สามเรื่องดีๆที่ทำน้อยลง

Piyorot
Life As I Feel It
Published in
1 min readJul 27, 2015

บทความนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

อ่านหนังสือน้อยลงมาก

ผมอ่านบทความทุกวันแหละ แต่ถ้าพูดถึงหนังสือที่เป็นเล่มๆ (อีบุ๊ก) แล้วหละก็ … ต้องย้อนไปไกลมากเกือบหนึ่งปีเลยมั้ง เท่าที่จำความได้เล่มล่าสุดที่ผมอ่านและยังอ่านไม่จบคือ Hooked: How to Build Habit-Forming Products

Hooked on Amazon: http://www.amazon.com/dp/1591847788/?tag=hooked-us-20

เป็นหนังสือที่ดีเล่มนึงเลยครับ … ผู้เขียนเล่าให้ฟังเรื่องการออกแบบโปรดักส์ที่เปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมผู้ใช้ได้ เป็นทั้งเรื่องทางจิตวิทยาและการบริหารจัดการโปรดักส์ … อ่านไม่จบเพราะตอนนั้นแทปเล็ตอันเก่าพังไปซะก่อน ฮ่าๆ

มันไม่ใช่ข้ออ้างหรอกนะเพราะผมเพิ่งซื้อไอแพดมาเมื่อเดือนที่แล้วแต่อาจจะเป็นเพราะว่าพฤติกรรมการอ่านหนังสือผมเปลี่ยนไปขาดหายไปซะแล้วก็เลยยังไม่ได้กลับไปอ่านต่อ แย่ แย่ แย่ … มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองขาดหายจากการเพิ่มความรู้ใหม่ๆเข้าสมองมาซักพักแล้ว จริงอยู่การอ่านและเขียนบทความมันจะช่วยให้ผมไม่เป็นโรคสมองฝ่อ แต่ผมเริ่มจะเบื่อกับคำว่า Project Management, Lean Start-up, และ Agile Software Development แล้ว เหมือนมันตีบตัน … ผมต้องการความรู้ในศาสตร์ใหม่ๆเพื่อให้ตามโลกทัน วิธีเดียวที่ดีที่สุดที่ช่วยผมได้คือการกลับไปอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ให้จบซึ่งตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายไปซะแล้ว แฮ่ๆๆ

เขียนหนังสือน้อยลงมาก

ผมเขียนบทความทุกวัน … ผ่านคอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ และเม้าส์ จริงๆมันไม่ผิดอะไรหรอกแต่ผมเริ่มรู้สึกว่ากำลังสูญเสียทักษะหนึ่งที่เคยเป็นจุดเด่นของผมนั่นคือการจดบันทึกด้วยปากกาและกระดาษ — สำคัญนะ

แต่ก่อนผมเคยจดเร็ว จดเรียบร้อย ลายมือสวยงาม (เห็นแล้วคิดว่านี่มันลายมือผู้หญิงชัดๆ — ดูตัวอย่างจากรูปในหัวข้อที่สาม) แต่หลังจากเรียนจบเมื่อห้าปีที่แล้ว ผมแทบไม่ได้เขียนหนังสือด้วยปากกากับกระดาษอย่างจริงๆจังๆอีกเลย จากทักษะที่เคยเป็นจุดแข็งอย่างไรถ้าเราไม่ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอมันก็จะค่อยๆสลายหายไปได้ … จนกลายเป็นแบบนี้

เปิดอ่านสมุดจดตัวเองหลังๆมานี้รู้สึกไม่ค่อยปลื้มใจเท่าไร ลายมือไก่เขี่ยมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน … เห้อ

คิดในกระดาษน้อยลงมาก

ผมคิดในใจกับคิดในสมองมากขึ้น ทุกเรื่องเลย จะเรื่องเขียนบทความ เรื่องงาน การออกแบบระบบ การทำพรีเซ็นเตชั่น ผมคิดจินตนาการภาพในสมองทั้งหมด แล้วมันไม่ดียังไง? ไม่ใช่ไม่ดีนะแต่มันไม่ครอบคลุม ประเด็นมันคือแบบนี้ ผมเข้าใจว่าสมองเรามันเก็บข้อมูลได้จำกัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลชั่วคราวแบบการคิดไอเดีย การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล เมื่อเราคิดลึกลงไปเมื่อมีการแตกแขนงของข้อมูลมากขึ้น … สมองเราจำได้ไม่หมดครับ เดี๋ยวลืมจุดนั้น เดี๋ยวขาดจุดนี้ เดินไปกินข้าวกลางวันกลับมาลืมหมดแล้วครับว่าเมื่อกี๊คิดอะไรไว้บ้าง

ผมลองสังเกตดูว่าถ้าเมื่อไรก็ตามที่ผมเริ่มมีการออกแบบเรียบเรียงความคิดตัวเองก่อนด้วยการเขียน … ในกระดาษก็ได้ บนกระดาษก็ได้ ทุกอย่างมันจะเป็นระเบียบมากขึ้น เราจะได้ภาพที่ชัดเจนขึ้น เราจะเห็นจุดพกพร่องได้อย่างรวดเร็วด้วยตา เราจะแก้ไขและเพิ่มเติมมันได้ทันทีด้วยมือ

ผลลัพธ์ที่ได้คือแนวทางการทำงานที่ชัดเจนขึ้นครับ มีบ้างที่ผมนั่งร่างโครงสร้างของบทความที่ผมอยากเขียนในกระดาษ มันดีนะเพราะถึงเวลาเขียนจริงมันลื่นไหลมากเลย ไม่ต้องมาคอยหยุดคิดว่า … “อ่าวเฮ้ย เขียนมาแบบนี้แล้วจะไปยังไงกันต่อดีวะ”

ถ้าเจอปัญหาลึกๆหรืองานที่มันซับซ้อน การเริ่มต้นด้วยกระดาษและปากกาจะช่วยได้มากครับ … ผมจะพยายามฝืนตัวเองกลับมาทำแบบนั้นให้ได้

ทั้งสามข้อไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรเลย … แต่ชีวิตคือการมีวินัย วินัยที่จะทำเรื่องดีๆต่อไป

--

--

Piyorot
Life As I Feel It

A member of Mutrack and Inthentic. I lead, learn, and build with vision, love and care. https://piyorot.com