ว่าด้วยเรื่อง Web Browser Engine และทำไม Microsoft Edge ถึงย้ายไปใช้ Chromium Based Engine ?
ใครที่ได้ติดตามข่าวสารวงการ Internet และ Web Browsers ในช่วงนี้ก็คงจะได้อ่านข่าวที่ Web Browser ของค่าย Microsoft อย่าง Microsoft Edge ได้ทำการเปลี่ยน Engine ในการ Render เว็บใหม่ไปใช้ Engine ตัวเดียวกับ Google Chrome อย่าง Blink Engine ทำให้ Microsoft Edge ก็กลายเป็นหนึ่งใน Chromium Based Browsers เป็นที่เรียบร้อย
ตอนที่ผมได้อ่านข่าวนี้ก็เกิดความสงสัยว่า “ทำไม Microsoft ถึงยอมย้ายตัวเองไปใช้ Engine ตัวเดียวกับที่ Chrome ล่ะ ทำไมไม่พัฒนาและใช้ Engine ของตัวเองต่อไป ?” แต่ก่อนที่จะไปหาคำตอบของคำถามนี้ ผมขอเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ฟังก่อนว่าบนโลกของ Web Browsers ที่เราใช้ๆ กันอยู่ทุกวันนี้มันมี Engine ที่ใช้ในการแสดงผลอะไรบ้าง และแต่ละ Engine มี Browser ตัวไหนใช้อยู่บ้าง มาดูกัน
Browser Engine
ต้องอธิบายก่อนว่า Browser Engine มันคือ Software Component ที่ Web Browser ใช้ในการแปลงข้อมูลในรูปแบบ HTML และข้อมูลอื่นๆ ในเว็บ เช่นรูปภาพ, ไฟล์ media ต่างๆ ที่เหล่า developers เป็นคนพัฒนาเอามาแสดงผลให้ user อย่างเราๆ สามารถเห็นเป็นหน้าตาเว็บสวยๆ และสามารถมี Interaction กับมันได้ เช่นคลิกปุ่มหรือพิมพ์ป้อนข้อมูลเข้าไปในเว็บได้ เป็นต้น
ซึ่งในโลกของอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็น World Wide Web (WWW) Open Standard จึงมีการพัฒนา Browser Engine ออกมาในหลากหลายรูปแบบ ผมขอยก Engine ที่เด่นๆ มาเล่าให้ฟัง 5 ตัวดังนี้ครับ
- Webkit เป็น Browser Engine ที่ถูกพัฒนาโดย Apple ซึ่งถูกนำไปใช้กับ Browser ค่าย Apple อย่าง Safari เป็นหลักและรวมถึง Browser ทุกตัวที่รันอยู่ใน iOS ทุกอันจะถูกบังคับให้แสดงผลด้วย Webkit Engine ด้วยครับ (Chrome App ที่รันอยู่ใน iOS เองก็ต้องใช้ Webkit ในการแสดงผลนะครับ)
- Blink หรือ Chromium Based Engine เป็น Browser Engine ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากที่สุด ถูกใช้เป็น Engine ที่ใช้ในการแสดงผลใน Google Chrome และรวมถึง Browser ที่ถูกพัฒนาอยู่บน Chromium Project ทั้งหมด Blink Engine ถูกพัฒนาร่วมกันโดยหลายบริษัทใหญ่ทั้ง Google, Facebook, Intel และ Samsung เป็นต้น โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้น Google Chrome ก็ใช้ Webkit Engine ตัวเดียวกับ Safari นั่นแหละครับ จนกระทั่งปี 2013 ทาง Google ก็ได้ Fork Webkit Engine ออกมาทำเองเพื่อเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น และตั้งชื่อใหม่ว่าเป็น Blink Engine นั่นเอง
- Gecko เป็น Browser Engine ที่ถูกพัฒนาโดย Mozilla ซึ่งถูกนำมาใช้ใน Mozilla Firefox และ Application ที่ถูกพัฒนาโดยบ. Mozilla หลายตัวเช่น Thunderbird Mail Client เป็นต้น
- Trident เป็น Classic Browser Engine ที่ถูกพัฒนาโดยบ. Microsoft เพื่อนำมาใช้กับ Internet Explorer Browser ยอดนิยม (ในอดีต) และถูกนำมาใช้ในหลายๆ Application บน Windows อีกด้วย
- EdgeHTML เป็น Browser Engine ที่ถูกพัฒนาโดย Microsoft เช่นกัน โดยเป็นการ Fork ออกมาจาก Trident เพื่อเพิ่มความสามารถหลายๆ อย่างให้กับ Modern Web Technology และมีจุดประสงค์เพื่อนำมาใช้เป็น Engine บน Microsoft Edge โดยเฉพาะ
ทำไม Microsoft Edge ถึงเปลี่ยนไปใช้ Chromium Based Engine ล่ะ?
