[Technology] “RPA” เทคโนโลยีดี ๆ ที่จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น
“The advance of technology is based on making it fit in so that you don’t really even notice it, so it’s part of everyday life.” Bill Gates, Co-founder of Microsoft.
ในปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีมีผลกระทบต่อชีวิตของเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชีวิตส่วนตัว หรือชีวิตการทำงาน ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอมาแนะนำเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า “Robotics Process Automation” เรียกสั้น ๆ ว่า “RPA” หรือ “Robot” (หุ่นยนต์) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนชีวิตการทำงานที่ซ้ำซาก และทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น
แล้ว “RPA” คืออะไรล่ะ
“RPA” เป็นโปรแกรม (Software) บนคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบการกระทำของมนุษย์ที่ทำกับคอมพิวเตอร์ได้ โดยผ่านชุดคำสั่งที่ถูกกำหนดมาโดยผู้ใช้งาน แต่การใช้ “RPA” จะดีกว่าการใช้คนทำแบบงานแบบเดิมหรือไม่ ? คำตอบก็คือ ดีกว่า ซึ่งอ้างอิงจากงานวิจัยของคุณ “Santiago” จากมหาวิทยาลัย “Pontificia Universidad Javeriana” ที่ได้ศึกษาเรื่องการนำ “RPA” เข้าไปช่วยในกระบวนการการออกใบเสร็จ แล้วพบว่าการใช้ “RPA” เข้าไปช่วยในกระบวนการนี้ช่วยเพิ่มผลลัพธ์ของงาน ถึง 20% เมื่อเทียบกับการออกใบเสร็จโดยใช้พนักงานตามขั้นตอนปกติ (Automation of a Business Process Using Robotic Process Automation (RPA): A Case Study)
ซึ่ง 20% ที่ว่ามานั้นเกิดจากการเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันนะครับ แต่เพื่อน ๆ อย่าลืมว่า “RPA” นั้นเป็นโปรแกรม (Software) ซึ่งนั่นหมายความว่ามันสามารถทำงานได้ตลอดเวลา และทุก ๆ วันนะครับ (ถ้าคอมพิวเตอร์หรือเซิฟเวอร์ไม่พังไปซะก่อน)
แล้วตัวของ “RPA” หรือ “Robot” นั้นมีทั้งหมดกี่ประเภท ?
เราสามารถแบ่งประเภทของ “Robot” ใน “RPA” ได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกันคือ “Attended Robot” ซึ่งเป็น “Robot” ประเภทที่ทำงานร่วมกับผู้ใช้ได้ และ “Unattended Robot” ซึ่งสามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง แต่ว่าก่อนที่ “Robot” จะสามารถทำงานได้ ก็จะต้องมีการตั้งค่าผ่าน เครื่องมือ RPA (Tools RPA) ซึ่งการตั้งค่าเปรียบเสมือนการสอนให้ “Robot” ของเราทำงานตามขั้นตอน และกระบวนการที่เราต้องการ ซึ่งการตั้งค่าหรือสอนนั้นก็ไม่ได้ยากอย่างที่ทุกท่านคิด ซึ่งเครื่องมือ RPA ที่จะแนะนำในครั้งนี้ก็คือ “UiPath” ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ ด้าน “RPA” ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก และมีวิธีการใช้งานที่ง่าย โดยจะมีลักษณะเป็น “Drag and Drop” หรือก็คือการลาก และวางนั่นเอง โดยตัว “UiPath” สามารถแบ่งได้ สองแบบหลัก ๆ คือ
UiPath Studio Community Edition ซึ่งเป็นประเภทที่สามารถใช้งานได้ฟรี ! แต่มีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน เช่น ไม่มีการ Support จากทาง UiPath และขาดความสามารถในการทำงานสำคัญ ๆ บางอย่าง และที่สำคัญแบบดังกล่าวเป็นการใช้งานแบบส่วนบุคคล (Personal Use) เท่านั้นนะครับ (UiPath Legal Term cited on 09/03/2021)
UiPath Enterprise Edition ซึ่งเป็นตัวที่เสียเงิน แต่ว่าจะมีความสามารถสำคัญหลาย ๆ อย่าง หรือการทำงานหลายอย่างที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น ความสามารถในการใช้ระบบ “Unattended Robots” หรือการทำงานโดยไม่ต้องมีคนควบคุม หรือ ระบบการจัดการผู้ใช้งาน (Users) ที่เหนือกว่า เป็นต้น
แล้วจำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเป็นไหม ?
ซึ่งการใช้ “UiPath” ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความสามารถในการเขียนโปรแกรมเลย โดยสามารถใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงแค่ลาก และวางเท่านั้น แต่หากต้องการ ก็ยังสามารถใช้การเขียนโปรแกรมภาษาต่าง ๆ เข้ามาช่วย เช่น “Visual Basic” เพื่อให้ “Robots” ของเราสามารถทำงานได้ดีขึ้น หรือเก่งขึ้นนั่นเองครับ
ซึ่งถ้าหากเพื่อน ๆ สนใจในการนำ “RPA” เข้ามาใช้งาน ก็สามารถดาวน์โหลด “UiPath Studio Community Edition” ได้ที่ลิงก์นี้ www.uipath.com/developers/community-edition-download โดยเราต้องทำการสมัครสมาชิกก่อนถึงจะดาวน์โหลดได้นะครับ
หากเพื่อน ๆ สนใจในตัวเทคโนโลยี “RPA” ก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.uipath.com/product/studio หรือหากสนใจที่จะศึกษาการใช้ “RPA” เพื่อที่จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นก็สามารถเข้าไปได้ที่ https://academy.uipath.com/ และอย่าลืมเข้ามาหาความรู้จาก Contents สาระดี ๆ เกี่ยวกับ “RPA” จากเราได้ทุก 2 สัปดาห์ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
Reference : ขอขอบคุณรูปภาพจาก Business Process in which RPA can use