[Life at MFEC] When the Camellia Blooms… เดินด้วยกันบนทางของกันและกัน

วันประกาศรางวัลผลงานรายการทีวี ซีรีส์ และภาพยนตร์ เวทียิ่งใหญ่ที่สุดเวทีหนึ่งของเกาหลีใต้ ‘56th Baeksang Arts Awards’ ซีรีส์เรื่องหนึ่งออกอากาศเมื่อปลายปีผ่านมา กวาดไปทั้งหมด 4 รางวัล ตั้งแต่ บทซีรีส์ยอดเยี่ยม — นักเขียนบทอิมซังชุน, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม — โอจองเซ, นักแสดงชายยอดเยี่ยม — คังฮานึล รวมถึงรางวัลทรงคุณค่า สูงสุดของการประกาศรางวัลสาขาซีรีส์ หรือ แดซัง ของปี ก็ตกเป็นของซีรีส์เรื่องที่ยังดูไม่จบนี้ ‘When the Camellia Blooms’

ทงแบค (รับบทโดย กงฮโยจิน) ผู้หญิง ชีวิตธรรมดา แต่ถูกฉาบความไม่ธรรมดาด้วยสายตาจากคนรอบข้างตลอดจนถึงอายุ 34 ปี พาลูกชาย พิลกู (รับบทโดย คิมคังฮุน) มาปักหลักที่เมืององซาน เมืองท่าเล็กๆ เต็มไปด้วยร้านขายปูดอง เลี้ยงปากท้องด้วย ‘คามิเลีย’ ร้านเหล้าแห่งเดียวในเมือง มีแต่ลูกค้าผู้ชายมารายล้อม หนำซ้ำยังเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ผ่านมา 6 ปี ด้วยความราบเรียบ ถ่อมตน และสุภาพ ทงแบคเดินหน้าอย่างเข้มแข็ง มอบความรักให้คนรอบข้างเสมอมา ลูกชายคอยปกป้องเสมอขณะเติบโตขึ้น เธอได้พบกับ ฮวังยงชิก (รับบทโดย คังฮานึล) ตำรวจหนุ่มอายุน้อยกว่า ถูกย้ายจากโซลกลับมาบ้านเกิด เขาตกหลุมรักทงแบคจากความสวยตั้งแต่แรกเห็นเช่นเดียวกับชายอื่น แต่หลังรู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น ทำให้อยากดูแล ปกป้อง และมอบทั้งหัวใจให้ เขามองโลกอย่างใสซื่อ รักความยุติธรรม ด้วยโตมาจากการดูแลอย่างดีของแม่ มีบุคลิกเฉพาะ โวยวาย ไปทางเด๋อ แต่จริงใจ ทำให้เธอเปิดรับความสัมพันธ์ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางบรรยากาศไม่ปลอดภัย เมื่อฆาตรกรต่อเนื่องในอดีตค่อยๆ ปรากฎตัวอีกครั้ง

แม้ดูไม่ครบทุกเรื่องที่เข้าชิง ดูยังไม่จบ แต่รู้สึกเชียร์เรื่องนี้ที่สุด เห็นโซเชียลพูดถึงความอบอุ่นหัวใจที่เรื่องนี้มอบให้กับคนดู เห็นด้วยโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดใด หลังจากปิดจบไม่กี่วันต่อมาก็ยังยืนยันว่าอบอุ่นหัวใจจริงๆ ยกให้เป็นเรื่องที่ประทับใจมากเรื่องหนึ่งในบรรดาซีรีส์เกาหลี อาจเพราะชอบชีวิตธรรมดาของผู้คน เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้ดีในทุกองค์ประกอบ

