Hiking Jungfrau: เมือง Grindelwald

Luck Charoenwatana
LuckCovery
Published in
4 min readMay 30, 2018

เทือกเขาแอลป์เป็นดินแดนธรรมชาติที่งามงด เป็นดินแดนแห่งความฝัน เป็นที่ที่เวลาหยุดเดิน เป็นที่ที่ทุกคนควรได้ไปเห็นไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต

เทือกเขาแอลป์นี้พาดผ่านหลายประเทศในทวีปยุโรป สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่เทือกเขาแอลป์พาดผ่านเป็นบริเวณกว้าง คิดเป็นเนื้อที่ถึงร้อยละ 65 ของประเทศ ยอดเขาสูงอันดับต้น ๆ ของเทือกแอลป์อยู่ในประเทศนี้เกือบทั้งหมด บริเวณรอบ ๆ ยอดเขา Jungfrau เป็นจุดหนึ่งของเทือกเขาแอล์ปที่งดงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และในบริเวณ Jungfrau นี้เองก็มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันดี เป็นเมืองเล็ก ๆ อันสวยงามที่ชื่อว่า Grindelwald — กรินเดลวาล์ด.

Grindelwald Train Station, Luck photo.

ความโดดเด่น

Grindelwald (ผมออกเสียงว่า กรินเดอวาว) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ชายขอบของเทือกเขาแอลป์บริเวณตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา เป็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดทางไปสู่เทือกเขาอันยิ่งใหญ่นี้ ความพิเศษมาก ๆ ของเมืองนี้มี 3 ประการคือ

1) สวย — ตัวเมืองอยู่ในหุบเขา ถูกโอบล้อมด้วยภูผาตะหง่าน สูงชัน ยิ่งใหญ่ และที่สำคัญ “ทุกด้าน” ทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้สวยงามยิ่งนัก มองไปทางไหน สวยหมดทุกมุม — so unreal. แค่เดิน hiking รอบ ๆ เมืองก็ได้วิวได้ภาพที่สวยงาม ทั้งที่ยังไม่ขึ้นเขาไหนซักลูกเลย

2) มีแหล่งท่องเที่ยวและภูมิประเทศแวดล้อมที่หลากหลายครบครัน — บริเวณรอบ ๆ มีทั้งหุบเขา เทือกเขา ยอดเขา หน้าผา ลำธาร ธารน้ำแข็ง น้ำตก ทะเลสาบ และผืนป่า มาที่เดียวจบครบทุกสิ่งเลยครับ แต่ละสิ่งก็ไม่ธรรมดานะครัช ขอยกตัวอย่างนิดเดียว ยอดที่เป็นไฮไลท์ของบริเวณนี้คือ ยอด Jungfrau (ยุ้งเฟรา) เป็นยอดที่สูงเป็นอันดับ 16 ของเทือกเขาแอลป์ในสวิส เป็นบริเวณแหล่งมรดกโลกยูเนสโก และมีสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปที่ยอดนี้ ส่วนทะเลสาบ Thun ที่เมือง Interlaken ซึ่งห่างออกไปแค่ครึ่งชั่วโมงนั้น มีขนาดใหญ่กว่าทะเลสาบสงขลา 2.5 เท่า ใหญ่ว่าบึงบอระเพ็ดซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของไทย 11 เท่า ใหญ่กว่ากว๊านพะเยา 120 เท่า — อะเมซิ่ง! รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ Grindelwald อ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงค์นี้ครับ

3) เป็นจุดศูนย์กลาง — จาก Grindelwald นี้ เราสามารถไปเที่ยวสถานที่ที่สำคัญในแถบนี้ได้สะดวกมาก ๆ ไม่ว่าจะไปจุดไหนก็จะมีระยะทางกำลังดี ไม่ใกล้ไม่ไกล สามารถไปเช้าเย็นกลับได้สบาย ทำให้เราสามารถพักอยู่ที่เมืองนี้ตลอดการท่องเที่ยวในบริเวณนี้ได้โดยไม่ต้องย้ายที่อยู่เลย พูดง่าย ๆ คือปักหมุดงอกรากที่เมืองนี้ได้เลย ยิ่งพักหลายคืนก็มักมีส่วนลดให้ หรืออาหารที่เราซื้อมาโดยเฉพาะอาหารสด ก็โยนใส่ตู้เย็นได้ยาว ๆ ไป

