Piyorot
Life As I Feel It
Published in
1 min readDec 29, 2018

--

อีเมล์

เป็นหนึ่งในเรื่องที่ค่อนข้างน่ารังเกียจและไร้สาระ แต่ทำไมมันจึงกลายเป็นมาตรฐานในการป้องกันตัวเองไปแล้ว?

เมื่อการส่งอีเมล์ไม่ใช่เพื่อการแจ้งข่าวสารหรือตอบคำถามหรือให้ข้อมูล แต่มันกลายเป็นเกราะป้องกันตัวเองด้วยการสร้างหลักฐานแบบถาวรว่า “ฉันไม่ผิดนะ”

เมื่อเราต้องตอบกลับทุกคนในโลก (Reply All)

เมื่อเราต้องทั้งซีซีและบีซีซี (CC, BCC)

เมื่อเราพึ่งพาการคุยโทรศัพท์ส่วนตัวไม่ได้อีกต่อไปเพราะคำพูดไม่มีหลักฐาน เราต้องส่งอีเมล์สำทับเข้าไปอีก

เมื่อการพูดคุยกันตัวต่อตัวก็ยังไม่ปลอดภัยเพราะบทสนทนานั้นหายไปกับสายลม อีเมล์จึงต้องถูกร่อนออกไปอย่างทั่วถึง

ผมคิดว่ามันน่ารังเกียจเพราะความเชื่อใจนั้นหาไม่ได้ในความสัมพันธ์นี้ ไม่ว่าจะระหว่างเพื่อนร่วมงาน ระหว่างแผนก ระหว่างเรากับพาร์ทเนอร์ หรือระหว่างเรากับลูกค้าก็ตาม

และผมเคยได้ยินคนนึงพูดกับลูกทีมว่า “จะอยู่ที่นี่ได้มันต้องมาร์เก็ตติ้งตัวเองเว้ย” – อีเมล์ มาร์เก็ตติ้งก็เป็นกลยุทธ์ที่พนักงานใช้ให้เห็นกันบ่อยๆ ฉันได้งานนี้ ฉันแก้ปัญหานี้สำเร็จ ฉันเป็นเจ้าของไอเดียนี้

น่านับถือมั้ย … กับพฤติกรรมแบบนี้ ในองค์กรแบบนี้

และผมเพิ่งเจอมากับตัวเองสดๆร้อนๆ เมื่อความไว้ใจที่ผมให้ไปกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา เมื่อผมพึ่งพาการคุยและเจรจาต่อรองแบบตัวต่อตัวและผ่านโทรศัพท์ เมื่อได้ข้อสรุปตามขั้นตอนผมก็จบแค่นั้น ไม่มีการส่งอีเมล์ยืนยัน ไม่มีการเก็บหลักฐานไว้ให้วุ่นวาย … ด้วยความไว้ใจ

กลับกลายเป็นว่ามันเกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดจากฝั่งนั้น ระดับปฏิบัติการกับระดับบริหารมีช่องว่างขนาดใหญ่ในการสื่อสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในตัวผมในบริษัทของผม การประชุมด้วยเป้าหมายที่ดีกลายเป็นช่วงเวลาการระบายความแค้น … ของฝั่งนั้น

ก็จบไป เพราะผมก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาทำงานกับกลุ่มคนที่ไม่เคารพคนอื่น ผมรู้สึกดีมากที่ไม่ได้ตอบโต้อะไรไป ผมรู้สึกดีมากที่ยุติความสัมพันธ์ที่ดูอิหลักอิเหลื่อมานานลงได้แบบถาวร ในการมองย้อนหลังแวบแรกผมพบว่า อืมมม ถ้าเราไม่ไว้ใจคนขนาดนั้นแล้วเก็บหลักฐานทุกอย่างผ่านอีเมล์หรือเอกสาร เราน่าจะปลอดภัยกว่านี้ … นี่มันความผิดของเรานะ

สองวันผ่านมา ผมจึงได้ข้อสรุปใหม่ว่า “ไม่เลย มันไม่ใช่ความผิดเราที่ไว้ใจคน มันไม่ใช่ความผิดเราที่ไม่มานั่งบ้าเก็บหลักฐานนั่นนี่ เพราะเราคือคนแบบนี้ คนที่ไว้ใจได้ คนที่เคารพคนอื่น คนที่ซื่อสัตย์และโปร่งใส และเราต้องการทำงานกับคนที่ซื่อตรงเหมือนกับเรา … เราไม่ผิดเลยในกรณีนี้ จะผิดอย่างเดียวที่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมานานกับการรักษาความสัมพันธ์แย่ๆกับพฤติกรรมแย่ของคนอีกฝ่าย เราเสียเวลามากไป และครั้งหน้าเราต้องเด็ดขาดกว่านี้ ถ้าเริ่มรู้สึกไม่เชื่อใจอีกฝ่าย เราต้องจบเรื่องทันที ตอนนั้นเลย”

ไม่ ผมจะไม่ใช้อีเมล์เพียงเพื่อเป็นเครื่องมือสร้างหลักฐานเพื่อป้องกันตัวเองหรือโฆษณาหาเครดิตให้ตัวเองหรอก มันไร้สาระและเสียเวลาอันมีค่าในชีวิตจริงๆ

--

--

Piyorot
Life As I Feel It

A member of Mutrack and Inthentic. I lead, learn, and build with vision, love and care. https://piyorot.com