การตลาด และ การโฆษณา ที่แตกต่าง นั้นสร้างผลลัพธ์ที่เกินคาดให้กับธุรกิจได้อย่างไร?

หลายคนเห็นภาพด้านบนในตอนนี้แล้วก็คงรู้สึกว่า นี่มันก็แค่ภาพโฆษณา iPod ยุคแรก…

แต่รู้มั้ยว่า ตั้งแต่เจ้าไอพอดนี้กำเนิดขึ้นมาบนโลกโดย สตีฟ จ้อบส์ มันก็ได้เปลี่ยนวิธีการฟังเพลงของเราไปตลอดกาล

╔═══════════╗
MarketingPlz เพราะการตลาดมันขาดไม่ได้
Facebook Page : marketingplz
╚═══════════╝

ใครทันยุคที่แกรมมี่ขายอัลบั้มเพลง แล้วโปรโมทว่า “เพลงฮิตล้านตลับ” ได้มั้ยครับ? ถ้าทัน ก็แสดงว่าเรารุ่นเดียวกันครับ 😊

แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับสำหรับคอนเทนท์นี้ มันเกี่ยวกับการคิดนอกกรอบ และคิดต่าง ของคนทำการตลาดขั้นเทพอย่างสตีฟ จ๊อบส์ ต่างหากครับ

ก่อนหน้าที่จะมีไอพอด การฟังเพลงแต่ละยุคนั้นก็ต้องไล่มาตั้งแต่ยุคแผ่นเสียงไวนิล ต่อมาก็เป็นยุคตลับเทปคาสเซ็ท และมาเป็นยุคแผ่น CD-Rom ที่ต้องฟังผ่าน ซาว-อะ-เบาท์

ผมยังจำได้ว่า ยุคนั้น ผมจะรู้จักศิลปินนักร้องจากทีวีและวิทยุเท่านั้น พอรู้จักแล้วก็ต้องรีบไปร้านขายเทปเพื่อไปซื้อเทปเพลงมาฟังกับเครื่องเล่นเทป บางครั้งไม่มีตังค์ ก็ไปซื้อเทปเปล่า มาอัพเสียงเพลงในตอนที่พี่ดีเจเปิดเพลงที่ชอบ ช่างเป็นประสบการณ์อะนาล็อกที่ทำให้โหยหาอดีตได้ดีเหลือเกิน

ต่อมา เทคโนโลยีก็ก้าวกระโดษ นำพาคำว่า “ไฟล์ .mp3” มาให้เราได้รู้จักและใช้งานกันอย่างที่เราทราบกันดี

แต่แน่นอนว่าไฟล์ .mp3 มันก็มีขีดจำกัดในการบันทึกเสียงลงแผ่น CD/DVD อยู่ดี แถมยังต้องเปิดกับเครื่องเล่นที่รองรับไฟล์ . mp3 ซึ่งทำให้เราต้องพกทั้งแผ่น cd/dvd หรือแม้กระทั่ง usb ไว้สำหรับฟังเพลงกับเครื่องเล่นเพลงเหล่านั้น

แน่นอนว่า สตีฟ จ๊อบ มองเห็นโอกาสทางการตลาดและธุรกิจของการฟังเพลงนี้ และเลือกที่จะผลิตเครื่องเล่นเพลงที่เรียกว่า iPod ออกมานำเสนอให้แก่ชาวโลก และเรื่องราวความสำเร็จก็เป็นอย่างที่เราต่างก็รู้กันว่ามันยิ่งใหญ่และเป็นตำนานมากแค่ไหน

แต่รู้มั้ยครับว่าก่อนหน้าความสำเร็จที่เราเห็น แม้สตีฟ จ๊อบ จะมีสุดยอดสินค้าอย่าง iPod แต่เขาและทีมงานก็ต้องใช้เวลาระดมสมองหาวิธีการสื่อสารทางการตลาดและการโฆษณาที่ดีที่สุด เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่เข้าใจว่าเจ้า iPod ตัวจิ๋วนี้มีไว้ทำอะไร? และมันจะดีหรือต่างกับซาวอะเบาท์แบบพกพาอย่างไรนะ? ซึ่งเป็นคำถามก่อนที่จะเกิด “การตัดสินใจซื้อ”

ท้ายสุด สตีฟ จ๊อบ ก็ได้คำโฆษณาที่ถือว่าเป็นหนึ่งในคำโฆษณาที่ทรงพลังที่สุดในศษตวรรษ มันคือคำว่า

1,000 Songs in your pocket.

(หนึ่งพันเพลงอยู่ในกระเป๋ากางเกงคุณ)

หลังจากนั้น โลกแห่งการฟังเพลงก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล

และนี่คือตัวอย่างของการใช้คำโฆษณาที่ตรงจุด และ Impact อย่างมาก

การตั้งคำถามในการทำการตลาดที่ตรงจุด จะช่วยให้เราสามารถตอบคำถามกลุ่มเป้าหมายที่เราจะขายสินค้าและบริการได้ และนำพาพวกเขาไปสู่การตัดสินใจซื้อในขั้นต่อไป

ดังนั้น ก่อนที่เราจะสร้างแคมเปญทางการตลาดและทำการลงโฆษณา เราได้เจอคำถามที่แท้จริงของว่าที่ลูกค้าของเรารึยัง และเราเจอคำตอบที่แตกต่างที่ใช้ดึงดูดความสนใจของว่าที่ลูกค้าของเราแล้วรึยัง?

อย่าลืมว่า “การตลาดที่ดี คือ การนำเสนอคุณค่าของสินค้าและบริการให้กับกลุ่มเป้าหมายหรือว่าที่ลูกค้าของเรา ด้วยวิธีการที่แตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อให้พวกเขารับรู้และสนใจในความต่างนั้น และซื้อสินค้าและบริการของเราในท้ายที่สุด”

จำเรื่องราวของ iPod นี้ไว้ แล้วคุณจะเข้าใจวิธีการทำการตลาดและโฆษณาที่สร้างผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่เราคาดหวังครับ

ติดตาม การตลาดขาดไม่ได้ MarketingPlz ได้ที่

Facebook — การตลาดขาดไม่ได้ MarketingPlz

Blockdit — https://www.blockdit.com/marketingplz

Website — MarketingPlz.com (Coming Soon)

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ ใน Blog นี้ คลิกเลย

Sales Funnel คืออะไร? ใช้สร้างเป็นกลยุทธ์การขายได้อย่างไร?

ก่อนทำโฆษณาออนไลน์ อย่าลืมคิดเรื่อง “ไอเดียการตลาด” ทุกครั้ง

5 สิ่งที่มือใหม่ SEO ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ Traffic เข้าเว็บไซต์น้อย