ความคิดที่ไม่อร่อย — ศิลปะแห่งการดูแลสุขภาพใจ

Pawz Arts Gallery of Thoughts
Master of Emotion
Published in
1 min readOct 18, 2023

เราทราบกันดีกว่าการเลือกการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และงดเว้นอาหารประเภท processed food นั้นมีความสำคัญต่อสุขภาพกายมากเพียงไร แต่ความยากคือพวก processed food มันอร่อยยากจะห้ามใจ ยิ่งเมื่อได้เผลอใจกินเข้าไปชิ้นนึงแล้ว ความอยากกินก็มีแต่จะยิ่งทวีคูณมากขึ้น

บางทีเรามีสติรู้ตัวได้ทันว่ากินมากเกินไปแล้วนะ ควรหยุดได้แล้ว แต่มันหยุดง่ายๆ ซะที่ไหน ถ้าลองสังเกตความรู้สึกตอนที่เราพยายามหยุดกินให้ดี จะพบว่ามันพะอืดพะอม อึดอัด ทว่าการอดทนอยู่กับมันดูเหมือนจะเป็นทางเดียวที่จะหยุดความอยากลงได้ ถ้าเราอดทนได้นานพอ ความอยากและความพะอืดพะอมมันก็จะหายไปเอง

โชคดีมีเทคนิคอย่างนึงที่ช่วยให้หายได้เร็วขึ้น คือเราต้องฝืนกินอาหารที่ “ไม่อร่อย” เข้าไปในระหว่างนั้น เช่น แอปเปิ้ล บล๊อคโคลี่ต้ม ผักสลัดขมๆ … ที่จริงคำว่า “ไม่อร่อย” ไม่ค่อยถูกต้องนัก แต่ผมนึกคำไม่ออกที่จะอธิบายอาหารที่ให้ความรู้สึกตรงข้ามกับพวก processed food ที่จริงมันอาจอร่อยก็ได้ เช่นแอปเปิ้ล แต่สำคัญคือมันเป็นอาหารที่เรากินแล้วเราไม่เกิดความรู้สึกอยากกินต่อ ส่วนใหญ่มักเป็นอาหารที่เราเลือกกินเพราะเรารู้ว่ามันดีต่อสุขภาพ มากกว่ากินเพราะความอร่อย

Thought

สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ความคิดของเรานั้นก็เหมือนกับอาหาร — มันเป็นสิ่งที่เราต้องเลือกกิน — เพื่อรักษาสุขภาพใจ

คนทั่วไปมักมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความคิดของตัวเอง พวกเราเชื่อว่าความคิดมันคือตัวตน หรือเสียงจากตัวตนของเรา เช่นถ้าเรามีความคิดดี เราก็ภาคภูมิใจว่าเราเป็นคนเก่งคนดี แต่เมื่อเรามีความคิดไม่ดี เราก็จะพยายามทำหลายๆ อย่างเพื่อคงรักษาความภาคภูมิใจนั้นไว้ เช่นกล่าวโทษคนอื่นหรือสิ่งแวดล้อมว่าเป็นสาเหตุของความคิดหรืออารมณ์ไม่ดีในตัวเรา… ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่ทำตรงกันข้ามคือกล่าวโทษด่าทอตัวเอง บางคนไปไกลกว่านั้นคือปฏิเสธหรือหลอกตัวเองไปเลยว่าตนไม่มีความรู้สึกหรือความคิดแบบนั้น

ที่จริงแล้ว — ความคิดไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา แต่เป็นแค่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในตัวมนุษย์เราทุกคน — ไม่ว่าความคิดมันจะดีเลว ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็จะเกิดขึ้นกับเรา บางทีก็เป็นเพราะสัญชาตญานของเราพยายามสื่อสารอะไรบางอย่างกับเรา หรือบางทีก็แค่เป็นเพราะความบ๊องหรือเออเร่อในพัฒนาการของเรา

Processed Thought

วิธีนึงที่ช่วยให้เรามองความคิดแยกออกจากตัวตนได้ คือให้มองว่ามันเหมือนกับอาหารที่สัญชาตญานของเราพยายามป้อนใส่ปากเราอยู่ตลอดเวลา ตอนที่เราไม่มีสติ เราจะอ้าปากอยู่ตลอดเวลา เค้าป้อนอะไรมาเราก็กินเข้าไปทั้งหมด แม้ว่าบางทีมันเป็น processed thought หรือความคิดปรุงแต่งที่เป็นพิษต่อสุขภาพใจก็ตาม

processed thought คือความคิดที่ “อร่อย” และมีฤทธิ์เช่นเดียวกับ processed food คือมันจะทำให้เราเสพติด ยิ่งเรากินเราก็ยิ่งอยากมากขึ้น และเรากินมากๆ และบ่อยๆ จนเป็นนิสัย เราก็จะพบว่าเราตัวเอง “หยุดกิน/หยุดคิด” ไม่ได้

