ความทุกข์ 3 ระดับ และพลังของใจที่ไม่ค้างคา

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และคุณไม่เข้าใจว่าทำไมในสมองของคุณถึงมีแต่ความคิดที่น่ากลัว

ฉันอยากจะนอนหลับไปเฉยๆ และไม่ต้องตื่นมาอีกเลย

ต้องเดินยังไงถึงจะให้รถชน

ต้องกินกาแฟกี่แก้วถึงจะทำให้ช๊อคตายไปเองได้กันนะ

หากจะมีคำคำหนึ่งที่แสดงความรู้สึกของคุณได้ตรงที่สุดคงจะเป็นคำว่า “ทรมาน” เหมือนกับนักโทษที่ถูกทรมานแสนสาหัส อยากหนีก็หนีไม่ได้ อยากตายก็ตายไม่ได้

คุณอาจกำลังรู้สึกเหมือนกับอยากจะหนีจากปัญหาหรือสถานการณ์บางอย่าง ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับฉัน เมื่อไหร่มันจะจบ เมื่อไหร่จะหลุดพ้นเสียที

ที่จริงแล้วความทุกข์ในใจของคุณกับปัญหาที่คุณเผชิญอยู่มันเป็นสองเรื่องที่ต้องแก้ไขแยกกัน แต่สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือลืมเรื่องการแก้ไขปัญหาไปก่อน อย่าเพิ่งไปโฟกัสที่ปัญหา พยุงมันเท่าที่ไหวไปก่อน นอกเหนือจากนั้นก็ช่างแม่งให้หมด พุ่งโฟกัสของคุณไปที่สภาวะจิตใจของตัวเอง บอกตัวเองว่าฉันจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่มีความสุขให้ได้ท่ามกลางสมรภูมิปัญหาเหล่านั้น คุณต้องไม่คาดหวังให้การหมดสิ้นปัญหาเป็นเงื่อนไขที่คุณจะมีความสุข กลับกันต่างหาก ตัวคุณที่มีความสุขคือเงื่อนไขสำคัญที่ต้องเกิดขึ้นก่อนที่จะแก้ปัญหาใดๆ ได้

จากนั้นให้คุณลองพิจารณาแยกแยะความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจคุณออกเป็น 3 ระดับ ลองดูว่าเรื่องอะไรอยู่ในระดับไหน

ความทุกข์ระดับที่ 1: ความจริง

ความทุกข์ที่เป็นความจริง ได้แก่ความเจ็บปวดตามธรรมชาติ เช่นความรู้สึกเจ็บปวดเวลาถูกมีดบาด การเจ็บป่วย ความพิการ การแก่ชรา หรือแม้แต่ปัญหาในชีวิตที่มันเป็นเรื่องธรรมดา เช่น การทะเลาะเบาะแว้ง การไม่ได้ดั่งใจ การไม่มีตังซื้อข้าวกิน ปัญหาในการทำงาน ความกดดันจากสังคม และรวมถึงความไม่ได้ดั่งใจใดๆ ที่มันเกิดขึ้นไปแล้ว หรือกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ต่างๆ เหล่านี้คือความจริง “ที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้”

ความทุกข์ระดับที่ 2: ความวิตกกังวล

ความทุกข์ที่เกิดจากความกลัวว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจขึ้น “ในอนาคต” เช่นกลัวว่าจะถูกด่า กลัวการสูญเสียสิ่งสำคัญ กลัวการแก่ชราและการเจ็บไข้ได้ป่วย กลัวที่จะต้องมีชีวิตยากลำบาก

ความทุกข์ระดับที่ 3: ความอยากหนีจากความจริงตรงหน้า

คือความยึดติดอย่างรุนแรงและทันทีต่อสิ่งที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงในปัจจุบัน อยากได้ในสิ่งที่ไม่มีทางได้ในทันที อยากหนีจากสิ่งที่ไม่มีทางหนีได้ในระยะเวลาอันสั้น อยากลืมหรือปฏิเสธความจริงที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วในอดีต

