บัตรเครดิต เป็นทั้งผู้ให้คุณและให้โทษ

Aphichan Chaiyutthasart

Published in

สุขกับเงิน

1 min readSep 30, 2023

มารู้จักคำว่า “เครดิต” กันก่อน

ในทางบัญชี เราจะได้มักจะได้ยินคำว่า เดบิต กับ เครดิต โดย

เดบิต (Debit) หมายถึง ด้านซ้ายของบัญชีแยกประเภทซึ่งใช้บันทึกสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และหนี้สินกับส่วนของเจ้าของที่ลดลง

เครดิต (Credit) หมายถึง ด้านขวาของบัญชีแยกประเภทซึ่งใช้บันทึกสินทรัพย์ที่ลดลง และหนี้สินกับส่วนของเจ้าของที่เพิ่มขึ้น

หรือ เครดิต (สินเชื่อ) มีอีกความหมายคือ ระบบที่ให้ผู้ใช้สินเชื่อสามารถซื้อสินค้า หรือบริการโดยชำระเงินในภายหน้า(ไม่ใช่ปัจจุบัน) ซึ่งขึ้นอยู่กับความเชื่อถือ หรือความไว้วางใจทางการเงินของบุคคลหรือหน่วยธุรกิจ (ผู้ให้สินเชื่อ)

ดังนั้น บัตรเครดิต คือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสด เป็นหนึ่งในประเภทของสินเชื่อส่วนบุคคลที่ให้บริการโดยธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันทางการเงินต่างๆ

หลักการทำงาน คือ
- สถาบัน หรือ ธนาคาร จะให้วงเงินในบัตรมาจำนวนหนึ่ง อาจจะสัก 2, 3, 4, 5 เท่าของรายได้ แล้วแต่สถาบัน
- เรา สามารถนำบัตรไปใช้จ่าย ได้ไม่เกินวงเงินในบัตร
- พอถึงวันที่สรุปยอดค่าใช้จ่าย สถาบันจะส่งใบเรียกเก็บเงินในรอบนั้น (เป็นรายเดือน เดือนละครั้ง) และมีการกำหนดวันชำระเงิน
- เราต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน ก่อนวันชำระเงิน จึงจะไม่เสียดอกเบี้ย แต่ถ้าจ่ายแค่ขั้นตำ่ หรือเกินกำหนด ก็จะต้องเสียดอกเบี้ย (แพงมาก)

จริงๆ มีบัตรอีกสองประเภทที่ใช้จ่ายแทนเงินสดเหมือนกัน แต่มันไม่ได้ทำงานแบบนี้ คือ บัตรเดบิต และบัตรกดเงินสด

การเลือกบัตรเครดิต ตาม lifestyle

สาย online shopping ก็ลองดูว่า เราใช้ app อะไรบ่อยในการซื้อของออนไลน์ ก็ดูว่ามีบัตรใบไหนเข้าร่วมบ้าง คุณจะได้ point หรือ cashback หรือ promotion พิเศษ แล้วก็บางใบมีประกันสินค้าด้วย
สายบิน ลองหาคำว่า บัตรเครดิตสะสมไมล์ สิทธิประโยชน์ก็เช่น มีห้องรับรองในสนามบิน มีประกันการเดินทาง
สายกิน ถ้าไปกินร้านอาหารญี่ปุ่น หรือไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็บัตร JCB จะมีโปรเยอะ หรือ บัตร KTC ก็โปรร้านอาหารเยอะเช่นกัน
สายไปห้าง ก็จะมีบัตรบางใบที่มีสิทธิ์ที่จอดรถฟรี แล้วก็มีโปรโมชั่นของห้างนั้นๆ

อันนี้ lifestyle เท่าที่ผมนึกออกนะ คนหนึ่งอาจจะมีหลายใบ เพราะสิทธิประโยชน์แต่ละใบมันไม่เหมือนกันอะนะ

มาดูข้อดี ข้อเสียกัน

ข้อดี คือ

ได้ point, cashback หรือ ส่วนลด โปรโมชั่นต่างๆ (เหมือนไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน)
ได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติม
ไม่ต้องพกเงินสด
ถ้าประวัติในการชำระเงินดี ทำให้ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
สามารถ ซื้อสินค้า บริการที่มีราคาสูงได้ง่ายขึ้น (มีโปรผ่อน 0% หรือดอกเบี้ยต่ำ)

ข้อเสีย คือ

ใช้จ่ายได้ง่าย ถ้าใช้จ่ายเกินตัว ทำให้จ่ายเงินไม่ตรงเวลา จะต้องเสียดอกเบี้ย มหาศาล
ถ้ามีประวัติการจ่ายเงินไม่ตรงเวลา ไม่เต็มจำนวน จะขอสินเชื่อยาก

น่าจะมีคนเอ๊ะ แล้วสถาบันการเงิน หรือธนาคารได้อะไร

เขาได้ค่าธรรมเนียมจากการใช้จ่าย คือ ร้านค้าจะเลือกว่า เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากลูกค้า หรือร้านค้าจะจ่ายค่าธรรมเนียมให้ ถ้าเคยไปบางร้านจะบอกว่า ถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะ charge เพิ่ม

แล้วก็จะได้รู้ว่า แต่ละคนมีการใช้จ่ายรายการใดบ้าง เอาไว้ทำโปรโมชั่นต่อ

และสุดท้ายได้รู้ว่า ใครเป็นลูกค้าชั้นดี จ่ายเงินตรงเวลา ครบถ้วน จะได้กล้าปล่อยสินเชื่อ

ขอจบด้วย ข้อคิดละกัน

บัตรเครดิตก็เป็นเพียงเครื่องมือทางการเงินอย่างหนึ่งเท่านั้น ถ้าใช้เป็นก็จะได้ประโยชน์ ถ้าใช้ไม่เป็นก็เป็นหนี้เป็นสิน

บัตรเครดิต เป็นทั้งผู้ให้คุณและให้โทษ

อ้างอิง

Written by Aphichan Chaiyutthasart