ความเสี่ยงที่นักลงทุนควรรู้

ในช่วงปีนี้ ผมได้มีโปรเจคทำพวก trading bot กับเพื่อนๆ อยู่ นอกจากที่ต้องคิดว่า ทำอย่างไร ถึงจะได้ผลตอบแทนเยอะแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคิดเหมือนกันก็คือความเสี่ยงที่ต้องพึงระวัง ที่เพื่อนๆ ผม list ไว้มีอยู่ 3 ข้อ

  1. ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน — เรามักจะเลือกตัวที่มีโอกาสเติบโต ดูดีมีอนาคต ดูเบื้องหลังของมันดีๆ ถ้าเป็นหุ้นก็จะดูบัญชีทางการเงิน ดูว่ากิจการยังขยายได้อีกไหม หรือ ถ้าเป็น crypto currency ก็ดูว่ายังมีคนใช้งานมันอยู่ หรือมีโครงการที่มีแนวโน้มทางที่ดี
    ถามว่าตัวไหนดี เราก็ดูข้อมูลต่างๆ ประกอบแหละ ตอนที่เราเลือกมันก็คงดี แต่มันไม่ได้ดีตลอดไปหรอก ก็คงต้องตามดูไปเรื่อยๆ อย่างตัวอย่างในปีนี้ที่ผมเจอ คือ การล่มสลาย ของ LUNA ที่มันเริ่มจากการหลุด peg ของ UST จนไปสู่ทำให้ LUNA ราคาตกจนเกือบ 0
  2. สถานที่เทรด — หมายถึง พวก exchange / broker หรือสถาบันการเงิน ที่รับเทรด ก็คือเวลาเราจะเทรด เราต้องเอาเข้าบัญชีรอไว้ก่อน ค่อยส่งคำสั่งซื้อ-ขาย ประเด็น คือ แปลว่า เราต้องเลือกที่ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะว่าเราต้องพักเงินไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อเทรด ถ้าหายไปก็แย่เหมือนกัน
    ตัวอย่างเช่น FTX (เว็บเทรด crypto currency อันดับ 2) ล้มละลาย เพราะว่าการบริหารจัดการเงินไม่ดี และการถอนเงินออกจำนวนมาก ทำให้ขาดสภาพคล่อง ก็คือใครถอนช้าก็สูญเงินไป
  3. กลยุทธ์ในการเทรด — ก็มีอยู่หลายแบบ เช่น grid trading, DCA, arbitrage, rebalancing แต่ละอันก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นกับว่าเราอยากได้ผลตอบแทนเท่าไร รับความเสี่ยงได้เท่าไร แล้วก็เหมาะกับสถานการณ์แบบไหน ผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวไหน
    ตัวอย่างกลยุทธ์เสี่ยงๆ ก็เช่น ตอนราคาลงในแต่ละขั้น เพิ่มเงินลงทุนเป็น 2 เท่าเรื่อยๆ (martingel) กลยุทธ์นี้ ถ้าราคาลงไปเรื่อยๆ จะใช้เงินจำนวนมหาศาล แต่ถ้าราคากลับมาที่เดิมได้ ก็ได้ผลตอบแทนมหาศาลเช่นกัน

สรุปก็คือ ถ้าข้อ 1 กับ ข้อ 2 คุณเลือกถูก เงินที่ลงไปจะไม่มีทางเป็น 0 ถ้ามันไม่ถูกเราก็แค่ขายทิ้ง ย้ายเงินไปที่ที่ปลอดภัยกว่า ส่วนข้อ 3 เป็นตัวที่จะบอกว่า เราจะได้ผลตอบแทนเท่าไร หรือ ขาดทุนเท่าไร

เหรียญยังมีสองด้าน การลงทุนก็เช่นกัน

--

--