วิธีทำ MVP สำหรับ Startup แบบไวไว

สำหรับคนที่ทำธุรกิจด้าน Innovation หรือ Startup คงจะเคยทำ Lean Canvas หรือ Business Model Canvas กันมาบ้างนะครับ เคยมั้ยครับ เวลาเราทำครบทั้ง 9 ช่อง กรอกทุกช่อง บางครั้งแปะ post it หลายสี เพื่อแยกแยะ user ให้ชัดเจน แต่ก็ยังอึดอัด ไม่รู้จะทำ MVP ยังไง หรือทำ MVP ออกมาแล้วแต่ก็ยังไม่รู้ insight ของลูกค้าอยู่ดี แต่หากท่านใดทราบแล้ว ก็อาจจะห้ามบทความนี้ไปนะครับ

วันนี้จึงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับการทำ MVP หรือที่เราเรียกว่า Minimum Viable Product ซึ่งทีมเราก็มีการเริ่มต้นจาก Idea พัฒนาไปจนถึง มี product และมี customers บ้างแล้ว เราก็พัฒนาตามหลัก Startup ทั่วไปผ่านเครื่องมือหลายชนิด หนึ่งในนั้นก็เห็นจะเป็น Lean Canvas เพราะเหมาะกับ Idea Stage สุดละครับ

แต่ปัญหามีอยู่ว่า เมื่อพัฒนาและเปลี่ยนไอเดียไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเราใช้เวลานานเกินไปในการพัฒนา MVP เราจึงได้กลับมาพิจารณาร่วมกันอีกทีว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไร ทำไม Product ของเราจึงไม่ค่อยมี Active Users

ปรากฎว่า MVP หรือ Minimum Viable Product ของเราไม่ได้ Minimum เลย คือเราทำตาม Lean Canvas ในช่อง Problem เลย คือให้เลือกมา 3 ปัญหา ในการที่หาวิธีแก้ไขมัน แต่ 3 ปัญหานั้นที่เราพยายามแก้ มันค่อยข้างใหญ่ และใช้เวลาในการแก้ไขนานเหลือเกิน อีกอย่างคือเรารอให้ MVP นั้นที่จะแก้ทั้ง 3 ปัญหาเสร็จแล้วเอาไปให้ลูกค้าใช้ทีเดียว พอเราได้ Feedback กลับมาก็ต้องมาแก้ไขอีกซึ่งมันก็ใช้เวลา

ทีมเราจึงได้มีโอกาสได้ร่วมศึกษาการทำ MVP กับโครงการ

Home - Startups in Residence | SIRThailand

ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้นะครับ

เราจึงถึงบางอ้อเลยครับว่าเราติดอะไร

โดยหลักการแล้ว เราควรเลือกแก้ 1 ปัญหาก่อน แล้วเอา Feedback มาพัฒนาต่อ ถ้าเราแก้หลายปัญหาในครั้งเดียว เวลาไป validate ลูกค้าจะงง

Lean Canvas, Problem

สิ่งที่ควรทำในการทำ MVP คือ

1. แตกปัญหาออกมาให้ได้มากที่สุด โดยเริ่มต้นคำถามว่า ทำไม ทำไม… หรือ Start with Why
2. เรียงความสำคัญของปัญหา วิธีทำก็ใช้ Post it เขียนแผ่นละ 1 ปัญหา แล้วเรียกมันลงมาเรื่อยๆ (ไม่มีปัญหาไหนอยู่ในระดับเดียวกันนะครับ)
3. เลือกปัญหาอันที่ 1 มาแก้ก่อน เพื่อทดสอบหรือ Validate กับลูกค้า เพื่อให้เราของใจลูกค้ามากขึ้น
4. พิจารณาว่า ปัญหาอยู่ในระดับใด เพื่อที่เราจะได้เลือกวิธีแก้ไขได้ถูก
5. เลือกวิธีที่จะแก้ปัญหาให้ลูกค้า
6. ลงมือพัฒนา MVP เพื่อไปทดสอบกับลูกค้าเป้าหมาย

ขั้นตอนคร่าวๆ ก็คงประมาณที่เราได้ลองใช้กันดู แล้วมัน Work อยู่นะครับ ซึ่งเราก็อยู่ช่วงพัฒนาเพื่อให้มัน Fit กับการทำงานของเราด้วย

หากเพื่อนๆ มีข้อเสนอแนะนำ ก็ช่วยกันแชร์ด้วยนะครับ