ชีวิตไม่สมบูรณ์แบบ มักถูกจับตามอง

ทุกตัวละครสำคัญในเรื่องมีความไม่สมบูรณ์แบบในเส้นชีวิตตัวเอง เรื่องราวอดีตชวนเจ็บหัวปวดใจ สิ่งเหล่านี้ทำให้เติบโตมาเป็นคนหนึ่งคนในปัจจุบัน โดยเฉพาะทงแบค เริ่มตั้งแต่คนเป็นแม่หายไปจากชีวิต เดินต่อด้วยตัวเองตั้งแต่ 7 ขวบในสถานะของเด็กกำพร้า คำถามว่า ‘ทำไม’ ยังอยู่ในใจตลอดมา คนที่โตมาโดยไม่มีพ่อแม่เลี้ยงดูคือสิ่งที่สังคมมอบให้เธอ เป็นจุดเริ่มต้นที่สร้างผลกระทบอันใหญ่หลวง เลิกกับคนรักในวัยที่เริ่มมองเห็นความสุขจากการได้รับความรัก เลือกเลี้ยงลูกตัวคนเดียวจนเติบโตเป็นเด็กดี ทงแบคถูกจับตามอง คนในชุมชนไม่ยอมรับในสิ่งเหล่านั้น ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับยงชิกตลอดเวลา

อีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจ คุณทนายฮง เชี่ยวชาญคดีฟ้องหย่า ผู้หญิงเก่งที่สุดคนหนึ่งในองซาน เธอได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน สิ่งนี้ทำให้สามีถูกมองว่าอยู่ในสถานะด้อยกว่า สามีก็คิดเช่นนั้น ชีวิตคู่จืดจางลงจากจุดเริ่มไปมากเมื่อพบว่าสามีพยายามสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น เธอจึงเป็นตัวแทนของความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีอยู่จริง

เมื่อความสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องที่ควรจะเป็น คนที่ขาดกลายเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้รับการยอมรับ ถูกพูดถึงในฐานะที่เป็นคนน่าสงสาร หลายคนจึงพยายามสร้างภาพเหล่านั้นให้คนอื่นได้เห็นอยู่เสมอ แม้รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ในความจริง และไม่มีอะไรมั่นคง

คนเป็นแม่

ความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกในหลายมิติ ได้ยินคำพูดถึงคนเป็นแม่ ความเป็นแม่ตลอดทั้งเรื่อง เผชิญชะตากรรมชีวิต มีหน้าที่ในชีวิตต่างกัน เฝ้ามองลูกเติบโตในแต่ละเส้นทาง เป็นฮีโร่และปาฎิหาริย์ของลูกเสมอ ทงแบคเป็นตัวแทนแม่และลูกสาวพร้อมกัน เมื่อแม่ที่ทิ้งไปกลับมาพร้อมสร้างปริศนาให้ทุกคนคาดเดาหลังจากหายไป 27 ปี การกระทำและความคิดซึ่งไม่มีใครมองออก ขณะเดียวกันก็ไม่หลงลืมเสนอความคิดของบรรดาลูกๆ ที่มีต่อแม่ หลากหลายมิติเช่นกัน คนเป็นลูกมองเห็นสิ่งที่แม่อยากให้เห็น เติบโตและยึดมั่นในแบบนั้น ทำให้แสดงออกในความสัมพันธ์ต่างกันไป บรรยากาศชวนกระอักกระอ่วนเกิดขึ้นบ่อยครั้งในครอบครัว

ส่วนตัวคิดว่าครอบครัวเป็นประเด็นงดงาม หากถ่ายถอดออกมาได้ดี ผู้ชมจะมองเห็นความเป็นมนุษย์จากตัวละครได้ชัด เรื่องนี้ทำได้น่าประทับใจอย่างมาก

คนใจร้ายที่อาจเจอได้ในทุกวัน

โลกนี้มีคนใจร้ายอยู่มาก เรามีโอกาสได้พบกับพวกเขา และในบางคราวก็เป็นคนแบบนั้นเสียเอง เมื่อมองความเป็นจริงผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้น คนใจร้ายที่ส่งผลต่อชีวิตมักเป็นคนรอบตัว ทงแบคเป็นผู้รับผลกระทบอยู่เสมอ จากแม่ เพื่อนที่ไว้ใจ คนที่เคารพ และชัดที่สุดจากฆาตกรต่อเนื่องในอดีต ต่างกลับมาทักทายหลังจากผ่านมาหลายปี บ้างเฝ้ามองดูเธอมาตลอด จึงสร้างความกังวลใจ ขณะเดียวกันก็สร้างคนรอบตัวให้กลายเป็นฮีโร่ในชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นพิลกู ยงชิก รวมถึงคนอื่นๆ

