วิธีเติมพลังและหา “แรงบันดาลใจ” ให้ตัวเอง

Watchara Manisri
Leaderwings Blog
Published in
1 min readJun 22, 2016
all-02

“ประสบการณ์” คือ บทเรียนอันยิ่งใหญ่ของโรงเรียนชีวิต ที่ปนเปหลากหลายทั้งความสุข ความทุกข์ ความผิดหวัง ความสมหวัง ความล้มเหลว และความสำเร็จ

อาจมีใครบางคนที่หวาดกลัวความล้มเหลวจนไม่กล้าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ ๆ ทนยอมใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองไม่พึงปรารถนา

แต่หากลองสังเกตคนรอบข้างอย่างถ่องแท้จะพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จล้วนแต่เคยผ่านรสชาติของความผิดหวังล้มเหลวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

แรงบันดาลใจจึงถือเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถแปรเปลี่ยนความล้มเหลวให้กลายเป็นความสำเร็จได้ ดังนี้

1. ดึงตัวเองออกจากความทุกข์

แม้ว่าการใช้ชีวิตจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่ถ้าไม่กลัวการเผชิญหน้ากับความจริงก็จะสมปรารถนาในสิ่งที่ต้องการอย่างแน่นอน

ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แค่ต้องมองให้ออกว่าอะไรคือต้นเหตุของความล้มเหลว

การยอมรับความจริงเป็นสิ่งสำคัญ อย่ามองอะไรเกินจริง จะทำให้ทุกข์โดยใช่เหตุ ลองเปลี่ยนมุมมองเรื่องความล้มเหลวให้เป็นต้นทุนของความสำเร็จ

เพราะในวงกลมแห่งความสำเร็จ มักมีเส้นของความล้มเหลวซ่อนอยู่เสมอ

ดังนั้น ให้อภัยตัวเองและดึงตัวเองออกจากความทุกข์ให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดบั่นทอนกำลังใจจนท้อแท้

คนทุกคนมีโอกาสไม่เท่ากัน ยิ่งเผชิญกับความเป็นจริงได้เร็วก็ยิ่งสามารถตั้งรับได้ดียิ่งขึ้น กว่าที่คนทุกคนจะประสบความสำเร็จ ล้วนแล้วแต่มีที่มาที่ไปและมีจุดเริ่มต้นทั้งสิ้น ความล้มเหลวจึงไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต

2. เรียนรู้ข้อผิดพลาด

ความล้มเหลวเปรียบเสมือนครูที่ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ การเผชิญหน้ากับจุดอ่อนของตัวเองอย่างซื่อสัตย์และจริงใจจะทำให้สามารถปรับปรุงแก้ไขไปสู่ความพยายามครั้งใหม่ที่ดีกว่าเก่า และเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น

บางครั้งความยากลำบากของสถานการณ์อาจทำให้ลืมแผนที่วางไว้จนรับมือกับมันได้ไม่ดีและไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทัน แต่สิ่งที่จำเป็นต้องทำในขณะนั้นก็คือ “การปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสม”

ในหนังสือ Life’s Greatest Lessons ได้กล่าวไว้ว่า…

“ทันทีที่ยอมรับความจริงว่าชีวิตเป็นเรื่องยากเราจะเริ่มพัฒนา เริ่มเข้าใจว่าทุกวิกฤติเป็นโอกาสด้วย หลังจากนั้นเราจะขุดค้นและได้ค้นพบตัวตนของเราแล้วเริ่มยอมรับความท้าทายของชีวิตแทนที่จะปล่อยให้ความยากลำบากเป็นฝ่ายได้ชัย เรากลับยินดีต้อนรับปัญหามาเป็นเครื่องทดสอบอุปนิสัยและวิธีรับมือกับความท้าทาย”

การเรียนรู้ข้อผิดพลาดจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะความล้มเหลวไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ หาสาเหตุให้พบแล้วกลับไปทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้

เส้นทางสู่ความสำเร็จย่อมมีอุปสรรคคอยบั่นทอนกำลังใจของเรา จงลุกขึ้นเผชิญหน้ากับมันเปลี่ยนความกลัวให้เป็นความท้าทาย ตื่นเต้นที่ต้องพบกับอุปสรรคใหม่ ๆ สนุกกับมันและหาทางเอาชนะความผิดพลาดนั้นให้ได้

อย่ามุ่งมั่นเอาชนะจนแพ้ไม่เป็น เพราะจะทำให้คุณไม่มีภูมิคุ้มกันของความผิดหวัง

3. เพิ่มพูนความรู้หาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ

คนบางคนไม่เห็นคุณค่าของการพัฒนา และหวังว่าชีวิตจะก้าวหน้าได้โดยไม่ต้องลงแรงทำอย่างต่อเนื่อง ชีวิตจึงหยุดนิ่งอยู่เพียงเท่านั้น

การเริ่มต้นที่ผิดพลาด คือ บทเรียนอันล้ำค่าที่นำไปสู่การทบทวนความคิด คนที่มีความรู้จะไม่กลัวที่จะใช้แรงบันดาลใจที่ผ่านเข้ามา

