MEET LINE ENGINEER สัมภาษณ์คนไทยใน LINE Japan— คุณเมธี ชินะวนิชกิจ กับงาน Kafka
แนะนำตัวหน่อยว่าเป็นใคร จบจากที่ไหน ทำอะไรก่อนมาทำงานที่ LINE ที่ญี่ปุ่น?
สวัสดีครับผมชื่อ เมธี ชินะวนิชกิจ (Maytee Chinavanichkit) ทำงานสายไอทีมาเกือบ 6 ปี จุดเริ่มต้นก็คือตั้งแต่ไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา โดยไปเรียน Program Computer Science ที่ Lafayette College, Pennsylvania หลังจากเรียนจบก็ได้งานที่ Silicon Valley เป็น Start-up แห่งนึง ทำงานที่นั่นได้ประมาณ 2 ปีนิดๆ หลังจากนั้นบริษัทก็เริ่มขยายไปที่ต่างประเทศ ประกอบกับที่ประเทศสิงคโปร์ ณ ตอนนั้นทางรัฐบาลเค้าได้ผลักดันเรื่อง Start-up เป็นอย่างมาก เลยมีการเปิด Office ใหม่ที่สิงคโปร์ขึ้น ผมก็เลยได้มีโอกาสย้ายมาอยู่ที่สิงคโปร์ด้วยครับ
มาอยู่ที่ญี่ปุ่นได้อย่างไร และมาทำงานกับ LINE ได้อย่างไร?
ทำงานที่สิงคโปร์ได้ประมาณ 2 ปี และมีจุดเปลี่ยนก็คือ เนื่องจากผมเป็นคนชอบญี่ปุ่นมากอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก (ไปเที่ยวปีละครั้ง และสมัยเรียนเคยไปแลกเปลี่ยนอยู่ 6 เดือน) และมีเพื่อนสมัยเรียนที่เป็นคนญี่ปุ่น ก็เลยแวะไปเที่ยวและไปพักอยู่ที่บ้านเพื่อนคนนั้นเกือบ 2 อาทิตย์ ระหว่างที่อยู่ที่โน้น เค้าก็ได้ชวนดูหนังกับเพื่อนที่ LINE (เป็นกลุ่มคนที่ชอบดูหนัง) หลังจากนั้นเค้าก็แนะนำว่า เห้ย อยากทำงานที่ญี่ปุ่นใช่ไหม มาลอง Apply ที่ LINE ดูไหม ผมก็สนใจแล้วลอง Apply ดูครับ
เรื่อง Process การเข้าสมัครทำงาน รอบแรกจะเป็น Online Coding Test ให้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง มีโจทย์ 6 ข้อให้ทำ แล้วส่ง Code ไป ส่วนรอบสอง รอบสาม ก็เป็นการสัมภาษณ์ผ่าน Skype ครับ ส่วนการสัมภาษณ์สุดท้ายผมแวะไปญี่ปุ่นพอดี ก็เลยขอเข้าไปสัมภาษณ์ที่โน้นเลย
จากสิงคโปร์ไปญี่ปุ่น ตัดสินใจเร็วไหม?
ผมตัดสินใจได้ค่อนข้างเร็ว เพราะผมรักญี่ปุ่นอยู่แล้ว อยากกลับไปอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวผมเข้าใจว่า เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น กับเวลาไปทำงาน มันต่างกันมาก เพราะฉะนั้นถ้าจะกลับไป ต้องเป็นงานที่ผมทำแล้วมีความสุข อยู่แล้วมีความสุข วัฒนธรรมองค์กรต้องคล้ายกับบริษัทใน Silicon Valley คือ ชิวๆนิดนึง สวัสดิการดี และเพื่อนร่วมงานต้องเก่ง ซึ่งตอนที่สัมภาษณ์กับงานเกี่ยวกับเรื่อง Apache Kafka ได้คุยกันเจาะลึกมากๆ รู้สึกได้ว่าคนที่สัมภาษณ์เราเก่งจริงๆ ถ้าผมได้ร่วมงานกับเค้าผมก็น่าจะเก่งได้กว่าเดิมด้วย ซึ่ง LINE ตอบโจทย์ผมได้หมด
ได้ยินว่าทำงานอยู่ญี่ปุ่น ต้องพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย จริงไหม?
