Nobhpadol Boonphet
KULAPofficial
Published in
2 min readDec 15, 2019

--

ประสบการณ์ การทำงานที่ KULAP ตลอดระยะเวลา 4 เดือน

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ที่ได้ทำงานกับบริษัท KULAP

จุดเริ่มต้นที่ได้รู้จัก KULAP เพราะความบังเอิญเลย เพราะผมไปร่วมงาน Event Vue meetup แล้วได้เจอพี่บิ๊กซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่เรียนมหาลัยเดียวกัน พอได้คุยกันก็รู้ว่า กำลังหาคนเข้าทีม KULAP ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังหางานใหม่อยู่พอดี จึงตัดสินใจร่วมงานด้วย

Work At Home

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานรูปแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ผมก็ทำงาน office เดินทางไปทำงานทุกวัน พอได้มาทำงานที่บ้านก็ดีไปอีกแบบ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เอาเวลาที่เหลือไปทำประโยชน์อย่างอื่น แล้วก็มีอิสระในการทำงาน อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้

ในเรื่องของการสื่อสารกันในทีม ก็ใช้ app Slack ซะส่วนใหญ่ในการคุยงาน ถ้าอาทิตย์ไหนที่ไม่ว่างไม่ได้เข้า office ก็จะ video call ผ่าน app Google Hangout

มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ เพราะการทำงานที่บ้านแตกต่างจากการทำงาน office เพราะต้องมีวินัยในตัวเอง พออยู่บ้านแล้วจะมีความรู้สึกขี้เกียจนิด ๆ อยากนอนทั้งวันเลย 555 อีกอย่างคือ ทำให้ทักษะการเข้าส้งคมแย่ลง ทำให้ผมต้องพาตัวเองไปงานอีเว้นท์บ่อย ๆ จะได้เจอคนบ้าง

ทำงานเดือนแรก

เดือนแรกถือว่าเหนื่อยพอสมควรสำหรับผม เพราะต้องพัฒนาเว็บไซต์ด้วย vue-js ซึ่งไม่ได้ใช้มาเกือบปี รวมถึง Amazon AWS ที่ไม่เคยใช้เลยถึงกับกุมขมับ ต้องมานั่งศึกษาเอง ทวนความจำกันใหม่ รวมถึงต้องศึกษา code เดิมที่เขียนกันไว้ว่าโครงสร้างเป็นอย่างไร

โปรเจคแรกที่ได้ทำคือเว็บไซต์ระบบจัดการหลังบ้าน ผมทำในส่วนของเว็บไซต์ ส่วนพี่บิ๊กทำระบบ server โปรเจคแรกติดปัญหาในการทำงานหลายอย่างเลย ทั้งเรื่องประเมินเวลาในการทำงานน้อยเกินไป เพราะระหว่างทำงานมักจะมี bug มากวนใจหรือปัญหาบางอย่างที่คาดไม่ถึง ทำให้เสียเวลาเยอะขึ้นในการทำงาน รูปแบบการเขียนโปรแกรมยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็มีพี่บิ๊กนี่แหละที่ช่วยแนะนำหลายอย่างเลย ติดปัญหาก็โทรคุยได้ตลอด ที่ชอบอย่างนึงคือ การทำงานเป็น Sprint มีการแยกงานออกมาเป็นสัดส่วนชัดเจน ทำงานเสร็จชุดนึงก็ให้คนในทีม Review code ของเราซึ่ง code ที่เราเขียนมาอาจจะมีจุดผิดพลาดที่เรามองไม่เห็น รวมถึงทำให้เราได้รู้เทคนิคการเขียน code จากการไป review code ของคนอื่นด้วย หลังจากนั้นการเขียน code ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จุดที่ผิดพลาดเริ่มน้อยลง แล้วก็เริ่มทำระบบ server เขียน API ซึ่งเราก็อยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะอยากทำเป็นหมดทุกอย่าง อีกอย่างคือการใช้ app Zeplin แชร์งาน Designer จากพี่เจฟ ทำให้การทำงานเป็น Developer อย่างเราทำงานสบายขึ้นเยอะ

แล้วมีอีกโปรเจคนึงที่ได้ทำเกี่ยวกับ Ethereum blockchain คือการสร้างเว็บไซต์เพื่อเชื่อมต่อกับ smart contract โดยใช้ web3 ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายตัวเองมาก ๆ แล้วก็สนุกมากด้วย

กิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน

กิจกรรมที่ได้ทำส่วนใหญ่ ผมจะเป็น Staff คอยช่วยเหลือภายในงาน ทั้ง class สอน Ethereum Smart Contract Private Course, Libra Blockchain Course การมาเป็น staff ทำให้เราได้ซึมซับความรู้จากที่พี่โต๊ดสอนไปในตัว ได้รู้จักคนที่สนใจเทคโนโลยี ฺฺฺ Blockchain ด้วย

ที่เซอร์ไพรส์มาก คือ การเป็น staff ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพราะได้เดินทางขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกเลย ตื่นเต้นมาก ได้ไปกับพี่โต๊ด และพี่ไบท์ ตลอดการเดินทางได้ความรู้จากพี่ 2 คนเยอะมาก ทั้งเรื่อง Blockchain เรื่องการเงิน การใช้ชิวิต แล้วก็ได้รู้ว่า เดี๋ยวนี้มหาลัยเปิดรับเทคโนโลยี Blockchain ด้วย มีกิจกกรมการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย มีบางคนเอาไปทำเป็นโปรเจคจบเลยก็มี (สมัยตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยแทบไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย) แล้วก็งานล่าสุด ฺBlockchain Thailand Genesis 2019 ที่ได้มาออกบูธ แสดง Product ของ KULAP ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะมาอยู่จุดนี้ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา เคยไปงาน event ในฐานะผู้ร่วมงาน แล้วตอนนี้ได้มาออกบูธจัดงานที่เกี่ยวกับ ฺBlockchain รู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ งานเริ่มได้ไม่กี่ชั่วโมงก็มีคนสนใจเยอะมาก มันรู้สึกใจดีมากเลยนะที่มีคนมาสนใจผลงานของพวกเรา ที่พวกเราร่วมกันพัฒนาขึ้นมา สิ่งนี่แหละที่ทำให้มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น การมาออกบูธทำให้เห็นด้วยว่า จุดไหนที่ user ชอบ และ user ติดปัญหาตรงไหนในการใช้งานระบบ จะได้เอามาพัฒนาเพิ่มเติม

โดยรวมแล้วการทำงานที่ KULAP ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยทีเดียว ได้พัฒนาตัวเอง ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย

--

--