บทวิเคราะห์ที่จะได้อ่านต่อจากนี้ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ Stakeholders ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ
แรกเริ่มเดิมที Microsoft สร้าง Engine ของตัวเองชื่อว่า “Trident” ใช้สำหรับแสดงผลบน Internet Explorer (IE) มาตั้งแต่ IE4 แล้ว จนถึงตอนที่ Microsoft จะ Release Windows 10 ออกมาทดแทน Windows 7, 8 ก็มีการประกาศการพัฒนา Browser ตัวใหม่ที่จะนำมาใช้ทดแทน IE ซึ่งนั่นก็คือ Microsoft Edge นั่นเอง โดย Microsoft ได้ทำการ Fork Trident Engine ออกมาเพื่อใช้สำหรับรันบน Edge โดยเฉพาะ ตั้งชื่อว่า “EdgeHTML” โดยเพิ่มความสามารถเข้าไปหลายอย่างเช่น รองรับการทำ Progressive Web Apps, Notification API, ปรับปรุงการทำงานของ Developer Tool และทำการ Drop Feature บางอย่างที่ไม่จำเป็นใน Trident Engine ออกเช่น ActiveX เป็นต้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Microsoft Edge ออกมาให้ใช้งานตั้งแต่ปี 2015 จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของ Web Browsers ทั่วโลกได้เท่าไรนัก
จากข้อมูลของ StatCounter ซึ่งเป็นระบบตรวจวัดข้อมูลและวิเคราะห์ Traffic ของเว็บไซต์ก็พบว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกของผู้ใช้ Web Browsers (โดยเฉพาะ Desktop Browser) Google Chrome ก็ยังมีส่วนแบ่งที่สูงที่สุดมากกว่า 60% เลยทีเดียว ซึ่งถ้าเทียบกับ Edge ของ Microsoft นั้นมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่เพียง 4.6% ซึ่งน้อยกว่า Chrome กว่า 13 เท่า!
เราจะเห็นได้ว่าในแต่ละปี Google Chrome มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับ Browser จากฝั่ง Microsoft ที่มีผู้ใช้งานลดลงเรื่อยๆ ยิ่งถ้าเราลองดูเฉพาะแค่ในประเทศไทยอย่างเดียวก็จะเห็นเป็นเทรนด์เดียวกับทั้งโลกคือมีผู้ใช้ Chrome มากกว่า 80% ส่วน Edge มีผู้ใช้เพียง 1% เท่านั้น (IE ยังมีคนใช้มากกว่า Edge เลย)
ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ Microsoft เลือกที่จะหยุดพัฒนา EdgeHTML Engine ของตัวเองและทำการย้ายไปใช้ Blink Engine ของ Chromium แทน เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถของ Microsoft Edge ให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับ Chrome ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจาก Chrome มาได้บ้าง
Microsoft Edge ย้ายไปใช้ Blink Engine แล้วดียังไง ?
