Alibaba เปิด Platform ร่วมใจรับมือ CoronaVirus พร้อมตั้งกองทุนกว่าพันล้านหยวน

First | Natthaphon S.
My Little Journey
Published in
2 min readFeb 8, 2020

จากวิกฤต Corona Virus ในประเทศจีน จนลามไปสู่ปัญหาระดับเศรษฐกิจโลกที่เราต่างคนต่างเจอปัญหากันอยู่ ณ ปัจจุบัน คราวก่อนผมเคยเล่าถึงการจัดการองค์กร และแก้ปัญหาวิกฤตของ Alibaba ในวันที่เค้ากำลังก่อร่างสร้างตัวเมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้วกับปัญหาโรค SARs เค้าผ่านมาอย่างไร ส่วนวันนี้ในวันที่ Alibaba ก้าวขึ้นมาสู่ 1 ในบริษัทยัก์ษ์ใหญ่แห่ง e-Commerce ระดับโลก มาดูกันว่าเค้าเปลี่ยนบทบาทตัวเองอย่างไรบ้าง

แจ็ก หม่า ร่วมบริจาคในนาม มูลนิธิแจ็กหม่า เป็นเงินจำนวนมหาศาลถึง 14 ล้านUSD (449 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนหน่วยงานทางการแพทย์ในจีนให้เร่งคิดค้นวัคซีนรักษาไวรัสโคโรนาได้โดยเร็ววัน ยังไม่พอแค่นั้นมูลนิธิแจ็กหม่ายังควักกระเป๋าอีก 144 ล้านเหรียญ (4,489 ล้านบาท) มอบให้กับทุกโรงพยาบาลในจีนเพื่อใช้เป็นทุนในการซื้อยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอีกด้วย (อัพเดท 25 มกราคม 2020) ไม่เพียงแค่นั้น Alibaba ร่วมนำเอาประสบการณ์และเงินทุนรวมถึงความรู้และทรัพยากรที่มีในบริษัทเข้ามาร่วมแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ที่แน่ๆอย่างรวดเร็วซะด้วย เราคงได้ข่าวที่มีการสร้างโรงพยาบาลเพื่อรับรักษาผู้ป่วยจาก Corona Virus อู่ฮั่นภายในระยะเวลาเพียง 4–6 วันกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยครับ นั่นคือเชิง Hardware ที่รัฐบาลจีนสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเป็นที่พักรักษาแก่ผู้ป่วย ผมว่ามันมหัศจรรย์มาก

ในขณะเดียวกัน Alibaba ก็เร่งพัฒนา Platform ใหม่ขึ้นมาทันทีเพื่อรองรับสถานการณ์โครน่า ไวรัสโดยเฉพาะ ในรูปแบบ Global Business-to-Business Sourcing Platform ด้วยจุดประสงค์ที่จะเพิ่มความเร็วในการสั่งสินค้าเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อ Corona Virus ไปยังพื้นที่ประสพภัยในประเทศจีน อย่างเร็วที่สุด ที่เรียกว่า Alibaba Global Direct Sourcing Platform โดยเปิดให้ Supplier โลกเข้ามาเสนอสินค้าเวชภัณฑ์ตาม Spec ที่กำหนดครับ โดยเชื่อมฝั่ง Demand หน่วยงานท้องถิ่นและโรงพยาบาลในจีนที่ได้ผลกระทบโดยตรง เมื่อระบบมีการตรวจแล้วว่าผู้เสนอราคาเวชภัณฑ์ที่เสนอเข้ามามีความถูกต้องตามที่โรงพยาบาลท้องถิ่นต้องการแล้ว ทาง Alibaba ก็นำเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อตามลำดับความรุนแรงและความเร่งด่วนของทั้งประเภทของเวชภัณฑ์ในแต่พื้นที่

แล้วใช้ระบบการจัดการระบบขนส่งอัจฉริยะของ Alibaba อย่าง Cainiao Smart Logistics ร่วมกับ เหล่าพันธมิตรทั่วโลก เช่น ZTO, STO, Best Logistics, Yunda Express, AirCity, DB Schenker, 4PX และ Danniao ในนาม Cainiao Green Channel เพื่อจัดส่งไปยังโรงพยาบาลโดยตรงอย่างรวดเร็วที่สุด โดยใช้งบประมาณของกองทุนของ Alibaba มูลค่า 144 ล้านUSD ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาทั้งหมดในการจัดการครับ นี่ก็เป็นอะไรที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน นอกจากให้เงินแล้วยังให้ทั้ง Knowhow ขององค์กรเข้ามาร่วมช่วยในการแก้ปัญหาระดับโลกอีกอีกด้วย ซึ่งเป็นการนำเอาทั้งเรื่องของ Big Data และการบริหาร Logistic มาจัดการในวินาทีแห่งความเป็นความตายนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ อันนี้ต้องยกนิ้วให้เลย