การจัดระเบียบความทุกข์ออกเป็น 3 ระดับแบบนี้จะทำให้คุณได้เห็นธรรมชาติของความทุกข์แต่ละเรื่องในใจคุณชัดเจนยิ่งขึ้น

ความทุกข์ระดับที่ 1 นั้นคุณไม่มีทางปรับเปลี่ยนอะไรมันได้ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องไปโฟกัสกับมันมากนัก จงตระหนักไว้ว่าคนมากมายมีความสุขได้ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่ได้ดั่งใจ คุณเองก็มีสิทธิที่จะเป็นเช่นนั้นได้แน่นอน

ความทุกข์ระดับที่ 2 เป็นเรื่องที่คุณลงมือแก้ไขได้ทั้งภายนอกและภายใน คุณอาจทำบางอย่างในวันนี้เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องเจอกับความยากลำบากในอนาคต แต่บางทีคุณก็ต้องพัฒนาจิตใจเพื่อไม่ให้ตัวเองวิตกกังวลมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เราจะไม่พูดเยอะเกี่ยวกับความทุกข์ระดับนี้ในตอนนี้

ความทุกข์ระดับที่ 3 นั้นคือส่วนที่คุณต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วน มันคือความทุกข์ที่สาหัสที่สุด และคือสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังถูกทรมาน ข่าวดีคือ คุณไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาภายนอกเพื่อที่จะจัดการความทุกข์ระดับนี้ คุณเพียงแค่ต้องจัดการกับความ “อยากหนี” ในใจคุณ ตอนนี้คุณอาจรู้สึกราวกับว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคุณที่จะมีชีวิตต่อไปถ้าสถานการณ์ภายนอกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จงอย่าเชื่อความรู้สึกนั้น มันหลอกคุณอยู่ อะไรสักอย่างในตัวคุณมันเพียงกำลังโหยหาทางเลือกทางอื่นอย่างบ้าคลั่งเพียงเพื่อไม่อยากยอมรับกับความจริงตรงหน้า ลองจินตนาการถึงเวลาคุณนั่งเครื่องบิน เคยเป็นไหมครับเวลาอยู่บนเครื่องบินคุณจะพบว่าตัวเองสามารถทำอะไรบางอย่างได้ดี เช่นอ่านหนังสือหรือทำงานบางอย่างที่ต้องโฟกัสมากๆ ทั้งๆ ที่ก่อนขึ้นเครื่องคุณทำได้ไม่ดี

The Power of Resolved Mind

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะใจคุณมันกำลังหาทางเลือกอย่างอื่นที่น่าอภิรมย์กว่าการอ่านหนังสือ แต่พอคุณนั่งอยู่บนเครื่องบิน จิตใจของคุณมันเข้าใจดีว่าคุณไม่มีอะไรให้ทำแล้วนอกจากนั่งเฉยๆ กับอ่านหนังสือ คุณเลยสามารถนั่งอ่านหนังสือได้อย่างมีความสุข นี่เรียกว่าสภาวะของการยอมรับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ค้างคา (resolved) เมื่อนั้นความลังเลใดๆ ก็จะหมดไป คุณจะโฟกัสอยู่กับสิ่งที่คุณทำได้และคุณก็จะพบว่ามันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่

แต่ถ้าคุณต้องนั่งอยู่บนเครื่องบนโดยที่ใจคุณเต็มไปด้วยความต้องการที่จะเป็นอิสระให้ได้ทันทีเดี๋ยวนั้น คุณก็จะรู้สึกเหมือนกำลังถูกทรมาน และนี่ก็คือตัวตนที่แท้จริงของความทุกข์ระดับที่ 3 การติดอยู่ในเครื่องบินมันอาจจะไม่ค่อยสะดวก แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ทรมานคุณ ความยึดติดที่อยากเป็นอิสระนั้นต่างหากที่เป็นตัวการ

--

--