รวม 3 ฟีเจอร์เด็ด LINE Official Account ประจำปี 2019
ใกล้จะหมดปี 2019 แล้ว วันนี้เราคัด 3 ฟีเจอร์เด็ดๆ ใน LINE Official Account มาให้ทุกคนอีกทีว่าตลอดปี 2019 มีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าทั้ง 3 ฟีเจอร์นี้มีพร้อมใช้งานอยู่ใน LINE Official Account https://manager.line.biz/ ทั้งหมดแล้ว! ไม่ต้อง Dev เพิ่มใดๆทั้งสิ้น
- Card-based messages
เริ่มกันที่ Card-based messages คือ การส่งข้อความให้อยู่ใน Template ที่สวยงาม สามารถเปิดดูได้ทั้งใน Mobile และ Desktop โดยที่เราไม่ต้อง dev หรือเขียนโปรแกรมเลย! คนที่เป็น Developer คงคุ้นเคยกันดี มันก็คือ Flex Message นั่นเอง
ซึ่ง LINE ได้เตรียม Template ไว้ให้เลือกใช้งานเบื้องต้นทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน โดยแต่ละแบบก็จะมี layout ที่เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันไป
- Products เหมาะสำหรับสินค้า เพราะสามารถตั้งราคาและเลือกค่าเงินได้
- Places จุดเด่นคือสามารถใส่ Location, วัน, เวลา, รูปภาพได้
- People เน้นโชว์ภาพคนและคำบรรยายสั้นๆ
- Pictures เน้นแสดงรูปภาพเป็นหลัก
การส่งข้อความแบบ Card Type นอกจากจะทำให้ข้อความดูสวยงามแล้ว เรายังสามารถเพิ่มปุ่ม Call to action ให้ Follower ได้อีกด้วย โดยสามารถเพิ่มปุ่มได้มากสุด 2 Call to action และเลือก Call to action ได้ทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ได้แก่
- URL — ลิ้งค์ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึง LIFF ด้วย โดยจะขึ้นต้นด้วย ได้ทั้ง https:, http:, line
- Coupon — ลิ้งค์ไปที่คูปองของร้านของเรา (เลือกสร้างคูปองได้ทั้งแบบ Discount, cashback, free, Gift แต่จะต้องสร้าง Coupon ให้เสร็จก่อนเลือก call to action นี้ค่ะ)
- Rewards — ลิ้งค์ไปที่ Reward Card หรือบัตรสะสมแต้ม
- Survey — ลิ้งค์ไปยังแบบสอบถามที่เราสร้างไว้แล้ว
รูปด้านล่างคือตัวอย่างการใช้ Card Type แบบ Place เพื่อส่งข้อความแจ้งข่าวงาน Event ต่างๆ ใน LINE Official Account
2. A/B Testing
A/B Testing ถือเป็น tools ที่เหมาะสำหรับนักการตลาดที่อยากทดสอบตลาด ว่าสินค้า, แคมเปญ หรือโฆษณา ระหว่างแบบ A และ แบบ B แบบไหนได้รับความสนใจมากกว่ากัน ช่วยให้เราเข้าใจ insight ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายดียิ่งขึ้น เราจึงนำสถิติไปพัฒนาให้แบรนด์ส่ง message ได้ตรงใจลูกค้า และได้ผลลัพธ์ดีขึ้นในอนาคต
อันดับแรกต้องไปสร้าง message ทั้ง 2 แบบที่ต้องการจะทดสอบขึ้นมาก่อน เราสามารถเลือกส่งทดสอบ A/B Testing ได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Sticker, Photo, Coupon, VDO, Rich Message, Rich VDO, Voice Message, Survey หรือ Card-based Message
ในตัวอย่างนี้ เราต้องการทดสอบว่า Rich Message แบบไหนที่ Follower จะคลิกมากกว่ากันระหว่าง Artwork สีแดงกับสีน้ำเงิน โดยให้เนื้อหาใน Artwork เหมือนกันทั้งหมด
เมื่อสร้าง Message ที่ต้องการจะส่งแล้วก็ค่อยไปสร้าง A/B Testing ที่เมนู New Broadcast >> Create A/B Testing
- Target Sample — คือ จำนวน “กลุ่มตัวอย่าง” ที่จะส่ง A/B Testing เราสามารถเลือกจำนวน Target Sample ที่จะส่งข้อความทดสอบได้ ว่าต้องการจะทดสอบกี่เปอร์เซ็นต์ของจำนวน Follower ที่มีทั้งหมด ระบบจะกำหนด default มาให้ที่ 50% แต่เราสามารถปรับเปอร์เซ็นต์ให้มากหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ค่ะ ในตัวอย่างนี้ มีจำนวน Follower ทั้งหมด 44,604 เลือกสุ่ม Test 50% ก็จะได้จำนวน Target Sample เท่ากับ 44,604/2 = 22,303 คน
- Per Variant — คือ จำนวนผู้รับข้อความ Test แบ่งเป็น A:B = 50:50 (22,303/2 = 11,152)
- Target Exclude — จำนวน Follower ที่เหลือ (คนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับข้อความใดๆ)
เมื่อสร้างข้อความทดสอบทั้ง 2 ชุดเสร็จแล้วก็กดส่งได้เลย รอดูว่าข้อความ A กับ B จะมีผลแตกต่างกันอย่างไร
สามารถไปดู result ได้ที่ Insight >> Broadcast
สรุปผลจากตัวอย่างนี้จะเห็นว่า Artwork ที่เป็นสีแดงมีคนกด Click มากกว่าสีน้ำเงิน (นิดหน่อย) เราก็อาจจะพอสรุปได้ว่าคนน่าจะชอบสีแดงมากกว่า ในการส่งข้อความหา Target Excluded (คนที่เหลือ) เราก็ควรเลือก roll-out สีแดง เพื่อให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้นค่ะ
ป.ล. A/B Testing จะสามารถใช้งานได้ต่อเมื่อมีผู้ติดตาม 5,000 คนขึ้นไปเท่านั้นค่ะ
3. Rich Menu Maker ที่มาอยู่ใน manager console แล้ว
หากคุณเคยใช้ LINE Official Account มานานแล้วคงจะพอทราบว่าเมื่อก่อนเราต้องไปสร้าง Rich Menu จาก link https://lineforbusiness.com/richmenumaker/ แต่ตอนนี้ LINE ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานโดยนำ rich menu maker มารวมไว้ใน https://manager.line.biz/ เป็นที่เรียบร้อย ไม่ต้องเปิดเว็บหลายๆแท็บอีกต่อไป! :D
นั่นก็เป็นทั้งหมดทั้งมวลของฟีเจอร์เด่นๆที่น่าสนใจของ LINE Official Account ปี 2019 ค่ะ ใครที่อยากใช้งานฟีเจอร์พวกนี้ก็อย่าลืมอัพเดตจาก LINE@ เป็น LINE Official Account กันนะคะ