แถมบางครั้งก็ขโมยความคิดด้วยความภาคภูมิใจ คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุด คือคนที่สามารถบอกได้ว่าตัวเองต้องการอะไร และสิ่งที่ขาดไปคืออะไร

เมื่อมองเห็นโอกาส หรือแรงบันดาลใจพวกเค้าก็คว้าไว้เพื่อพัฒนาและทำอย่างสร้างสรรค์ด้วยความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดที่มีผนวกกับความเชื่อของตัวเอง

จิม จาร์มัช ( Jim Jarmusch ) ผู้กำกับภาพยนตร์เคยกล่าวว่า…

“ไม่มีอะไรใหม่ถอดด้ามหรอก จงขโมยสิ่งที่ตรงกับแรงบันดาลใจหรือสิ่งที่เป็นเชื้อไฟให้จิตนาการของตัวเองจากที่ไหนก็ได้ แล้วเขมือบเข้าไป

ทั้งหนังเก่า หนังใหม่ ดนตรี หนังสือ ภาพวาด รูปภาพ บทกวี ความฝัน การสนทนาแบบสุ่ม สถาปัตยกรรม สะพาน ป้ายถนน ต้นไม้ เมฆ แหล่งน้ำ แสงสว่าง และเงา แต่ให้เลือกขโมยเฉพาะสิ่งที่สื่อกับจิตวิญญาณของเราได้โดยตรง

หากทำตามนี้ งานของเรา (และการขโมย) ก็จะเป็นของแท้ ความเป็นของแท้นั้นล้ำค่า ความแปลกใหม่ถอดด้ามนั้นไม่มีอยู่จริง อย่าไปเสียเวลาเสียแรงปิดบังการขโมยของตัวเอง เฉลิมฉลองไปเลย ถ้าอยากทำ และให้จำคำพูดของ ฌอง ลุค โกดาร์

(Jean Luc Godard) ที่ว่า ไม่สำคัญว่าเราเอาของพวกนี้มาจากไหน แต่สำคัญที่ว่าจะเอาไปไหนต่างหาก”

4.วางแผนและลงมือทำอย่างหลงใหล

ผู้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มักมีความมุ่งมั่นอย่างสูงที่จะเอาชนะต่อความล้มเหลวอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง เขาก็จะลุกขึ้นแล้วก้าวต่อไปอย่างมีเป้าหมายด้วยกลยุทธ์ของตัวเอง

คนที่มีความหลงใหลในความสำเร็จจะถูกผลักดันด้วยวัตถุประสงค์ของตัวเองอย่างไม่รอคอยความหวัง และไม่กลัวความล้มเหลว ความหลงใหลช่วยจุดประกาย สร้างแรงจูงใจ และเป็นเชื้อไฟของความพากเพียร ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความสำเร็จ

สตีฟ จ็อบส์ ( Steven Paul Jobs ) เคยกล่าวว่า…

“ผมเชื่อว่า ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่แบ่งแยกผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จออกจากผู้ประกอบการที่ไม่ประสบความสำเร็จก็คือ ความพากเพียรอันบริสุทธิ์”

นอกจากนี้ “วิธีคิด” ยังเป็นปัจจัยที่ใช้ในการแบ่งแยกคนที่ประสบความสำเร็จกับคนที่ล้มเหลว คนที่ประสบความสำเร็จจะมีเหตุผลสนับสนุนการกระทำของตัวเอง นึกถึงสิ่งที่ทำ

ทำไมจึงทำ และจะแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างไร ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะประสบความล้มเหลวก็จะไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยเดิมชีวิตจึงดีขึ้น

5. สร้างสิ่งที่เราเชื่อมั่น

มองข้อดีของตนเอง แล้วค้นหาศักยภาพที่มี เมื่อค้นเจอแล้วความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นจากสิ่งที่เราถนัด

คนที่ประสบความสำเร็จจะยึดมั่นในเป้าหมายและทุ่มเททำอย่างหลงใหลโดยไม่สนใจว่าใครจะวิจารณ์อย่างไร

ไม่ว่าเราจะได้แรงบันดาลใจมากจากไหน หรือ ความคิดของเราอาจไม่แปลกใหม่ถอดด้าม แต่มุ่งสร้างผลงานสุดยอดแท้จริงอย่างมีวัตถุประสงค์เสมอ

ในโลกนี้ไม่มีความล้มเหลวหากเราต้องการไล่ตามความฝันจริง ๆ คนที่เคยผิดพลาดไม่จำเป็นต้องพ่ายแพ้เสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าจะยอมรับและลุกขึ้นมาได้เร็วแค่ไหน
การเรียนรู้บทเรียนจากความล้มเหลวจะทำให้เรารู้จักเปิดใจ เข้าใจ เรียนรู้ มีภูมิคุ้มกัน เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ความสำเร็จจึงไม่ได้เกิดจากการที่ทำถูกเสมอแต่เกิดจากการที่ไม่กลัวที่จะผิดพลาดต่างหาก

--

--