ตำแหน่งที่ตั้ง

Grindelwald อยู่บริเวณตอนกลางของสวิส อยู่ในเขตของรัฐแบร์น (Bern/Berne) ซึ่งเป็นรัฐที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของประเทศคือเมืองแบร์นด้วย หากผู้อ่านจะมองหา Grindelwald จากภาพใหญ่ที่เห็นทั้งประเทศ ให้มองหารัฐแบร์นบริเวณกลาง ๆ ของประเทศก่อน จากนั้นมองหาหาเมือง Interlaken ซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่ 2 แห่ง (Thun และ Brienz) ที่ติดกันบริเวณกลาง ๆ ทางใต้ของรัฐแบร์น จากนั้นมองลงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ประมาณทิศ 16.00 น) จะมองเห็น Grindelwald

Grindelwald valley, Google Earth 3D.

จากภาพแผนที่ 3D ด้านบน (ซึ่งทิศเหนือชี้ไปทางด้านซ้าย) จะเห็นว่า Grindelwald อยู่ใจกลางหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ ทำให้ตัวเมือง Grindelwald เองเป็นเมืองที่เดินง่าย ไม่ชันมาก เดินไปไหนมาไหนได้สบาย ผู้สูงอายุก็เดินได้ไม่มีปัญหาครับ

การท่องเที่ยวรอบ Grindelwald

Grindelwald area map, http://ontheworldmap.com

จากตำแหน่งที่ล้อมรอบด้วยภูเขา วิธีการท่องเที่ยวบริเวณนี้ก็ง่ายนิดเดียว ซึ่งก็คือ เอาเมือง Grindelwald เป็นศูนย์กลาง แล้วเราก็ไปเที่ยววันละทิศ ทิศละวัน แค่นั้นเอง เช่นวันแรกเราขึ้นไปทางด้านซ้ายของภาพ (ซึ่งเป็นทิศเหนือ) ก็จะไป Faulhorn และ Bachalpsee อีกวันเราไปทางขวาของภาพ เราก็จะไปยอด Jungfrau อีกวันเราก็นั่งรถไฟไปเที่ยวทะเลสาบที่ Interlaken เป็นต้น ซึ่งจะมีรถไฟ รถบัส กระเช้า และทางเดิน เปิดให้บริการครบครัน ทั่วถึงครับ หายห่วง อาจจะยกเว้นช่วง low season นิดนึงครับ ซึ่งจะกล่าวอย่างละเอียดกว่านี้ข้างล่างครับ

ความสวยงาม

เพียงก้าวแรกลงจากรถไฟที่สถานี Grindelwald เราจะสัมผัสความสวยงามที่ผมอธิบายมาทั้งหมดได้ทันที มนต์เสน่ห์ของ Grindelwald จะโอบล้อมเราตั้งแต่วินาทีแรกที่มาถึง ภูเขามันช่างใหญ่โตเหลือเกิน มันอยู่ใกล้มากจนเหมือนจะเอื้อมจับได้เลย ผมรับประกันได้ว่าเมื่อก้าวแรกแตะพื้นและมองเห็นภูเขาในครั้งแรก คุณจะต้องยืนตะลึงอยู่เสี้ยววินาทีนึง และต้องอุทานอะไรซักอย่างบ้างแหละ อย่างน้อยก็ในใจ ก่อนที่จะกลับมารู้ตัวว่า อ้าว ต้องยกของเข้าที่พักนะ พอยกกระเป๋าแบกขึ้นหลังเสร็จ แหงนมองภูผาอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง ความรู้สึกตื่นเต้นดี๊ด๊าหลั่นล้าจะหลั่งไหลเข้ามาในหัวใจ ขนาดก้าวแรกยังสวยขนาดนี้ ที่อื่น ๆ จะสวยขนาดไหน อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็ว ๆ

Grindelwald Bahnhof, Jeed photo.