พร้อมกันนี้ Alibaba ยังส่งจดหมายเปิดผนึกถึง Supplier ทั่วโลก เพื่อเชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการทั้งร่วมขายสินค้าใน Platform สำหรับผู้ที่ต้องการร่วมบริจาคก็สามารทำได้เช่นกัน โดย Alibaba ได้สร้างความไว้วางใจและให้กำลังใจเพื่อรวมใจให้ทุกคนมีจุดมุ่งหมายที่จะเอาชนะศัตรูเดียวกันกันนั่นก็คือ Corona Virus และเชื่อว่าจะผ่านมันไปร่วมกันได้อย่างแน่นอน ซึ่งสำหรับผู้ที่ร่วมโครงการทั้งหมด Alibaba ให้คำมั่นในการส่งสินค้าเวชภัณฑ์อย่างรวมเร็วและปลอดภัยถึงผู้ที่ต้องการอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา Alibaba ได้จัดส่งสินค้าเวชภัณฑ์ทั้งที่จัดซื้อเองและร่วมบริจาค จาก 15 ประเทศ (แน่นอนครับว่าต้องมีประเทศไทยของเราร่วมอยู่ในนี้ด้วย น่ายินดีจริงๆ ) และภูมิภาคต่างๆในประเทศจีน ไปยัง โรงพยาบาลกว่า 18 แห่งมณฑลหูเป่ย อู่ฮั่น เจ้อเจียง และอานฮุย

เป็นไงกันบ้างครับสำหรับเรื่องนี้ แน่นอนว่าการที่เกิดปัญหาวิกฤตที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมาเราไม่สามารถคาดการณ์ อย่างปัญหาเรื่องโรคระบาดเป็นต้น แต่สำหรับ Alibaba กำลังทำอยู่นั้น เพื่อนผู้อ่านคิดว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ครับ บางครั้งผมก็อดคิดไม่ได้ว่าความชำนาญของภาครัฐในการแก้ปัญหาเฉพาะด้านอาจไม่ใช่เรื่องถนัดของเค้า การที่ภาคเอกชนที่มีความสามารถสูงในด้านนั้นๆยื่นมือเข้ามาช่วยจัดการ น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่า แก้ปัญหาเฉพาะจุดในระยะเวลาที่สั้นกว่าได้ แน่นอน Alibaba ไม่ได้มีหน้าที่ ที่จะต้องบริจาคเงิน ไม่ได้มีหน้าที่ต้องเข้ามาจัดการแก้ปัญหา แต่หากมองในเชิงธุรกิจแล้วจะเสียหายแค่ไหนหากเรารอเฉยๆไม่รู้จุดหมาย แล้วปล่อยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มาแก้ปัญหาที่เค้าไม่ถนัด ต้องใช้เวลาแค่ไหน ประเทศชาติจะเสียเสียหายเพียงใด สุดท้ายบริษัทอย่าง Alibaba ได้รับผลกระทบจากการเสียหายในครั้งนี้มากน้อยแค่ไหนไม่มีใครตอบได้ (แต่แจ็ค หม่า อาจจะรู้ก็ได้นะ) ที่นี้เราลองมองตัวเองเป็นแจ็ค หม่า แล้วมองเงินบริจาคเป็นเงินลงทุนเพื่อแก้ปัญหาให้จบในระยะที่สั้นลงเพื่อให้กระทบธุรกิจของตนน้อยที่สุด และไม่ใช่แค่เงินบริจาค แต่ต้องเข้ามาจัดการด้วยตนเองด้วย เพื่อคอนโทรลกระบวนการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาล่ะ ได้ทั้งแก้ปัญหา ได้ทั้งกล่อง ผมว่าเราได้ผู้ชนะที่แท้จริงจากเคสนี้แล้วล่ะครับ.….

หันกลับมามองประเทศไทย…… สวัสดี…ม้ามันช้า…..ลาไปก่อนครับ…

--

--

First | Natthaphon S.
My Little Journey

Man who love technology and marketing. And always challenge himself to combine it to create the new world. Co-Founder Thaiconnect 2019 co,. Ltd.