Don’t say “I don’t have time”

365 Days of My Exercise Routine

Piyorot
Life As I Feel It
1 min readAug 7, 2016

--

วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่ผมออกกำลังกายทุกวัน

แรงบันดาลใจมาจากการอ่านบทความนี้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว

ใจความสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความคิดของผมอย่างมากคือ

“After a few days you’ll have a chain. Just keep at it and the chain will grow longer every day. You’ll like seeing that chain, especially when you get a few weeks under your belt. Your only job is to not break the chain.” — Jerry Seinfeld

“หลังจากผ่านมาไม่กี่วันคุณจะเริ่มมีลูกโซ่ แค่รักษามันไว้แล้วโซ่นั้นจะเติบโตขึ้นทุกๆวัน คุณจะอยากเห็นว่าโซ่อยู่เรื่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณผ่านมันมาได้แล้วสักสองสามสัปดาห์ หน้าที่ของคุณมีแค่อย่าทำให้โซ่นั้นหลุดจากกัน” — เจอรี่ ไซน์เฟล

วันรุ่งขึ้นผมก็ลองท้าทายตัวเองเลยด้วยการตั้งปณิธานว่าจะออกกำลังกายให้ได้ทุกวัน และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้โซ่ของผมขาดจากกัน จากช่วงแรกที่ค่อนข้างยากกลายเป็นตอนนี้ที่ไม่ต้องบังคับตัวเองอะไรเลย มันกลายเป็นกิจวัตร มันกลายเป็นนิสัย และมันส่งผลดีต่อสุขภาพของผมอย่างยิ่ง — หนึ่งปีมาแล้วที่ผมไม่ป่วยเป็นไข้หวัดเลย

เพราะเป้าหมายของผมไม่ใช่ลดน้ำหนักหรือการเข้าประกวดชายงาม (ไม่ใช่แบบในรูปเลย ฮ่าๆ) คำว่าออกกำลังกายของผมจึงไม่ใช่การเข้ายิมหรือฟิตเนสเซ็นเตอร์ (ผมไม่ชอบอะไรแบบนั้น) คำว่าออกกำลังกายของผมจึงไม่ได้ถูกกำหนดช่วงเวลาขั้นต่ำไว้ว่าวันละหนึ่งชั่วโมง คำว่าออกกำลังกายของผมจึงไม่ได้ถูกกำหนดด้วยรูปแบบตายตัวที่ใครกำหนดให้ แต่เป็นผมกำหนดเองตามอารมณ์และความฟิต

บางวันผมมีเวลามากผมเลือกแอโรบิกบ้าง คาร์ดิโอบ้าง หลังๆเปลี่ยนมาเล่นเวทเบาๆด้วยดัมเบล บางครั้งก็ฟูลบอดี้ เวิร์คเอ้าท์แบบโหดๆ บางครั้งเน้นแขน บางที่เน้นท้อง บางอารมณ์ก็เล่นช่วงล่าง

บางวันผมมีเวลาน้อยก็ขอแค่เวลาสี่นาทีกับการออกกำลังกายที่เร็วที่สุดในโลกแบบนี้

บางวันอยากสูดอากาศบ้างก็จะเลือกออกไปวิ่งให้เหงื่อออกสักหน่อย ไม่ไกลครับ ไม่ใช่มาราธอนหรือไตรกีฬา (ไม่สามารถจริงๆ ฮ่าๆ) แค่ 3.2 กม.เท่านั้นแหละก็ทำให้ผมรู้สึกเติมเต็มแล้ว

ดัมเบลสองข้าง … รองเท้าวิ่งหนึ่งคู่ … ยูทูปในแล็ปท็อป ผมร้อยและรักษาโซ่ยาวๆของผมมาได้หนึ่งปีเต็มๆแล้ว และผมตั้งใจจะให้มันยาวต่อไปอีกนานแสนนาน

ผมเริ่มจากการเขียนบล็อกทุกวัน ตามมาด้วยการออกกำลังกายทุกวัน … สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมเรียนรู้ได้จากความพยายามสร้างนิสัยและกิจวัตรประจำวันที่ดีให้กับตัวเองก็คือ

ประโยคที่ว่า “ฉันไม่มีเวลา” ไม่มีอยู่จริง

“ฉันไม่มีเวลา” เป็นข้อแก้ตัวง่ายๆ เป็นข้อแก้ตัวยอดนิยมที่ใช้กันทั่วไป เป็นประโยคที่แสดงให้เห็นถึงการปล่อยให้ปัจจัยภายนอกมาควบคุมตารางการดำเนินชีวิตของตัวเรา

ฉันไม่มีเวลาทำแบบนั้นเลยเพราะฉันต้องทำงาน ฉันต้องไปโรงเรียน ฉันต้องเดินทาง และฉันต้องใช้ชีวิต

แต่จริงๆแล้วการทำพวกนั้น ฉันก็ต้องใช้เวลา และฉันก็เลือกที่จะมีเวลาให้กับเรื่องพวกนั้น … จริงมั้ย?

มันจึงไม่ใช่ “เวลา” ที่เป็นปัญหา … มันคือตัวฉันเองนี่แหละที่เป็นปัญหา และมันคือตัวฉันนี่แหละที่ไม่ยอมรับความจริงว่าความผิดทั้งหมดมันก็อยู่ที่ตัวเอง ที่เลือกที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องนี้ ดังนั้น

อย่าพูดว่า “ฉันไม่มีเวลา” จงพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญเพียงพอ”

ถามตัวเองอีกครั้ง … เรื่องที่อยากทำพวกนั้นมันไม่สำคัญเพียงพอจริงหรือ?

เพราะถ้ามันสำคัญจริงเราจะหาเวลาให้มันได้เสมอ อย่างที่ผมเขียนบล็อกและออกกำลังกายทุกวัน :)

คิดและเขียนคือสิ่งที่ผมชอบ แบ่งปันคือสิ่งที่ผมรัก เพราะแบบนี้ทุกวันผมเขียนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริง จากประสบการณ์ จากแนวคิด จากอนาคตที่ดีผมมองเห็น และทุกอย่างที่ผมประยุกต์ใช้เพื่อสร้างให้อินเท็นติกเป็นบ้านที่น่าอยู่ บ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่สร้างความแตกต่างในสังคมได้ — มันน่าภูมิใจที่ผมรู้ว่า … ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียวที่อยากเห็นการพัฒนา :)

Inthentic On Facebook | Inthentic On Twitter | Inthentic On Instagram

--

--

Piyorot
Life As I Feel It

A member of Mutrack and Inthentic. I lead, learn, and build with vision, love and care. https://piyorot.com