Atikom Tancharoen
Muze Innovation
Published in
3 min readMar 25, 2022

--

แชร์ประสบการณ์จาก Developer Manager กับ Challenge การสร้างทีมที่ Muze

| ต้องทำอะไรบ้าง ? อะไรคือความท้าทายในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่.. ?

วันนี้จะมาพารู้จักกับ “พี่โม” อธิคม ตันเจริญ ปัจจุบันเป็น Developer Manager ที่ Muze

ซึ่งหลาย ๆ คนคงสงสัยว่าตำแหน่ง Developer Manager คืออะไร ? แตกต่างจาก Developer ทั่วไปยังไงบ้าง หรือสำหรับใครที่อยากเติบโตทางสายงานนี้ จะต้องมีประสบการณ์ในด้านไหนเป็นพิเศษ และควรพัฒนาตัวเองยังไงดี ?

พี่โมจะมาร่วมแชร์พร้อมกับเล่าประสบการณ์ และความท้าทายของการเป็น Developer Manager ที่ต้อง Build ทีมขึ้นมาใหม่ ในช่วงรูปแบบการทำงานแบบ Work from Home 100%

โม อธิคม ตันเจริญ (Muze Developer Manager)

แนะนำตัวกันหน่อย

| ก่อนหน้านี้ทำอะไรมาก่อน.. มีประสบการณ์ด้านไหนมาก่อนจะมาเป็น Developer Manager ที่นี่ ?

ชื่อโมครับ ปัจจุบันอายุ 31 ปี จุดเริ่มต้นของสายอาชีพเลยคือเป็น iOS Developer ครับ เลยจะมีประสบการณ์ในด้าน Mobile มาตั้งแต่เร่ิมต้น

ส่วนของประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการ Manage พี่เคยเป็น Squad Lead ครับ ตอนนั้นหน้าที่ที่ต้องทำคือ manage ทีมให้เข้าร่วม ceremonies ที่วางไว้ อาทิเช่น sprint review, sprint planning, retrospective, etc. รวมถึงคอย scan ปริมาณงานที่จะเข้า squad ซึ่งอาจจะไม่ได้ดูในเชิง Technical มากครับ

ต่อมาก็ได้รับโอกาสมาทำในตำแหน่ง Mobile Manager ครับ ซึ่งมีความท้าทายค่อนข้างมากในตอนนั้น เพราะเปลี่ยนสายจาก developer มาทำด้าน management เต็มตัว บวกกับการที่ต้องดูแลทีมจาก 1 squad กลายเป็น 4 squads ซึ่งจะมี 1 squad ที่อยู่ต่างจังหวัดด้วย

ทำความรู้จักกับตำแหน่ง Developer Manager

| มีหน้าที่อะไรบ้าง ? SkillSet แบบไหนที่ควรมี ?

พี่แบ่งหน้าที่ของ Manager เป็น 2 พาร์ท คือ “Team” และ “Personalize”

ในส่วนของ Team พี่มองว่า Manager เหมือนเป็นโค้ชฟุตบอล ที่มีหน้าที่ดูแลทีม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเตะบอลเก่งเหมือนทีม แต่คำว่าโค้ช คือเราจะทำยังไง ? ด้วยวิธีการอะไร ? ให้คนในทีมสามารถทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จ และเอาตัวเองรอดในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ได้ โดยเราจะต้องคอยช่วยสนับสนุนทีมให้ทำงานได้อย่างราบรื่นที่สุด

และในส่วนของ Personalize เนื่องจากแต่ละคนในทีมมีความแตกต่างกัน มีปัญหาไม่เหมือนกัน เราเลยต้องทำหน้าที่เหมือนเป็นคุณหมอที่สามารถให้คำปรึกษาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Burn Out หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับงาน เช่น ถ้าเค้าอยากเติบโตในเรื่องอื่น ๆ อยากเก็บเงิน อยากลงทุน แล้วถ้าเราพอมีประสบการณ์ เราก็สามารถแนะนำ หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อเอาไปปรับใช้ในชีวิตได้ครับ

ทักษะอะไรที่ Developer Manager ควรมี ?