ลักษณะเมือง

Grindelwald เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยด้วยโรงแรมและบ้านเช่าสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ถึงกระนั้นเมืองนี้เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และเทียบกับเมือง Interlaken ที่อยู่ใกล้เคียง ยิ่งนอกฤดูท่องเที่ยวยิ่งเงียบมาก เค้าไม่ได้เอาใจนักท่องเที่ยวด้วยการเอาสิ่งแปลกปลอมจากที่อื่น เช่นบาร์ที่เปิดเพลงดังหนวกหู หรือการตกแต่งร้านสไตล์โรมันมาใส่ให้เสียของ หากแต่เค้าเอาเอกลักษณ์ของเค้าเป็นที่ตั้ง และให้นักท่องเที่ยวก็ยอมรับและซึมซับไปกับสิ่งที่เค้าเป็น โรงแรมและบ้านเรือนต่าง ๆ มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ และจะมีกระถางที่ปลูกดอกไม้หลากสีอยู่ตามระเบียง เป็นเอกลักษณ์ของสวิสที่สวยงามที่เราจะสังเกตได้ทันที ที่สำคัญที่สุดคือการรักษาและอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งของและบริการต่าง ๆ ที่มีให้จะเน้นเพื่ออำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็น ให้นักท่องเที่ยวได้ซึมซับกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่และไม่ขัดแย้งกัน จุดนี้คือดีมาก

Grindelwald City Center, Luck photo.

เมืองนี้มีถนนหลักอยู่เส้นเดียว เริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟ Grindelwald Bahnhof จากจุดนี้ก็เดินตรงไปเรื่อย ๆ มีทางแยกบ้าง แต่ก็มีป้ายบอกทางไปยังสถานที่สำคัญทั่วเมือง ไปไหนมาไหนง่าย แทบไม่ต้องดูแผนที่กันเลย

ร้านอาหารมีอยู่ทั่วไป ร้านขายของแบบ Supermarket ก็มีทั้งใหญ่และเล็ก ร้าน Migros ขนาดใหญ่ (คล้าย Tesco, Big C) อยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟราว 50 เมตรเท่านั้นเอง เป็นอาคารใต้ดิน เดินตรงไปจากสถานีรถไฟไม่พลาดแน่นอน อีกร้านที่คล้ายกันก็คือร้าน COOP

Migros store at Zurich airport.

ร้านขายอุปกรณ์กีฬาและเครื่องกันหนาวต่าง ๆ มีอยู่ทั่วไป ขายทุกอย่างไล่ตั้งแต่ถุงมือ รองเท้า เสื้อหนาว จักรยาน สกี ไปจนอุปกรณ์ปีนเขาสูงที่เป็นรองเท้าหนาม ๆ ไว้เดินบนหิมะ ครบเครื่องหายห่วงครับ

ห้องพักส่วนใหญ่จะมีวิวภูเขาให้เราเห็นค่อนข้างแน่นอน แต่จะมีบ้างที่บางห้องของโรงแรมกลางเมืองที่มีตึกอื่นที่เป็นตึก 4–5 ชั้นบังวิว ซึ่งก็น่าเสียดาย ยังไงก็เช็คให้ชัวร์ก่อนจองนะครับว่าห้องได้วิวสวยหรือไม่ มาพักที่นี่ควรได้วิวธรรมชาติสวย ๆ ครับ

วิวจากห้องพักในเมือง Grindelwald, Luck photo.

ฤดูการท่องเที่ยวและช่วงเวลา

ช่วงเวลาในการท่องเที่ยวที่นี่จะมี 2 ช่วงหลักคือ ฤดูร้อน และ ฤดูหนาว โดยในแต่ละช่วงก็จะมี high, mid, และ low season ของมันเอง หน้าร้อนคือระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ส่วนหน้าหนาวคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม

