ย้อนรอย 25 ปีจากจุดเริ่มต้นสู่การเป็น MFEC ในทุกวันนี้

MFEC
MFEC
Published in
2 min readOct 10, 2023

ย้อนรอยกลับไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว MFEC เริ่มจดทะเบียนและก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2540 ด้วยทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 10 ล้านบาท ให้บริการพัฒนาและวางระบบการเชื่อมต่อเครือข่ายภายในองค์กร (Intranet) ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งเป็นการพัฒนาและนำระบบ Intranet มาใช้ภายในองค์กรขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกของประเทศไทย

ในช่วงปีแรกนี้เองบริษัทต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญทางการเงินในเอเชีย หรือเรียกทั่วไปในประเทศไทยว่า “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ทำให้ขาดทุนจากค่าเงินอย่างหนัก และติดลบไปกว่า 16 ล้าน

แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจ ใช้กลยุทธ์การทำธุรกิจแบบ Focus ลูกค้า ส่งมอบผลงานที่มีคุณภาพ จนผ่านวิกฤตนั้นมาได้ และนอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการจากบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่

– Sun Microsystems ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อใช้ในองค์กรขนาดใหญ่

– Netscape Communication ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มคิดค้นพัฒนาทางด้านโปรแกรมสำหรับระบบคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของระบบอินเตอร์เน็ตและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Internet & E-commerce Software Server) ในปัจจุบันรู้จักกันในนามของ SUN ONE

MFEC ได้จัดตั้งหน่วยงานบริการให้คำปรึกษาและพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายธุรกิจการบริการให้คำปรึกษาและพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Professional Services) และได้เริ่มให้บริการธุรกิจ ดังนี้

– เริ่มให้บริการพัฒนาระบบสื่อสารทางเสียงผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Voice Over Internet Protocol, VOIP) ซึ่งจะช่วยลูกค้าลดภาระต้นทุนค่าโทรศัพท์ทางไกลเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

– ให้บริการพัฒนาระบบคลังข้อมูล (Data Warehouse) โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ คือ Ascential (ซึ่งปัจจุบันได้ควบรวมกิจการโดย IBM) ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย

เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) เพื่อเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญในอนาคต

ในปี 2546 MFEC ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่ประชาชนทั่วไป อีกทั้งเปิดศูนย์การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์แห่งใหม่ (Development Center) เพื่อรองรับการขยายงาน และสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ MFEC ยังได้เข้าลงทุนในกลุ่ม
- บริษัท พรอมท์นาว จำกัด
- บริษัท แอดวานซ์ อินเทลลิเจนซ์ โมเดิร์นนิตี้ จำกัด
- บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม อินทิเกรชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (ปัจจุบันคือบริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด)
- บริษัท ซอฟต์สแควร์ กรุ๊ป
- บริษัท โมทีฟ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
- บริษัท บิสซิเนท แอพพลิเคชั่น จำกัด
- บริษัท อังสตรอม โซลูชั่น จำกัด
เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง รองรับการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลก และก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรม Software และ IT Services ของประเทศไทย

MFEC ยังคงดำเนินการปรับโครงสร้างขององค์กร พร้อมกำหนดกลยุทธ์การบริหารธุรกิจใหม่และดำเนินการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นฟูและเติบโตทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสอดรับต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักและเป็นตัวกระตุ้นให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ Disruptive Technology ที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับเทคโนโลยีที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงแนวทางในการบริหารธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นบริษัทฯ จึงปรับตัวด้วยการขยาย Business Model ให้มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เข้าลงทุนถือหุ้นใน 4 บริษัท ได้แก่
- บริษัท เพลย์ทอเรียม โซลูชันส์ จำกัด
- บริษัท แฟนสเตอร์ มีเดีย จำกัด
- บริษัท ดาต้า คาเฟ่ จำกัด
- บริษัท ดิจิทัล แซฟวี่ จำกัด

ปี 2560 ประเทศไทยเข้าสู่ยุคของการทำ Digital Disruption ซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมในด้านของการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการปรับตัวเพื่อการแข่งขันรูปแบบใหม่ ๆ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสภาวะการแข่งขันที่รวดเร็วทำให้ MFEC ได้มีการทำ Transformation โดยเน้น 2 ส่วนสำคัญในองค์กร ได้แก่

People Transformation
เริ่มต้นจากคนเป็นทรัพยากรหลักที่สำคัญ และมีส่วนต่อการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในองค์กร โดยเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทันสมัยเหมาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ การปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะใหม่ ๆ รองรับกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ และสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมให้แก่องค์กร

Business Transformation
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงคู่ค้า MFEC เล็งเห็นว่าการทำธุรกิจในรูปแบบเดิม จะไม่สอดรับต่อการเติบโตของพนักงาน จึงได้หาโมเดลธุรกิจใหม่ ด้วยการก้าวไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจ SI แบบเดิมเพียงอย่างเดียว โดย MFEC ได้ผลักดันบุคลากรภายในที่เก่ง และมีไอเดียทางธุรกิจ ได้สร้างธุรกิจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อสอดรับกับความต้องการ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ของผู้บริโภค ผ่านการลงทุน Startup ในรูปแบบ Corporate Venture Capital รวมไปถึงการทำธุรกิจกับคู่ค้าผ่านการทำ Venture Builder โดยการเข้าไปร่วมลงทุนด้วยกันโดยอาศัยเทคโนโลยี ความสามารถ และแรงงานที่บริษัทมี เพื่อสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ที่มี Time to Market ที่รวดเร็ว

ปี 2562 เกิดสภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจทั่วโลก MFEC ยืนหยัดต่อสู้กับสภาวะวิกฤตครั้งนี้ จากการมองเห็นภาพการณ์ไกลของผู้บริหาร ที่ได้มีการวางแผนรับมือกับสภาวะวิกฤตมาตั้งแต่เนิ่น ทำให้เมื่อเกิดสภาวะวิกฤตที่อยู่ในระดับรุนแรง จึงสามารถรับมือและปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และด้วยสภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญของการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ MFEC ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนธุรกิจต่าง ๆ ให้ดำเนินต่อไป ส่งผลให้แนวทางการดำเนินงานของบริษัทยังคงมุ่งเน้นพัฒนาบริการและสินค้าเพื่อต่อยอดเทคโนโลยีที่สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เสริมประโยชน์กันและกันของสินค้าและบริการทั้งหมดของบริษัท ทำให้บริษัทเห็นแนวทางความต้องการของตลาด การแข่งขัน และโอกาสทางธุรกิจที่จะช่วยเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจของลูกค้าแม้ในสภาวะวิกฤต

อีกทั้งยังปรับ Vision ขององค์กรให้สอดคล้องกับการบริหารบุคลากร “เราจะเป็นบริษัทไอทีที่คนอยากทำงานด้วยมากที่สุด ผ่านการผลักดันศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของพนักงาน เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยี และยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน”

--

--