Bebe Fit Routine: เล่า Journey การออกกำลังกายตามคอร์สเบเบ้

Burasakorn Sabyeying
Mils’ Blog
Published in
4 min readOct 13, 2023

บทความนี้ไม่เกี่ยวกับ tech แต่อย่างใด แต่เล่าถึง Journey การออกกำลังกายในช่วงนี้ค่ะ

บทความนี้เราไม่ได้จะรับสปอนแต่อย่างใด แต่แชร์ประสบการณ์ตามหาการออกกำลังกายที่ถูกจริตกับตัวเอง

Table of Contents:

- เล่า background ตัวเองก่อน
- Journey การเล่นเบเบ้
- วีคแรก เบาๆ
- วีค 2 ออกกำลังกาย 30 นาทีเป็น 50 นาที
- พฤติกรรมการออกกำลังกายเปลี่ยน
- ข้อดี-ข้อเสีย
- คำถามที่โดนถามบ่อย

หากใครอยากอ่านรีวิวคอร์ส ข้ามไปตรงข้อดี-ข้อเสียได้เลยนะคะ

เล่า Background ตัวเองก่อน

นับตั้งแต่ยุคโควิด เราก็ชอบ Home exercise ค่ะ เราชอบการออกกำลังกายคนเดียวเนื่องจากควบคุมเวลาง่ายดี อยากจะออกตอนไหนก็ได้ตอนที่ร่างกายพร้อม และอีกอย่างคือเล่นกีฬาไม่เก่งค่ะ 555 ปิงปอง, แบตมินตัน, เทนนิส เล่นไม่ได้เรื่องเลยยย

แต่การที่เราชอบ Home exercise ไม่ได้แปลว่าเราขยันออกนะคะ เราสารภาพว่าขี้เกียจค่ะ ทำงานเยอะๆมันก็มีหลุดๆบ้าง จนร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว เจอปัญหามากมาย

  • office syndrome ปวดหลัง ปวดขา ปวดคอ เพราะนั่งทำงานหน้าคอม 8 ชม.
  • นอนไม่หลับ
  • นอนไม่มีคุณภาพ หลับไม่สนิท

ปี 2023 ก็นับว่าเป็นปีที่เรากลับมาออกกำลังกายบ่อยขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ค่ะ เพราะมันไม่ไหวแล้ว และไม่อยากแก่เร็วด้วย อยากสุขภาพดี

Exercise Buddy

ตอนต้นปีเราก็ออกตามช่อง Chloe Ting ค่ะ เป็นคนที่สวยมากกก และหุ่นดีมาก เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจอยากมีหุ่นสวยตามคนนี้

เราได้ออกตาม 2023 Weight Loss Challenge นี้จนจบครบ 28 วัน

ซึ่งเขาทำเป็น workout program ที่กำหนดมาแล้วว่า 1 วันต้องออกคลิปไหนบ้าง ซึ่งเราชอบมาก เพราะถ้า design เองว่าต้องออกกำลังกายอะไรบ้าง เราก็จะวางแผนแบบ bias ไม่เล่นท่าที่ตัวเองเกลียด5555 และมันเป็น gamification ด้วย คือถ้าเราไม่ออก มันก็จะขึ้นว่าเรา skipped แต่ถ้าเราออก มันก็จะเป็น stats ที่น่าพึงพอใจ

คนที่รักการแข่งขันอย่างฉัน ก็แน่นอนว่ารัก workout program นี้หมดใจ และที่สำคัญคือมันฟรีค่ะ เพราะโปรแกรมคือคลิป Youtube และเขาได้รายได้จากยอด views จาก Youtube

แต่ปัญหาคือ พอเราออกครบ program แล้ว เราก็ลองไปเล่น program อื่นๆของเขาค่ะ แต่รู้สึกไม่ค่อยคลิกเท่าไร เพราะเราอยากเวทด้วยเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ แต่ใน program เขาไม่มีใส่ไว้ ไม่ก็บางที program มันยากไปค่ะ เช่นออกท่าออกกำลังกายท่าละ 1 นาทีเงี้ย plank 1 นาที ฉันไม่มีกำลังใจในการอยากตื่นมาออกเลย555555

กลับมาเล่นเบเบ้อีกคร้ัง

คลิปนี้คือสนุก (และเหนื่อย) มาก

คราวนี้เราเลยมองหา channel อื่นๆค่ะ แต่ไม่ค่อยคลิกเท่าไรอีกเหมือนกัน จนกระทั่งลองตาม Bebefitroutine