แล้วแต่บริษัทนะครับ ถ้าสำหรับที่ LINE แล้วแต่แผนก เพราะที่ LINE ที่ญี่ปุ่นจะมีคนอยู่ 3 ประเภท:
- คนญี่ปุ่น
- คนเกาหลี
- คนจากชาติอื่นๆ
เวลาเข้าประชุมกันหลายๆคน (ที่มาจากหลากประเทศ) ที่ LINE ญี่ปุ่นจะมีล่าม 1 คนเข้าประชุมเพื่อแปลภาษาให้ด้วย แต่จะแปลเป็นภาษาใด ภาษาหนึ่งเท่านั้น เช่น แปลจากภาษาเกาหลีเป็นภาษาญี่ปุ่น ถ้าอยู่ในแผนกนั้นเราก็ควรต้องพูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วย แต่บางแผนกอาจจะมีการแปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษให้ ก็อาจจะไม่ต้องพูดภาษาญี่ปุ่นก็ได้ครับ
ตำแหน่งตอนนี้ที่ทำอยู่ที่ LINE คืออะไร และ Scope งานดูแลส่วนไหนบ้าง?
ผมทำงานเป็น Software Engineer อยู่ในทีมชื่อ Z-Part team ส่วนที่ผมดูแลจะคุมตัว Apache Kafka (Highly Scalable Messaging Queue) ซึ่งทุกๆ Message ที่วิ่งผ่าน LINE จะวิ่งผ่านเข้ามาที่ Kafka และตัว Kafka นี้จะช่วยส่งต่อไปยังระบบอื่นๆอีกทีนึง ส่วนตัวผมกับทีมก็ช่วยกันจัดการและพัฒนาตัว Kafka เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ใช้และบริการต่างๆของ LINE ครับ
การใช้ Kafka ใน LINE เรียกได้ว่าเป็น Scale ที่เกือบจะใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ โดยมีการใช้ส่ง Message มากกว่า 3 ล้าน Message ต่อวินาที ซึ่งแน่นอนการใช้ Scale ใหญ่ขนาดนี้ก็จะพบกับปัญหาที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเจอ อย่าง 80% ของปัญหาอาจจะมีคนเคยเจอแล้ว และได้เขียนคำตอบไว้ใน StackOverflow แต่ปัญหาที่ LINE เจอจะเป็นอีก 20% ที่เหลือ ที่ยังไม่เคยมีใครเจอมาก่อน หรือมีใครเคยแก้ได้ ซึ่งเราก็ต้องพยายามผลักดันตัวเองให้แก้ให้ได้ (เพราะมันไม่มีคนอื่นแล้ว 555+)
ความแตกต่างของ Developer ที่ Silicon Valley vs สิงคโปร์ vs ญี่ปุ่น?
ตอนผมอยู่ที่ Silicon Valley เค้าจะไม่ได้เน้นหาคนที่มี Background หรือมีความรู้เยอะๆในด้านไอที แต่จะเน้นหาคนที่ฉลาด (อาจจะมาจาก Ivy Leauge) และมีความมุ่งมั่น คนพวกนี้จะเรียนรู้ได้เร็ว จับมาทำงานไม่นานก็จะเก่ง แล้วเนื่องจากเป็น Start-up ก็ต้องช่วยๆกันทำหลายๆส่วน Skill ก็จะต้องกว้างนิดนึง ที่จะสามารถทำได้หลายๆส่วนด้วย ส่วนที่สิงคโปร์ที่บริษัทตอนนั้นก็คล้ายๆกัน คือหาคนเก่งๆ ที่มี Passion ด้านเทคโนโลยีมาร่วมงานกัน
ส่วนที่ญี่ปุ่นจะต่างกันตรงที่ Developer จะเน้นว่าให้เก่งมากๆในเรื่องใดเรื่องนึง เหมือนเป็น Specialist ไปเลย อย่างเพื่อนร่วมทีม ชื่อคุณ Yuto Kawamura ก็รู้เรื่อง Kafka ลึกมากๆ เป็น Contributor คนหนึ่งเลยของ Apache Kafka
การมาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น นอกจากเรื่องงานแล้ว การใช้ชีวิตต้องปรับตัวเรื่องอะไรบ้าง?
ส่วนตัวผมก็ชอบญี่ปุ่นอยู่แล้ว แถมเคยมาเรียนด้วยเลยปรับตัวไม่เยอะครับ ผมไม่ค่อยชอบขับรถ อยู่ญี่ปุ่นก็ไม่ต้องใช้รถอยู่แล้ว สามารถนั่งรถไฟไปได้เกือบทั่วประเทศ แล้วผมชอบเมืองใหญ่ๆที่มีอะไรให้ทำเยอะ หรือมีของกินเยอะๆ ที่โตเกียวก็เป็นเมืองใหญ่แบบนั้น วัฒนธรรมการทำงานของญี่ปุ่นหลังจากเลิกงานก็อาจจะมีไปร้องคาราโอเกะกัน ผมก็ชอบไปครับ :)
พูดถึงวัฒนธรรมขององค์กรของ LINE ที่ญี่ปุ่นที่น่าสนใจ และน่านำเอาไปปรับใช้ที่ประเทศไทย?