ถ้ามาหน้าร้อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผมแนะนำ เราจะพบกับทุ่งภูเขาสีเขียวสุดลูกหูลูกตา ดอกไม้หลากสีสัน ยอดภูเขาสูงเสียดฟ้าที่ปกคลุมด้วยหิมะ ทั้งหมดนี้ตัดกับทะเลสาบน้อยใหญ่สีฟ้าอมเขียวเป็นระยะ สวยงามมากมายครับ อากาศก็จะไม่หนาวมากเกินไป ยิ่งถ้ามาช่วงสิงหาคมก็จะสามารถใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นสบาย ๆ ในเวลากลางวันเหมือนอยู่เมืองไทยได้เลย

ข้อดีมาก ๆ อีกข้อหนึ่งของการท่องเที่ยวฤดูร้อนคือจะมีระยะเวลากลางวันที่ยาว กล่าวคือ พระอาทิตย์จะขึ้นเร็ว เช่นประมาณตี 5 และจะตกช้า ประมาณ 20.00–21.00 น. เลย ทำให้เราเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูปได้สะใจไปเลย แม้ร้านค้าต่าง ๆ จะปิดร้านกันแล้ว แต่เราก็สามารถถ่ายรูปเล่นต่อได้สบาย ๆ

ถ้ามาหน้าหนาว เราจะพบกับเมืองและภูเขาที่ปกคลุมด้วยสีขาวโพลน ทุกสิ่งอย่างถูกหิมะปกคลุมหมด เหมาะมาก ๆ กับคนที่ต้องการมาเล่นหิมะ แค่เดินก้าวออกจากโรงแรมก็จะได้เดินลุยหิมะสมใจ เหมาะกับคนที่โหยหาความหนาว อยากได้หนาว ๆ แบบสะใจ อยากใส่ชุดกันหนาวแบบจัดเต็ม เหมาะกับคนที่จะมาเล่นสกี แต่ถ้าเล่นสกีไม่เป็น เราก็เล่น sledge (เลื่อนหิมะ) ได้ครับ ซึ่งสนุกมาก ๆ ขอบอก

Mannlichen in Winter, mid season, Luck photo.

ข้อเสียนิดนึงของช่วงนี้ก็คือระยะเวลาของวันจะสั้นลง กว่าพระอาทิตย์จะขึ้นก็อาจจะหลัง 7 โมง และจะตกเร็ว ประมาณ 16.00 ก็มืดแล้ว แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศเหงา ๆ โดดเดี่ยวสไตล์หน้าหนาว ก็คงจะชอบมาก ๆ ครับ

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าในแต่ละฤดู ก็จะมี high, mid, low season ของตัวเอง ขอแนะนำว่าถ้าเลือกได้ให้มาช่วง mid season กำลังดีครับ ประมาณ 1 เดือนก่อนและหลังช่วง high season ครับ เวลาจองโรงแรมมักจะแสดงให้เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าวันไหนเป็นช่วงไหน ราคาก็จะแตกต่างชัดเจนครับ

Grindelwald main street, Luck photo.

ช่วง high season ก็จะคนเยอะมาก ถ้าเป็นหน้าหนาวร้อยทั้งร้อยมาเล่นสกีกัน ถ้าไม่ได้มาเล่นสกี ก็อาจจะแปลกแยกนิดหน่อย แต่ถ้าอยากเห็นเค้าเล่นหรืออยากหัดเล่นสกี ก็ต้องมาช่วงนี้เลย พวกคิวในการขึ้นกระเช้าอะไรก็จะยาวหน่อย แต่ก็ไม่ได้นานเวอร์อะไร ซัก 10 นาทีอะไรแบบนี้แค่นั้นครับ ใครชอบบรรยากาศที่คึกคัก คนเยอะ ๆ และไม่เกี่ยงราคาแพง ก็เหมาะที่จะมาช่วงนี้ครับ

ช่วง low season นี่ ไม่ค่อยแนะนำเท่าไรครับ ถึงแม้ว่าราคาที่พักต่าง ๆ จะค่อนข้างถูกกว่าช่วงอื่นมาก แต่พวกกระเช้าและลานสกีต่าง ๆ มักจะปิดครับ คือมีเปิดบ้าง แต่ไม่ทุกแห่ง เส้นทางเดินเท้าและรถบัสหลายเส้นทางก็ปิดด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้ามาเที่ยวไม่กี่วันก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรมากครับ แต่ถ้ามาหลายวัน เช่น 7 วันขึ้นไป อาจจะไม่ได้ไปที่ที่อยากไป ต้องเช็คจากออนไลน์มาก่อนให้ดีว่าตรงไหนเปิดให้บริการบ้างครับ