แต่ในบางครั้ง เมื่อถึงจังหวะที่โชคชะตาไม่เป็นใจ เราได้กลายเป็นคนใจร้ายเพื่อตัวเอง ปกป้อง สร้างบาดแผลในใจให้กับคนอื่นอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้จากการกระทำในหลายตัวละคร รวมถึงตัวละครหลักอย่างทงแบค ชีวิตของผู้คนในเรื่องจึงมีหลายมิติ

สังคมเคลื่อนไปด้วยคนหลากหลายบทบาท

ตัวละครมากมายสวมหมวกอาชีพ ตั้งแต่ นักเรียน แม่บ้าน คนทำงานในร้านเหล้า เจ้าของร้านเหล้า ร้านปูดอง ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านแว่นตา สถาบันกวดวิชา คลินิกเสริมความงาม และที่ถูกพูดถึงเมื่อขยับตัว เช่น ตำรวจ ทนายความ นักกีฬาชื่อดัง เซเลบในโซเชียล รวมถึงนักการเมือง ซีรีส์พาไปทำความรู้จักผู้คน เป็นตัวหลักบนเส้นทางชีวิตของตัวเอง แต่เกี่ยวข้องกันด้วยความสัมพันธ์ เป็นส่วนเล็กๆ ของกันและกัน

รู้สึกประทับใจที่สุดที่เห็นภาพความร่วมมือร่วมใจของคนทุกคน ช่วยเหลือกันโดยไม่ต้องร้องขอ ทั้งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เรื่องนี้สะท้อนว่าทุกคนสามารถขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้นได้ด้วยกำลัง ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจ

ประเด็นเหล่านี้จึงทำให้มองเห็นความอบอุ่นค่อยๆ ปรากฎชัดขึ้น ชุมชนที่ดูเหมือนใจร้ายแต่คอยสร้างความอบอุ่นหัวใจให้กัน แม่ผู้ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก มุมมองของคนที่เปลี่ยนไปจากด้านลบด้วยปัญหามากมายในชีวิต สู่ความสุขจากด้านดีที่ได้นึกถึงมัน ทุกตัวละครเติบโตขึ้นไปพร้อมกัน ความหมายของดอกคามิเลีย จึงไม่ใช่แค่ชื่อทงแบคในภาษาเกาหลี หรือ ชื่อร้านเหล้าเล็กๆ ในเรื่อง แต่เป็นการยึดมั่นในความรัก ที่ทุกคนมีโอกาสได้เรียนรู้จากกันและกัน

ความราบเรียบ ไม่หวือหวา ชวนนึกถึงเหตุการณ์ในชีวิต ทั้งยังดึงอารมณ์จากฟีลกู๊ด เป็นทริลเลอร์ สลับไปมาอย่างลงตัว บทพูดคมกริบ นำเสนอวิธีคิดได้ชัด คาแรคเตอร์ของตัวละครมีเสน่ห์ มีมิติ และทำให้หลงรัก ซึ่งนักแสดงถ่ายทอดได้ดีเยี่ยม เพลงประกอบเข้ากับบรรยากาศ โทนของเรื่องจึงชัดขึ้นมาก

อดีตอันเจ็บปวด ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ความใจร้ายที่ได้รับจากโลกใบนี้ ยังอยู่กับเราเสมอ การมอบความอบอุ่นหัวใจให้กับคนรอบข้าง อาจช่วยให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจมากขึ้น ชนะสิ่งที่จะทำให้ใจเราหมดคุณค่าลงได้ คือสิ่งที่มองเห็นใช้เวลาอยู่กับพวกเขา

นั่นคือสิ่งที่ได้รับจาก “When the Camellia Blooms”

รูปภาพจาก HANCINEMA : https://www.hancinema.net/korean_drama_When_the_Camellia_Blooms-picture_gallery.html?sort=Latest_Added_Pictures&typephoto=&episode=