ที่ LINE ญี่ปุ่นจะค่อนข้าง “เปิดกว้าง” ในการรับคนเข้าทำงาน หมายความว่าหาคนที่เก่งในงานที่ทำ แม้จะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ หรืออังกฤษไม่ได้ ไม่เป็นไร เรื่องภาษาเค้ามีทีมล่าม ซึ่งเป็นล่ามที่เจาะจงด้าน Technical ทีมใหญ่เลย สามารถเข้าใจ Context เพื่อมาแปลให้อีกทีนึง ขอให้คุณเก่งจริง พูดในภาษาที่ถนัด เดี๋ยวมีคนแปลสิ่งที่คุณพูดให้คนอื่นฟัง อย่างเวลาเข้าประชุมจะมีการแปลสดให้ฟัง มีหูฟังให้ผู้เข้าประชุมสามารถฟังคนที่กำลังพูดได้เลย
อีกอย่างนึงผมรู้สึกว่าที่นี่เป็นวัฒนธรรมที่ค่อนข้าง Unique คือจะไม่เหมือนวัฒนธรรมการทำงานแบบคนญี่ปุ่น หรือ คนเกาหลี หรือประเทศอื่นๆ การทำงานใน LINE ที่ญี่ปุ่นจะออกเป็นอีกแนวนึงไปเลย คล้ายๆกับว่าเป็นการผสมผสานเอาข้อดีหลายๆอย่างมารวมกัน อย่างวัฒนธรรมการทำงานคนญี่ปุ่น คนเกาหลี เราจะมีภาพในหัวว่า ทำงานหนัก กลับดึก ดื่มหนัก แล้วทุกคนต้องไปด้วยกัน ซึ่งที่ LINE ที่ญี่ปุ่นไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้าคุณมีครอบครัว อยากกลับบ้านเร็ว ไม่สะดวกจะไปดื่ม ก็ไม่ต้องไปโดยไม่มีแรงกดดันจากเพื่อนร่วมงาน แต่เรื่องงานทุกคนตั้งใจทำงานเต็มที่และ Proactive ในงานที่ตัวเองทำ
นอกเหนือจากงาน บริษัทก็สนับสนุนกิจกรรมหลายๆอย่าง เช่น มีการจัด Team Outing ไปเล่นสกีเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของพนักงาน ใครมีครอบครัวก็สามารถพาครอบครัวไปได้ด้วย
ถ้าน้องๆ รุ่นหลังที่อยากมาทำงานสายไอทีในญี่ปุ่น มีคำแนะนำอย่างไรบ้างครับ?
ถ้าชอบไอทีนะครับ ผมแนะนำว่าต้องผลักดันตัวเอง ทำให้ตัวเองเก่งให้ได้ ถ้าเราเก่งแล้ว อยากจะไปอยู่ที่ไหนในโลก เค้าก็รับครับ เพราะคนที่เก่ง เค้าก็อยากจะจ้างคนที่เก่งมาทำงานด้วย เหมือนที่ Steve Jobs เคยพูดไว้ว่า “A-Player hire A-Player” ถ้าเราเก่ง คนอื่นก็จะนับถือ เค้าก็อยากจะให้เรามาทำงานด้วย ส่วนเรื่องภาษาก็รองลงมา สำคัญเหมือนกันว่าถ้าจะมาอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ ก็ควรต้องพูดญี่ปุ่นได้ด้วย เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ ถ้าอยากรู้จักคนโน้น คนนี้ อยากใช้ชีวิตประจำวันให้สะดวก ถ้าคุยได้ชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้นครับ
อีกเรื่องนึงก็อาจจะต้องเลือกให้ดีว่าบริษัทที่เรากำลังจะไปทำงาน เป็นเหมือนที่เราคิดหรือเปล่า เพราะภาพในหัวที่เราคิด กับความเป็นจริง บางทีมันไม่เหมือนกัน เพราะมีเพื่อนหลายคนที่พยายามมาทำงานที่ญี่ปุ่น แล้วได้งานที่ไม่เหมือนที่คิด อาจจะอยากทำงานที่โตเกียว แต่โดนส่งไปต่างเมือง หรือเรื่องวัฒนธรรมต่างๆ ก็ต้องหาข้อมูลและทำการบ้านให้ดีครับ
สำหรับใครที่สนใจการทำงานที่ LINE ที่ญี่ปุ่น สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ ขอบคุณครับ