ซึ่งเอาจริงๆเมื่อก่อนเราแอนตี้เบเบ้มาก มีครั้งเดียวที่ออกตามแล้วต้องเดินทางไปทำงานแล้วเดินลงสะพานลอยไม่ได้ TT ขาตึงมากกกก เลยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไร555555555

แต่ไม่เป็นไร รอบนี้เปิดใจ เลยเล่นตามคลิปฟรีของเบเบ้ใน Youtube ที่เป็นคลิปยาว 25–30 นาทีเป็นต้นไปค่ะ ตั้งเป้าไว้ว่าออกสัก 30 นาที (และมันเก็บคะแนน AIA Vitality ได้ด้วย แฮะๆ)

แต่พอเล่นตามคลิปฟรีของเบเบ้เท่านั้นแหล่ะค่ะ เราก็เริ่มขี้เกียจละ เริ่มออกบ้างไม่ออกบ้าง
เหตุผลเพราะเราขาดแรงบันดาลใจในการออก เพราะเราต้องเลือกเองว่าวันนี้ต้องเล่นคลิปไหน เราจะ bias กับตัวเองอยากเล่นเฉพาะคลิปที่ตัวเองชอบ คลิปไหนเล่นท่าที่ตัวเองไม่ถนัดก็จะไม่เปิดเลย อะไรแบบนั้น

เราก็ตามหาคำตอบว่า อะไรที่ทำให้เราสามารถมีวินัยได้บ้าง เลยรู้ว่าสำหรับตัวเองต้องมี program บังคับเลยว่าแต่ละวันต้องออกอะไรบ้าง เพื่อบังคับตัวเองให้มีวินัย

ตอนแรกเราไม่รู้ค่ะว่าเบเบ้เขาขายเป็นคอร์สด้วยแต่พอรู้ปุ๊บก็ตัดสินใจซื้อเลย เพราะเล่นตามแล้วรู้สึกถูกจริต เขาเล่าและโค้ชได้ดี พูดตลอดทุกท่า (เอาแรงมาจากไหน) ทำตามแล้วรู้สึก engage ได้ตลอดรอดฝั่ง

Journey การเล่นเบเบ้

วีคแรก เบาๆ

คอร์สจะบังคับออกกำลังกาย 4 วันต่อวีคค่ะ ทั้งหมดมี 8 วีคซึ่งวีคแรกจะหน้าตาแบบนี้

เวลาโดยรวมทั้งหมด 30 นาที แบ่งเป็น

  • Warm up — 5 นาที
  • Weight training — 10 นาที แล้วแต่ว่าวันนั้นจะเน้น อก, หลัง+core, ขา และ แขน
  • Cardio — - 10 นาที
  • Cool down — 5 นาที

โดยคลิปทั้งหมดจะแรนด้อมนะคะ ทำให้แต่ละวันท่าจะไม่เหมือนเป๊ะ 100% เช่น cardio จะซ้ำน้อยมากๆเพราะมีจำนวนคลิปให้แรนด้อมเยอะค่ะ ส่วน Warm up กับ Cool down มีตัวเลือกให้อย่างละ 2 อาจจะซ้ำบ่อยนิดนึง

ระบบจะแรนด้อม clip มาให้ แต่ถึงอย่างนั้น weight training แบ่งจะเน้นส่วนตามวันให้เลย วันที่ 1 อก, วันที่ 2 หลังและ core body, วันที่ 3 ขา, วันที่ 4 แขน

สำหรับคนที่ผ่านโปรแกรมของ Chloe Ting ที่ต้องเล่น 40+ นาที บอกเลยว่าสบายมากกกกกค่ะ ชิลๆเลย

ออกกำลังกาย 30 นาทีเป็น 50 นาที

พอเริ่มวีคที่ 2 อยู่ๆระบบมันก็ถามค่ะว่าอยากเพิ่มระดับความยากไหม (เป็น Advance) เราก็เลยลองกดยอมรับดูค่ะ ด้วยความห้าวหาญและอวดดีของตัวเอง

โปรแกรมต่อวันจึงปรับเปลี่ยนจากออกวันละ 30+ นาทีเป็น 50+ นาทีค่ะ

วันที่ 4 ของ Week2 ใช้เวลา 54 นาที

ถามว่าต่างจากเดิมยังไง คือมันจะมีไส้กลางเพิ่มอีก 20 นาทีสำหรับ cardio ค่ะ ซึ่งจริงๆ cardio ก็จะมีตั้งแต่คลิป 2 บ้างละ บอกเลยว่า เหงื่อท่วมมมค่ะ