ในเรื่องของ Hard Skill ถ้ามีความรู้ทางด้านซอฟต์แวร์ หรือ Coding ก็จะดีมาก ซึ่งในมุมมองของพี่ “ไม่จำเป็นต้อง Coding เก่ง” แต่แน่นอนว่าควรจะมีความรู้ความเข้าใจในสายงานที่เราจะต้องทำ เหมือนถ้าเราเป็นหัวหน้าช่างปูน แต่โบกปูนไม่เป็น มันก็จะคุยกับทีมลำบาก

แต่ Skill ที่ Manager ควรมีหลัก ๆ คือ “การพูด” และ “การฟัง”

เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ …ถ้าเราสื่อสารความต้องการของเราไม่เป็น คนอื่นก็จะไม่เข้าใจว่าเราต้องการอะไร ตัวงานที่ทำงานอยู่ก็อาจจะบิดเบี้ยวไป

ซึ่งการพูดที่ว่านี้ ไม่ใช่การออกคำสั่ง แต่เป็นการขอความร่วมมือ เน้นสร้างความเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังทำ ว่าทำแล้วจะเกิดประโยชน์อะไร แล้วพยายามให้ทุกคนมีส่วนร่วมให้มากที่สุด ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหานี้ และทุกคนก็จะรู้สึกว่างานมันไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด

ส่วนการรับฟัง ก็เป็นสิ่งสำคัญมากในส่วนของการจัดการ Personalize ของน้อง ๆ ในทีม เราต้องเริ่มจากการรับฟังเค้าเยอะ ๆ เพื่อให้รับรู้ถึงปัญหาที่แท้จริง ให้เค้าสบายใจ แล้วเราก็จะได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาให้ได้ถูกจุดด้วย

ความท้าทายของการเป็น Developer Manager ที่ Muze

เนื่องจาก Muze กำลัง Scale up ทีม และทีมเราเป็นทีมใหม่ที่ตั้งขึ้นมา คือกว่า 70% เป็นพนักงานใหม่เกือบทั้งหมด ก็เลยยังไม่ได้เซต Ceremonies อะไรมาก หน้าที่ของเราคือต้องทำยังไงก็ได้ ให้สามารถ Build ทีม ให้ทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุด

สิ่งแรกที่เริ่มทำคือการนำ Agile Ceremonies เข้ามาใช้ แต่เลือกท่ีจะไม่ใช้ทั้งหมดโดยเราต้องดูว่า Pain ของทีมคืออะไร แล้วปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์กับทีม อะไรที่ Work อยู่แล้วก็เก็บไว้ อะไรไม่ Work ก็เอาออกไป เพราะคีย์สำคัญของ Agile คือความ Flexible

นอกจากนี้ในเรื่องงานก็ทำตาม Process ที่เราเคยทำกันมา ซึ่ง Muze ก็มี Culture ของตัวเองอยู่แล้ว พี่ ๆ ก็คอยให้คำแนะนำ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดเวลา

Muze Town Hall Monthly

ดูแลน้อง ๆ ในทีมยังไงบ้าง ? ในฐานะ Manager

| แชร์เทคนิคในการดูแลจัดการทีมที่ต้อง Build ขึ้นมาใหม่

วันแรกที่เข้ามาก็เริ่ม One-on-One กับน้อง ๆ ทุกคนในทีมเลย เพราะเราอยากพูดคุย ทำความรู้จักกับน้อง ๆ ในทีม ว่าแต่ละคนทำอะไรกันมาบ้าง อยู่ที่นี่มานานแค่ไหน เขาชอบอะไร-ไม่ชอบอะไร พอหลังจากได้ Insight มาแล้ว ได้รู้พฤติกรรมของน้องในทีมคร่าว ๆ แล้วเราก็จะพอมีไอเดียในการ Manage เรื่องอื่น ๆ ต่อไป

ปัญหาหนึ่งของทีมคือตั้งแต่เข้ามาทำงาน เรา Work from Home กันตลอด เลยพยายามจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ทุกคนก็มีไอเดียมาเสนอ อย่างการฟังเพลงระหว่างทำงานใน Discord ก็ช่วยให้รู้จักความชอบของน้อง ๆ ในทีมมากขึ้นด้วย มีการเล่นเกมกันหลังเลิกงาน ซึ่งก็ผ่าน Discord กันเป็นหลักด้วย อีกอย่างหนึ่งคือการจัดกิจกรรม Ice Breaking เป็นกิจกรรมที่ยืนยุ่นและหลากหลาย ซึ่งเริ่มตั้งแต่มีการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว รวมไปถึงชวนเล่นเกมส์ด้วยกัน ซึ่งเรามีกิจกรรมแบบนี้ในแต่ละ sprint ให้ผ่อนคลายจากการทำงานบ้าง