ช่วงเวลาที่ควรมาถึง Grindelwald ในวันแรก ผมว่าเราควรมาถึงเมืองนี้ประมาณหลังเที่ยงก็ได้ครับ เช่นซักประมาณ 13.00 หรือ 14.00 น. ซึ่งเราสามารถเข้าที่พัก และออกมาเดินเล่นได้จนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ซึ่งอย่างที่บอกครับ ตัวเมืองสวยมากและสามารถเดินเล่นได้ 2 ถึง 3 ชั่วโมงสบาย ๆ ยิ่งถ้าเน้นถ่ายรูปด้วยแล้ว เวลา 4 หรือ 5 ชั่วโมงหมดไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะเดินเล่นแล้ว เราก็จับจ่ายซื้อของ และสำรวจเส้นทางไปทางกลับ สำรวจสถานีรถไฟหรือรถบัสที่เราจะใช้ในการเดินทางในวันรุ่งขึ้นด้วย

สถานีรถไฟ Grindelwald, ถ่ายเวลาประมาณ 21.00 ในเดือนกรกฎาคม, Luck photo.

Hiking รอบตัวเมือง

สำหรับคนที่ชอบ hiking เหมือนกับผม ก็มีคำแนะนำเพิ่มเติมเล็กน้อย การเดินรอบ Grindelwald นั้นง่ายมาก เนื่องจากว่ามีป้ายบอกทางเยอะมาก มีแผนที่หยาบ ๆ ซักอันก็ไปกันได้แล้ว ถ้ามี google map บนมือถือก็หายห่วง เท่าที่ผมลองเดิน ๆ ดู การ hike รอบเมืองแบบไม่ได้ขึ้นกระเช้าใด ๆ เลยมี 2 แบบ คือ

1) เดินเรียบ ๆ (หรือชันน้อยมาก) ไปตามถนนรอบ ๆ เมือง สิ่งที่น่าสนใจของการเดินแบบนี้คือ ได้เดินชมบ้านชมเมือง ซึ่งจะได้เห็นลักษณะความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ศิลปะ ลักษณะอาคารสิ่งก่อสร้างและการจัดแต่งบ้านและสวนต่าง ๆ อีกสิ่งหนึ่งที่จะได้คือ เดินชมและถ่ายรูปภูเขาภูผาต่าง ๆ ในมุมที่ต่างกัน ก็จะได้ภาพวิวที่ไม่เหมือนใครครับ

A quiet street in Grindelwald, Luck photo.

2) เดินขึ้นเขาใกล้ ๆ ทางด้านหลังในบริเวณใจกลางเมือง คือจากภาพแรก ๆ จะเห็นว่ามีโรงแรมต่าง ๆ ตั้งอยู่ริมถนนหลักมากมาย ซึ่งระหว่างตึกพวกนี้ก็จะมีตรอกซอกซอยเต็มไปหมด ซอยเหล่านี้แหละครับ ลองเดินเข้าไปดูครับ ส่วนมากมันจะพาให้ขึ้นเขาด้านหลังโรงแรมครับ ซึ่งก็จะเป็นโรงแรมบ้าง เป็นบ้านของคนท้องถิ่นบ้างสลับกันไป ทางเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ พาขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ ซึ่งเราสามารถเดินไปได้เรื่อย ๆ ตามต้องการ ข้อดีของแบบนี้คือ ไม่ค่อยมีรถ หลายทางก็เป็นทางคนเดินโดยเฉพาะ และเข้าไปได้ง่าย คือจากใจกลางเมือง ก็เลี้ยวเข้าซอยไหนซักซอย แล้วก็เดินขึ้นเขาไปเลย ง่ายมาก. แต่ความไม่ง่ายก็คือมันชันครับ ชันมาก สิ่งที่แลกกับความชันก็คือได้เห็นวิวภูเขาสวย ๆ ครับ ดังเช่นภาพข้างล่างนี้ หากสังเกตจะเห็นว่าผมเดินขึ้นมานิดเดียว สูงกว่าตึก 5 ชั้นแล้ว ได้วิวเหมือนเครื่องบิน take off ยังไงอย่างงั้นเลยครับ สังเกตในภาพจะมองเห็นยอดเขาสูงลิบ ๆ ทางซ้ายมือรวมทั้งธารน้ำแข็งอย่างชัดเจนนะครับ ซึ่งมุมนี้มองจากในตัวเมืองไม่เห็นเพราะถูกหน้าผาบังไว้ สรุปว่าออกแรงเดินขึ้นมานิดเดียว ไม่ได้ออกเงินเพิ่มซักนิด แต่ได้วิวที่แตกต่างชัดเจน สุดยอดอยู่นะครับ