1–2 วันแรกของวีคนี้ เราได้แต่บ่นกับตัวเองค่ะว่าจะไหวไหมเนี้ย เพราะเอาจริงตอนเล่น chloe เราก็เหนื่อยแล้วนะ แล้วนี่ระดับเบเบ้ที่ทำให้เดินลงสะพานลอยไม่ได้เด้อ 55555

แต่เชื่อไหมคะทุกคน ความขี้เกียจของคนเรามันทำอะไรได้มากกว่านั้นค่ะ เพราะมันไม่มีปุ่มปรับกลับสู่โหมด standard ในระบบ ถ้าจะปรับก็อาจจะต้องไปคุยกับแอดมินใน facebook อะไรอีก เราก็เลยปล่อยเบลอเล่นมาเรื่อยๆค่ะ55555

จากวีคที่ 2 สู่วีคที่3, 4, 5 เรื่อยๆ

ช่วงแรกๆที่เพิ่มเวลา รู้สึกเหมือนจะตายมากๆค่ะ เหนื่อยตั้งแต่คลิป sub circuit แล้ว แต่พอผ่านไปร่างกายเริ่มเหนื่อยยากขึ้น เริ่มคุ้นชินขึ้นค่ะ

หากเราอยากทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องง่าย เราก็ต้องเอาตัวเองเข้า loop ของการออกกำลังกายให้ได้ค่ะ อดทนไปเรื่อยๆจนกว่าจะชิน ร่างกายจะเริ่ม tolerance ได้และเราก็จะเริ่มอยากตื่นมาออกกำลังกาย

จากเดิมที่ออกกำลังกายแค่ 30+ นาทีในรอบ 6 เดือน ก็กลายเป็นคนออกกำลัง 1 ชม. ไปแล้ว
ลงสตอรี่ทุกวันเพื่อบ่นและบังคับตัวเองไปในตัว

ข้อดีของการเป็น program คือมัน force เราให้ต้องออกกำลังกาย เราต้องวางแผนแล้วว่าวันไหนเราควรจะออกบ้าง เลยเกิดเป็นวินัยที่สร้างได้ขึ้นมา

หลังๆพอการนอนเริ่มเข้าที่ เราก็เปลี่ยนจากตื่นสายก็กลับมาตื่น 7.00 ได้ละ แล้วร่างกายก็หลับดีขึ้น กินน้ำเยอะขึ้น คนไม่ชอบกินน้ำนี่แนะนำเลยนะ ออกกำลังกายปุ๊บน้ำจะอร่อยขึ้นทันที 555 ผิวก็ดีขึ้นค่ะ

ข้อดี-ข้อเสียของคอร์ส

ข้อดี

  • ในคอร์สมี Weight training บังคับให้เล่นเลย และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการเพื่อจะ maintain สุขภาพ ไม่ใช่การ cardio อย่างเดียว
  • ถ้าไม่ชอบคลิปไหนจริงๆ หรือเจอคลิปนั้นบ่อยเกินก็เปลี่ยนคลิปได้ แต่ยังเป็นประเภทเดิม
  • Cardio ต้องยอมรับเลยว่าสนุกและหลากหลาย เบเบ้เขามีเต้นด้วย เต้นลาตินบ้าง เต้นบีบอยบ้าง บางทีก็เป็นท่าออกกำลังกายตีมเกมบ้าง เช่นมีคลิปนึงตีม Chunli ก็จะทำผมมวยคู่ แต่ง costume น่ารักๆ ทำให้รู้สึกว่าวันนั้นมีสีสันดี ไม่น่าเบื่อค่ะ
  • เขาจะเตือนให้เราเน้นส่วนไหนพิเศษ เกร็งท้องนะ, position แขนขาควรจะยังไง, บางทีท่ามันยากและเหนื่อยจริงๆ คนทำตามคลิปอยากจะอู้เขาก็เหมือนมีตาทิพย์ พูดประมาณว่า เห้ยๆๆ อย่าหยุด อะไรแบบนั้น ตลกมาก555555
  • เขามี FB group ที่เป็นช่องทางสื่อสาร เราจะเจอคนที่ขยันยิ่งกว่าเราในนั้น คือบางคนเล่น 2 วันติดกันในวันเดียว ~1.30 ชม. อะไรแบบนั้น โหดมากกกกกก
  • เห็นเบเบ้ขายอุปกรณ์เยอะ แต่จริงๆในคอร์สเขา require แค่ดัมเบลและเสื่อแค่นั้นเองเลยค่ะ