Session ที่ให้น้อง ๆ มาแชร์เรื่องราว พูดคุยกัน

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำตอนนี้คือพยายามบิ้วให้น้อง ๆ รักการ Sharing เหมือนเวลาเรามีของดี ก็ไม่ควรเก็บไว้คนเดียว สิ่งที่ตามมาอีกอย่างหนึ่งคือพอคนหนึ่งได้เรียนรู้เรื่องนึ่งมา คนอื่นก็จะอยากเรียนรู้เพิ่มขึ้นด้วย พี่เลย Support ในส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์เรื่อง Personalize หรือ Tech Knowledge เพราะพี่เชื่อว่าการแบ่งปันให้คนอื่น คือการสร้าง Impact ที่ดีให้กับส่วนรวม ยิ่งแชร์ไปได้มาก Impact ก็จะใหญ่ขึ้น น้อง ๆ ก็ได้พัฒนาตัวเองไปด้วย

ต่อมาเรื่องของการให้ Reward กับคนในทีม โดยปกติถ้าน้องในทีมทำดีพี่และคนในทีมมักจะเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้เห็น และก็คงจะให้ Reward กันได้ไม่ยาก แต่จะดีกว่าไหม ถ้าทำให้คนทั้งบริษัทเห็นด้วยกับเราว่าเรามีความสามารถเหมาะสมกับ Reward ที่ได้รับจริง ๆ ซึ่งจุดนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พี่พยายามผลักดันให้คนในทีม เก่งนอกทีมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ share knowledge หรือจัด workshop กันภายในบริษัท ให้เป็นที่ยอมรับของทุกคนในบริษัท และเกิดการแข่งขันการแบ่งปั่นความรู้ซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น

มีนัดกันไปกินข้าว ไปเจอกันบ้าง

อยากให้ลองชวน Developer Manager มาร่วมสร้างทีม เติบโตไปพร้อมกับ Muze

พี่มองว่าที่นี่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากทดลองอะไรสักอย่าง เพราะ Muze ถือเป็นบริษัทขนาดกลาง ที่ไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป Process ต่าง ๆ ของเราเลยมีไม่มาก

ทำให้เรามีความใกล้ชิดและเข้าถึงกันได้ง่าย ซึ่งเราสามารถพูดคุย ปรึกษากับพี่ ๆ Management หรือ CEO รวมถึงการเข้าถึงคนอื่น ๆ ในองค์กรได้ง่าย การทำงานก็เลยง่ายไปด้วย

เช่น สมมติเราอยากจะทำกิจกรรม Ice breaking ขึ้นมา เราสามารถคุย เพื่อของบ และ Approved ได้ในไม่กี่ขั้นตอน เลยทำให้เราได้เรียนรู้ ได้ทดลองทำ เพียงแค่เรามีไอเดีย ก็สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้เลยในระยะเวลาอันสั้น

ที่ Muze ให้อิสระในการ Manage ทีม

การเป็น Manager ที่มิวซ์ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นสูง ที่อาจจะหายากในหลายบริษัท

การจัดการของแต่ละทีมอาจจะไม่เหมือนกัน แต่เราจะมีจุดตรงกลาง มี Goal ร่วมกันอยู่ ซึ่งเราจะไม่มีข้อห้าม หรือขีดจำกัดมากมาย สิ่งนี้แหละที่ทำให้เราสามารถ Manage ด้วยวิธีการของเรา มาลองผิดลองถูกด้วยกันได้ บางอย่างที่ Success เราก็เก็บไว้ อันไหนที่ Fail เราก็ตัดออกไป แล้วลองใหม่ ถือว่าเป็นบริษัทแห่งโอกาสที่ให้เราได้เรียนรู้ แล้วเติบโตไปพร้อม ๆ กันเลย

ที่นี่ให้โอกาสให้เราได้ทดลอง คิดได้แล้วทำเลย โดยที่ Fail Fast, Learn Fast

รวมทีมในช่วง Work from Home

อีกอย่างหนึ่งที่ชอบที่ Muze คือ “คน” หรือ Culture ที่ดี

เนื่องจากพี่เข้ามาดูแลทีมใหม่ ในฐานะ Developer Manager ที่ Muze โชคดีอย่างหนึ่งที่เราไม่ต้องคัดคนเอง คือที่มิวซ์คัดคนมาให้แล้ว คัดคนมาดี ถ้าเราไปคัดอาจจะไม่ได้แบบนี้ด้วย ซึ่งน้อง ๆ ที่นี่จะมี Soft Skill กันเยอะมาก มีความพร้อมเรียนรู้กันตลอดเวลา ที่นี่ทุกคนเหมือนน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมให้น้ำมาเติมในแก้วตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะป้อนอะไรให้ไป น้องทุกคนเหมือนจะกระตือรือร้นตลอดเวลา ไม่มีอีโก้

สุดท้ายน้อง ๆ ในทีมก็คือคนที่สร้าง Culture ที่ดีขึ้นมา บริษัทที่ดีก็เกิดจากผู้คนที่ดี ซึ่งที่ Muze มีสิ่งนั้นอยู่แล้ว

--

--