ตัวอย่างของความคิดแบบนี้เช่น ความคิดกล่าวโทษ ตัดสิน ดูถูก น้อยใจ คิดวิตกกังวล… ลองสังเกตดูจะพบว่าเวลาที่เราอยากจะหยุดคิดเรื่องพวกนี้ เราจะรู้สึกพะอืดพะอม คล้ายๆ มากๆ กับตอนที่เราพยายามจะหยุดกินอาหารอร่อย … แต่การหยุดคิดนั้นยากกว่าการหยุดกินมาก เพราะความคิดมันจ่อปากเราอยู่ตลอดเวลา

มีคำกล่าวว่า “พระอรหันต์ก็คิดลบได้” ซึ่งหมายความว่าความคิดเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนไม่ต่างกัน เพียงแต่พระอรหันต์คือมนุษย์ที่รู้จัก “เลือกกิน” ความคิดที่มีประโยชน์ และไม่เสพติดความคิดที่เป็นพิษต่อตัวเอง

คนธรรมดาคือคนที่เสพติดความคิดอะไรบางอย่างซึ่งกระทบต่อคุณภาพของชีวิต ไม่ต่างกับที่บางคนติดของหวาน ของทอดทำให้เป็นโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน

สู่อิสรภาพ

เพื่อรักษาตัวเองไม่ให้เป็นอย่างนั้น และเพื่อพัฒนาตัวเองให้มีอิสระในการเลือกคิดได้ เราต้องมีทักษะ 2 อย่าง

  1. Mindfulness — เราต้องฝึกรู้ให้เท่าทันให้ได้มากที่สุดว่าความคิดอะไรกำลังจ่อปากเราอยู่ และความคิดอะไรที่เราเผลอกินเข้าไปแล้วโดยไม่ทันรู้ตัว
  2. Breaking Addiction — คือการฝึกหักห้ามใจที่จะไม่กินความคิดที่ไม่มีประโยชน์

การฝึกควบคุมความคิดและอารมณ์ที่จริงคล้ายๆ กับการเลิกยาเสพติด เลิกบุหรี่ เลิกเสพติดของหวาน มันต้องใช้พลังใจ ที่สำคัญคือเราต้อง resolve ในใจตัวเองว่าความคิดความรู้สึกแบบไหนที่เราต้องการ ถ้าเราลังเล ก็เหมือนกับเราอยากจะเลิกกินโค้ก แต่เรายังแอบมีใจเชื่อว่าโค้กมันก็ดีนะ คนทั่วไปเค้าก็กินไม่เห็นเป็นไรเลย… ถ้าเราอยากเลิกคิดกล่าวโทษผู้อื่น แต่เรายังลังเล เมื่อถึงสถานการณ์จริงเราก็อดใจไม่ได้

ปีกที่นำไปสู่อิสรภาพ

มีอาวุธ 2 อย่างที่ทรงพลังมาก และช่วยให้เราเลิกเสพติดความคิดได้

  1. ทัศนคติ — มันเป็นเหมือนคลังแสงเก็บอาวุธให้เราหยิบมาใช้ในเวลาความคิดไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเรา… มันเป็นสิ่งที่เราต้องหมั่นสะสมเอาไว้มากๆ มันมีฤทธิ์เหมือนกับแอปเปิ้ล บล๊อคโคลี่ต้ม ผักสลัดขมๆ มันคือความคิดที่ “ไม่อร่อย” ที่สามารถช่วยดับความอยากลงได้
  2. Manifestation — คือคล้ายๆ กับสัจสาบาญ คือขั้นกว่าของทัศนคติ การจะมีสิ่งนี้ได้คุณต้องเข้าใจและชัดเจนกับตัวเองมากพอ และประกาศชัดกับจิตใต้สำนึกของตัวเองว่าเราอยากจะเป็นคนแบบไหน เพราะอะไร และที่สำคัญคือเราต้องเคารพและรักษาสัญญากับตัวเองให้ดี

--

--