เป็น QA ต้องทำงานแค่ใน Role ของ QA หรอ?

Beam Nichakan
MAQE
Published in
4 min readJul 3, 2024

วันนี้เรามีคำตอบ และจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็น QA และเป็น PM/SM Intern ควบคู่กันไปด้วย หลายๆคนคงสงสัยว่า เอ่ย มันทำได้หรอ? แบ่งเวลายังไง? แล้วจะเอาไปต่อยอดยังไงล่ะ?

ก่อนอื่นเลย ขอแนะนำตัวเองก่อนน้า เราชื่อ ณิชกานต์ พราหมเภทย์ หรือจะเรียกสั้นๆว่า “บีม” ก็ได้ เป็น Senior Quality Assurance หรือ QA นั่นเอง อายุ 26 ปี ทำงานที่ Maqe มา 2 ปีกว่าๆ แล้วว

ขอท้าวความก่อนว่า เราเป็น QA แล้วไปเริ่มสนใจ PM/SM ได้ยังไง?

เนื่องจากว่า Maqe เป็นบริษัทที่เปิดกว้าง สามารถให้พนักงานได้ลองไปเรียนรู้การทำงานใน Role อื่นๆได้ หากมีความสนใจและคิดว่าจะไม่กระทบกับ Role ที่ทำอยู่ + มีช่วงนึงที่เราได้ถูก Assign ไปลงโปรเจคที่ไม่มี PM ในทีมจะมีแค่ทีม Development เราก็เลยได้ลองทำทั้งงานใน Part ของ QA + SM คือได้ลอง Lead scrum ceremonies ทั้ง sprint planning, daily standup, sprint review, sprint retrospective มันเลยทำให้เราเริ่มสนใจงาน PM มากขึ้น และพี่ๆในทีมก็เริ่มเห็นศักยภาพในด้านนี้ของเรา เลยมีมาชวนเราไปเข้า Project Manager Bootcamp#1 — Training พี่ๆในทีม PM ได้มาแชร์กระบวนการทำงานของ PM ทำให้เราและเพื่อนๆที่เข้า Bootcamp ได้เข้าใจการทำงานของ PM มากยิ่งขึ้น และหลังจบคอร์ส พี่ๆก็มีแจก Certificate ให้กับทุกคนที่เข้าร่วมโดยเป็นการเซอร์ไพรส์ จาก Head of project โด้ยยยย เราดีใจมากก รู้สึกว่าตัวเอง Complete ใน Part PM ขึ้นในระดับนึง

หลังจากจบคอร์ส Project Manager Bootcamp#1 เราก็รู้สึกว่าสนใจ Role PM มากขึ้น เราเลยลองไปคุยกับ Lead QA ว่าเราสนใจ ใน Goal 6 เดือนนี้เราขอลุยไปเรียนรู้งาน PM ได้ไหม? Lead QA ก็ Support เต็มที่ โดยการไปประสานกับทีม PM ให้ แต่ๆๆไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เป็น QA แล้วนะ Role หลักเป็น QA ก็ยัง Assign ไปลงโปรเจคอื่นๆตามปกติ แต่จะทำควบคู่ไปกับ PM (เหมือนลงเรียนพิเศษอ่ะแหละ) และเราก็ต้องแบ่งเวลาเพื่อไม่ให้กระทบกับงานหลักของเรา โชคดีมากๆที่ Maqe มีเวลาให้ Self Learning วันละ 1 hr อยู่แล้วด้วย มันเลยไม่ได้กระทบเวลากับเรามากนัก

Process ของการไปเรียนรู้ PM มีอะไรบ้างละ?

  1. เราจะมีพี่ Buddy PM 1 คน

โดยจะมีการ Catch up กันทุกๆ 2 อาทิตย์ ว่าติดปัญหาอะไรมั้ย? อยากให้ช่วยตรงไหนมั้ย?

2. ลงสนามจริง / Observe Project

3. มีการประเมิน PM Intern Beam Expectation ในทุกๆเดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน

3 เดือน, 6 เดือน ก็จะมี Goal ว่าแต่ละ skill ควรจะอยู่ในระดับไหน

- ถ้า 6 เดือนแล้ว เราสามารถ Achieve Goal ได้ สามารถเอาไปต่อยอดได้ยังไง (อันนี้เดะเราไว้เล่าให้ฟังเป็นอีก Part น้า )

4. พี่ๆ PM + Lead QA จะคอยดูว่ามี Project ไหนบ้างที่สามารถให้เราได้ลงไปเรียนรู้ และลองไปทำงานจริงๆได้

5. มี Session Knowledge Sharing ของ Part PM จากพี่ๆ PM

ขอแวะมาขยายความการลงสนามจริง / Observe Project ใน Role PM ให้เห็นภาพชัดๆกันน

และแล้วเราได้ลองไปเป็น PM Intern ในโปรเจคนึง โดยมีพี่ Buddy PM คนนึงเป็น Main PM เขาคอยดูแล Support และสอนงานต่างๆใน Part PM ให้กับเรา แรกๆเราก็ไป Observe โปรเจค ผ่านไปสัก 2–3 วัน เราก็ขอพี่ PM Buddy ขอ Lead scrum ceremonies, ขอลองคุยกับลูกค้า ขอลองทำทุกๆอย่างที่เป็นงานของ PM เลย พี่ๆในทีมก็เชื่อมั่นใจในตัวเรา และก็มองเราเป็น PM คนนึง เคารพการตัดสินใจของเรา และเราก็รับฟังทีม แต่ๆๆๆข้อดีของการได้ไปเป็น PM ในเจคนี้คือ เราได้ทำงานใน Role QA ด้วยเช่นกัน เพราะโปรเจคนี้เขาไม่ได้มี QA เราเลยเข้าไปเป็น PM ที่แถม QA ให้ด้วยเลย 55555555 ตามงานทีมทั้ง 2 Part เลย