วิวจากเนินเขาหลังตัวเมือง, Grindelwald, Luck photo.

การถ่ายภาพ

ปิดท้ายด้วยเรื่องของการถ่ายภาพครับ สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ถ่ายจริงจังมากมาย ก็จะต้องชอบเมืองนี้แน่นอนเพราะสวยทุกมุมครับ สำหรับนักถ่ายภาพที่จริงจังหน่อย ก็ต้องเตรียมเลนส์มุมกว้างมาครับ ช่วงระหว่าง 16–24 มม. ควรจะต้องมีครับ ช่วง 35 ขึ้นไปนี้ จะเก็บภาพภูเขาจากมุมในตัวเมืองไม่ค่อยหมดเท่าไรครับ แต่ถ้าเดินขึ้นไปหลังเขานิดนึงก็พอได้ครับ ภาพที่แสดงในบทความนี้ถ่ายด้วยเลนส์ 16–35 มม. เป็นส่วนใหญ่ครับ

เลนส์ช่วงเทเลประมาณ 70–200 มม.หรือ 200 มม. ขึ้นไปก็จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเน้นภูเขาครับ เลนส์ที่ต่ำกว่า 70 มม.จะได้ภูเขาลูกเล็กไม่เต็มเฟรมครับ ดังนั้นถ้าเน้นภูเขาก็ต้องออกแรงแบกกันครับ แต่ก็รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

เคล็ดลับที่ทำให้ได้ภาพสวยก็ง่ายนิดเดียวครับ ก็คือ เดิน เดิน แล้วก็เดินครับ เดินไปตรงไหนก็ดูสวยไปหมดครับ ภูเขามันสลับซับซ้อนดังนั้นเปลี่ยนมุมนิดเดียวก็อาจจะทำให้เห็นอะไรที่ไม่ซ้ำกับมุมเดิมครับ นั่นแปลว่าก่อนมาควรจะฟิตแอนด์เฟิร์มระดับนึงนะครับถ้าอยากได้ภาพสวย ๆ

ภาพสุดท้ายข้างล่างนี้ ถ่ายจากระเบียงที่พักในตัวเมือง Grindelwald ถ่ายด้วยเลนส์ 80–200 ที่ 200 มม. ครับ เวลาพลบค่ำก่อนพระอาทิตย์ตก สวยงามตามท้องนา ดาเมจเกดระกาอย่างที่เห็นครับ

Mountain top, Grindelwald, Jeed photo.

ส่งท้าย

สรุปง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า ที่นี่สวยมาก ใครจะมาเที่ยวสวิส ให้มาเริ่มต้นคืนแรกที่เมืองนี้ครับ นั่งเครื่องมาลงที่ซูริค(หรือเจนีวา) แล้วนั่งรถไฟตรงมาที่นี่เลย แค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แล้วพรุ่งนี้ก็ไปลุยเทือกเขาแอลป์กัน

เมื่อคืนยังนั่งมองรถติดอยู่ในกรุงเทพ

แต่คืนนี้ฉันนั่งมองเทือกเขาแอลป์อยู่ที่ Grindelwald …

ขอขอบคุณ คุณกิ๊ก กับ คุณเด็กเล็กกี้ สำหรับ feedback ในการปรับปรุงครัชช 🙏🏻🙏🏻🙏🏻

--

--