ข้อเสีย

  • ในวีคที่ 2, 3, 4 เรามีอาการปวดน่องมาก เกิดจากการยืดที่ไม่เพียงพอ เราว่าคลิป Cool Down มันแอบสั้นไปหน่อย ออกกำลังกายแบบ cardio โหดๆใช้ขาเยอะมาก ซึ่งคลิป Cool down มีแค่ 2 คลิปให้เลือก แต่มีอันเดียวที่มีท่า Pigeon pose เลยต้องเลือกออกแต่คลิปนั้นเสมอเลย
https://www.facebook.com/drishtijourneys/posts/-pigeon-pose-eka-pada-rajakapotasanabeautiful-back-bend-that-releases-nerve-tens/2925015294215503/
  • ฉันผู้เกลียดการ Push up แต่เจอ push up เยอะมาก เบเบ้รัก Push up
  • มันจะมี challenge ในระบบด้วย ทั้ง challenge แบบเดี่ยวและกลุ่ม แต่เราไม่มีเพื่อนในระบบเลยไม่ได้ใช้
  • บางคลิปค่อนข้าง advance ค่ะ บางทีก็ออกแบบไม่พักเลยหรือเปลี่ยนท่าบ่อย อาจจะหน้ามืดได้

คำถามที่โดนถามบ่อย

น้ำหนักลดไหม

หลายคนมักถามค่ะว่านำ้หนักเราลดบ้างไหม

น้ำหนักโดยประมาณที่ลดไป ~1 โล ค่ะ มีสัดส่วนลดไปบ้าง ~0.5 นิ้ว
เอาจริงๆเราว่ามันสามารถเยอะได้กว่านี้ถ้าคุมอาหาร แต่เราไม่ได้คุมค่ะสารภาพตรงนี้ 555555 เพราะอย่างที่บอกว่าเราต้องการแก้ปัญหาเรื่อง office syndrome และเรื่องโรคนอนไม่หลับนอนไม่ดีเป็นหลัก ซึ่งเน้นสุขภาพจิตและร่างกายเป็นหลัก

ส่วนเรื่องลดน้ำหนักตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังเยอะค่ะ ตั้งใจว่าอยากเพิ่มกล้ามเนื้อและลด fat บ้าง แต่พอออกเยอะๆหลังๆก็เริ่มคิดละล่ะ5555 จะพยายามลดน้ำตาลและแป้งลงเพื่อให้ร่างกายดึงไขมันไปใช้ค่ะ

ซึ่งเราก็คิดว่ามาถูกทางแล้วนะ การออกกำลังกายควรออกอย่างน้อย 20 นาทีอย่างต่ำ

เคย skip การออกกำลังกายบ้างไหม

(ณ ตอนที่กำลังเขียน จบ Week 6 แล้ว) เคย skip แค่ครั้งเดียวเพราะมีติดธุระไปตจว.กะทันหัน แต่มันสามารถเล่นชดเชยได้นะคะ เพราะดูคลิปย้อนหลังได้

บอกแล้วว่า วินัยมันสร้างได้จริงจริงงง

ทิ้งท้าย

อันที่จริงเราคิดอยู่นานมากๆว่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีไหม แต่คิดว่ามันก็คือพาร์ทหนึ่งของ work-life balance และหลายๆคนมักทำงานจนละเลยเรื่องสุขภาพไป เลยคิดว่าเขียนเก็บไว้เผื่อเป็นแรงบันดาลใจกับใครที่ลองหาการออกกำลังกายใหม่ๆและต้องการสร้างความมีวินัยอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยก็ไม่เหงานะมีเราเหนื่อยเป็นเพื่อน ฮ่าๆ

I started to work out because I love my body — not because I hate it

ทิ้งท้ายด้วยรูป หมาแพล้งได้ เราก็ต้องแพล้งได้เหมือนกัน เย้ย

--

--

Burasakorn Sabyeying
Mils’ Blog

Data engineer at CJ Express. Women Techmakers Ambassador. GDG Cloud Bangkok team. Moved to Mesodiar.com