จะรับคำเชิญชวนนี้ เพียงแต่ด้วยประสบการณ์ที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นศูนย์ ทำให้เกิดความกังวลใจระดับหนึ่งที่จะเข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าว

แต่เรียกว่าโชคยังเข้าข้าง ที่ขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายจากมดงาน ไปดูภาพรวมอย่างการบริหาร ทางบริษัทฯ ไม่ได้เพียงแต่ส่งเสริม แต่ยังคอยช่วยเหลือ ช่วยให้เราเตรียมพร้อมก่อนที่จะขึ้นไปสู่การทำงานที่ยากและกว้างขึ้นนั่นคือ มีการเตรียมการ Training ไว้รอรับเราอยู่แล้ว และแน่นอน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความเข้าใจที่ไปในแนวทางเดียวกันแล้วนั้น บริษัทก็ซื้อตั๋วเครื่องบินและส่งเราไปอบรมการเป็น Project Manager ที่ประเทศญี่ปุ่น✈️

การอบรมใช้เวลารวมๆแล้วสองวันเต็มๆ ช่างเป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายมากๆครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะว่าการอบรมนั้นหนักหน่วงอัดแน่นด้วยเนื้อหาหรอ? เปล่า เราฟังไม่ค่อยรู้เรื่องว่าเค้าพูดว่าอะไร ฮ่าๆๆ

อ่ะกลับมาๆ จริงๆในเนื้อหาแล้วก็ไม่ได้ต่างจากที่เราอบรมกันที่นี่มากนัก (ที่กรุงศรีเองเราก็มีโปรแกรม Training หลากหลาย ให้พนักงานที่สนใจอยากจะพัฒนาตัวเองได้เลือกลงเรียนกันอย่างมากมาย, ไม่เชื่อลองมาเป็นเพื่อนร่วมงานกันได้นะ อิ้อิ้)น่าจะต่างกันในรายละเอียดแล้วแต่อาจารย์ผู้สอน

แต่สิ่งที่เราได้ตอนที่เราไปอบรมที่ญี่ปุ่น มี keyword นึงที่จำขึ้นใจจนทุกวันนี้ จึงขออนุญาตยกประโยคสนทนาที่อบรมในวันนั้นมาเล่าสู่กันฟังโดยใช้ชื่อย่อเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

“ทีซัง(นามสมมุติ)พอทราบไหมครับว่า PM ย่อมาจากคำว่าอะไร?”

“Project Management, Project Manager รึเปล่านะครับ?”

“ใช่ครับ นั่นคือความหมายโดยทั่วไป (ตอนนั้นผู้เขียนทำหน้างงๆ) แต่มันมีอีกความหมายนึงที่อยากให้ทีซังรู้ครับ”

โดยปกติแล้ว P จะหมายถึง Project ใช่ไหมครับ แต่จริงๆแล้ว เราไม่ได้ดูแลแค่ Project หรอกนะครับ เราดูแล “คน” ที่ช่วยเราทำ Project นั้นด้วยอีกต่างหาก เลยอยากให้ทีซังเพิ่มความหมายของตัว P ใน PM อีกตัวว่าเป็น People & Project Management

โดยอุเอโนะซัง(นามสมมุติ)ก็ได้เล่าให้ฟังว่าถึงญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมการทำงานที่ดูเคร่งขึม เต็มไปด้วยกฎระเบียบข้อบังคับ แต่เราก็ไม่สามารถนำกฎเหล่านั้นมาใช้กับคนได้ในทุกเรื่อง เพราะคนไม่เหมือนหุ่นยนต์ แต่ละคนก็มีความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน ดังนั้น หากจะก้าวมาทำตำแหน่งตรงนี้แล้ว ควรจะเรียนรู้วิธีที่จะทำงานกับคนในหลากหลายบุคลิกให้มากขึ้น จะทำให้ทีซังประสบความสำเร็จและสนุกกับการทำงานนะครับ

“เพราะผมเชื่อว่าหากเราไม่สนุกกับงานที่ทำแล้ว ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในงานนั้นได้ครับ”

“ถึงเราเองจะเป็นแผนก IT แต่เทคโนโลยีย่อมเกิดจากการพัฒนาของคน ดังนั้น หากคนที่ช่วยเราพัฒนาเทคโนโลยี ไม่มีความสุขที่จะช่วยเราพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆออกมาได้แล้ว ก็ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะส่งมอบเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยความสุขออกมาให้กับลูกค้าของเรา ทีซังคิดอย่างนั้นไหมครับ?”

ตอนนั้นตอบได้แค่ว่า โซ่ เดส เน่~ ☺️

--

--