จนในที่สุดเราได้ลองเป็น Main PM แทนพี่ Buddy จนจบสัญญาของโปรเจค ตอนนั้นเราตื่นเต้นมาก แต่เราก็สนุกมากๆ ลูกค้าน่ารัก ทีมก็น่ารักมาก Support เราดีมากๆ เราได้ลุยหน้างานเองทุกอย่างเลย ทำให้เรารู้สึก Complete ใน Part PM ขึ้นมาอีกระดับแล้วล่ะ

แวะเอา Feedback เล็กๆน้อยๆมาฝากก

หลังจากจบ Project นี้เราก็ได้ไป Observe โปรเจคอื่นๆอยู่เรื่อยๆ เรารู้สึกว่าการทำ QA และ PM ควบคู่กันทำให้เรามี skill ใน Part Self & Time management และ Prioritization ที่ดีขึ้นมากๆ และเราได้นำทั้ง 2 Part นี้มาใช้กับงานในโปรเจคอื่นๆอีกด้วย สำหรับเรามันสนุกมาก และก็กดดันบ้างในบ้างเวลาเพราะมันจะมี Skill ด้าน Management/Negotiation/Leadership เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วยเช่นกัน

จากที่เราได้สปอยไปว่า “ถ้า 6 เดือนแล้ว เราสามารถ Achieve Goal ได้” จะเอาไปต่อยอดได้ยังไง?

อันนี้ก็เป็นอีก1ข้อดี ที่ Maqe เปิดกว้างให้กับพนักงานคือเราสามารถ Convert Role ได้ เช่น จาก QA อาจจะไปเป็น PM หรือจาก Dev อาจจะมาเป็น QA ได้ หากเราสามารถ Achieve Goal ได้ตาม Expectation ที่ Role นั้นๆ กำหนด เราขอแบ่งเป็นเคสย่อยๆดังนี้

  1. หากเราสนใจใน PM และ ณ ขณะนั้น Role PM ต้องการ PM เพิ่ม ก็อาจจะมีสิทธิ Convert จาก QA -> PM ได้

มีข้อจำกัดว่า เราจะต้องอยู่ในตำแหน่ง Senior (Expertise 3, Leadership 3) ขึ้นไปเท่านั้น

2. หากเรายังสนใจใน QA มากกว่า PM ก็ทำงานใน Role QA ต่อไปได้

- เราก็จะเป็น QA ที่มี skill ด้านการ Management ซึ่งก็เป็นผลดีต่อการเติบโตในขา Leadership ของเราเอง

3. หากในอนาคตเราเริ่มสนใจ PM จริงๆเราสามารถนำ skill ของเราตรงนี้ไปต่อยอดในการสมัครหางานในตำแหน่ง PM ได้ โดยอาจจะริเริ่มจาก PM Junior ก่อน

เราก็อาจจะเอา Skill เหล่านี้ไปเขียน Update ใน Resume ของเราได้อีกด้วย

จากที่เราเกริ่นมาทั้งหมด เราแบ่งเวลายังไง ไม่ให้กระทบกับ Role QA แล้วยังได้เรียนรู้ใน Role PM ล่ะ?

  1. เราจะใช้เวลากับ Role QA อยู่ที่ 100%
  2. เราจะใช้เวลา 1 hrs ที่เป็นเวลา Learning Curve ของเรามาเป็น PM Intern
  3. เราจะใช้เวลาหลังเลิกงานของเรา Self Learning เพิ่มเติม (ส่วนนี้เราไม่ได้มองว่าเรา Work ไร้ Balance นะ เพราะเราคิดว่า ทุกคนมีเวลา 8 ชม. สำหรับการเรียนรู้อยู่แล้ว)
  4. หากช่วงไหนที่งาน QA เรายุ่งมากจริงๆ เราจะบอกกับ PM Buddy เราตรงๆ ว่าเราอาจจะไม่ค่อยได้เข้านะ และเราจะตามอ่านทุกอย่างย้อนหลัง และใช้การ Recap กับ PM Buddy แทน เพื่อให้เราตาม Progress งานทัน

สุดท้ายนี้เราอยากมาแชร์วิธีการทํางานที่คิดว่า ‘Work’ สำหรับเรา

เชื่อว่าหลายๆคนก็มีคงมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันออกไป การที่เราได้มาแชร์วิธีการทำงานที่ตัวเรานั้นทำแล้วคิดว่าเวิค ก็เป็นการแลกเปลี่ยน idea ใหม่ๆ ทำให้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้กะการทำงานของเราได้ และอาจจะทำให้เรามีความสุขกับการทำงานมากขึ้นด้วย และนี่คือ how to สำหรับบีมค่ะ

บีมว่าเราทุกคนมีความชอบ มี Goal ที่แตกต่างกันออกไป อย่ากลัวที่จะริเริ่มทำมันเพียงเพราะว่ากลัวที่จะทำมันไม่ได้ หากเราชอบแล้ว เราจะหาเวลามาทำมันจนได้ ดั่ง Quote ที่ว่า

“หากมีใครเสนอโอกาสดีๆให้คุณ และคุณไม่แน่ใจว่าจะทำมันได้รึป่าว

ตอบตกลงไปเลย และค่อยเรียนรู้ที่จะทำมันทีหลัง”

--

--