- ลด Fragmentation ในการ Develop และ Test Web Application ได้ลงเยอะมาก การ Dev และ Test Web Application บน Chrome ก็ควรจะใช้งานได้อย่างดีบน Microsoft Edge ได้เช่นกัน (ยกเว้นไปใช้ Feature ที่มีเฉพาะบน Chrome อย่างเดียว)
- ได้ความสามารถหลายๆ อย่างที่มากับ Chromium เช่น สามารถ Install Chrome Extension บน Edge ได้, Sync และ Share Bookmark ระหว่าง Chrome กับ Edge ได้เป็นต้น
- การ Update Browser สามารถทำการ Update แยกกับการทำ Windows Update ได้ทำให้ไม่มี Dependency ระหว่างกัน ซึ่งในกรณีที่เกิดปัญหาที่ Browser ก็สามารถแก้ไขได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอ Update Windows ทั้งหมด
- Performance ในการใช้งานของ Edge จะเร็วขึ้นกว่าเดิมแน่นอน เพราะ Blink Engine นั้นถูกพัฒนาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานให้เร็วกว่า Webkit เดิมอย่างมาก
- สามารถใช้งานบน Platform อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Windows ได้แล้ว ตอนนี้ Microsoft Edge สามารถนำไปรันบน macOS ได้แล้วนะครับ Apple User ก็สามารถทดลองใช้กันได้
- Microsoft จะกลายเป็นหนึ่งใน Contributor ของ Chromium Project ซึ่งจะมีส่วนช่วยพัฒนาให้ Web Standard มี Feature ที่ตอบโจทย์และเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้กับ User ได้ดีมากยิ่งขึ้นในอนาคต
นอกจาก Microsoft Edge แล้วมี Browser ตัวไหนที่เป็น Chromium Based Browser อีกบ้าง ?
ตอนนี้มี Browser หลายค่ายที่ถูกพัฒนาบน Chromium Project โดยใช้ Blink เป็น Engine ในการ Render เว็บหลายอันเลยนะครับ ผมขอยกตัวอย่างซัก 3 Browsers (ไม่รวม Google Chrome) ที่น่าสนใจมาแนะนำให้รู้จักกันครับ
- Brave เป็น Open Source Browser ที่พัฒนาขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อเรื่อง Security และ Privacy โดยเฉพาะ โดยมันจะทำการ Block Ads และพวก Tracker ในเว็บต่างๆ ให้เราอัตโนมัติ (แต่เปิดกลับมาได้) และ Default Search Engine จะใช้ DuckDuckGo ซึ่งมันจะไม่เก็บ History ในการ Search ของเราไว้ด้วยเหตุผลของการรักษาความเป็นส่วนตัวของการใช้งานของเรา
- Vivaldi เป็น Free Browser ที่ถูกพัฒนาโดย Vivaldi Technologies โดยย้าย Engine จาก Presto (Engine ที่เคยถูกใช้ใน Opera Browser เดิม) มาเป็น Blink Engine โดยจุดเด่นของ Browser ตัวนี้คือ User สามารถ Custom UI บน Browser ได้เยอะมากเช่น Theme ต่างๆ สีสันบนแอพสามารถเลือกได้หมดเลย
- Naver Whale เป็น Free Browser ฝั่งเอเชียที่ถูกพัฒนาโดย Naver Corporation (บริษัทแม่ของ LINE) ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งใช้ Blink Engine เช่นเดียวกัน โดยเพิ่มความสามารถให้สามารถใช้งานร่วมกับ Ecosystem ต่างๆ ของ Naver ได้ เช่น Search Engine ใช้ของ Naver, การแปลภาษา ก็ใช้ Papago Service ของ Naver เช่นกัน
ยังมี Browsers อื่นๆ ที่ถูกพัฒนาอยู่บน Blink Engine (เราจะเรียกว่าเป็น Chromium Based Browser) อีกหลายตัวเลยนะครับ สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ
สรุป
ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับว่า Microsoft Edge หลังจากที่เปลี่ยนไปใช้ Blink Engine แล้วจะมีผลตอบรับที่ดีขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ คือ Developers และ Testers น่าจะทำงานง่ายขึ้นแน่นอนครับ!