Flyzoo Hotel โรงแรมแห่งอนาคต รึ AI จะครองโลก

First | Natthaphon S.
My Little Journey
Published in
4 min readJan 9, 2020

--

ผมมีโอกาสได้ไปเรียน Alibaba Business School มาครับ จึงได้ไปเยือนเมืองหลวงของ Alibaba นั่นก็คือเมืองหางโจว ประเทศจีน บ้านเกิดของ Jack Ma ผู้ก่อตั้งนั่นเอง

แต่ก่อนที่ผมจะไปพูดถึงเนื้อหาเรื่องที่ร่ำเรียนมา ผมขอเล่าเรื่องเบาๆก่อน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความล้ำสมัยของเจ้าโรงแรมแห่งนี้ก่อนครับ ผมตั้งใจนอนที่นี่ตลอดหลักสูตรเพื่อที่จะได้เจาะลึกทุกแง่มุมเลยทีเดียว

“โรงแรมที่ตั้งใจออกแบบมาให้โรงแรม Self Service แล้วจะได้ความรู้สึกถึงการบริการของโรงแรมอยู่มั้ย “

นั่นเป็นคำถามที่ผมถามตัวเองอยู่พอสมควรว่าโรงแรมลักษณะนี้จะมาแทนโรงแรม Traditional ที่เน้น Service เป็นสิ่งสำคัญได้อย่างไร

เริ่มจากจุดเริ่มต้นคือการเช็คอินด้วยตนเอง นักท่องเที่ยวจีนสามารถใช้บริการโรงแรมแห่งนี้ได้เพียงการลงทะเบียนยืนยันบุคคล คล้ายกับกับการลงทะเบียนที่ตม.ด้วยเครื่องอัตโนมัติเวลาเราออกนอกประเทศไทยนั่นแหละครับ ใช้พาสปอร์ตในการลงทะเบียน สแกนใบหน้าแล้วก็เรียบร้อย ชำระเงินด้วยระบบ Alipay ครับที่นี่เค้าไม่นิยมใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตกันแล้วเรียกว่า Cashless Socity ของแท้ ซึ่งผมจะเล่าต่อในโอกาสถัดไปจากนั้น คุณก็สามารถหิ้วกระเป๋าเดินตัวปลิวไปที่ห้องพักได้เลย สำหรับชาวต่างชาติอย่างเรายังไม่รองรับในระบบนี้เจ้าหน้าที่จะช่วยลงทะเบียนให้แบบ Manual ครับ ยังมีมนุษย์ให้บริการครับไม่ต้องกลัวแต่ใช้คนน้อยมาก และส่วนใหญ่จะไม่ชำนาญภาษาอังกฤษ อาจจะต้องใช้ App แปลภาษาช่วยนิดนึงนะครับจะดีมาก

ผมลืมอะไรรึเปล่าเหรอ เปล่าครับ ขั้นตอนปกติถ้าเทียบกับโรงแรมทั่วไปเราจะได้รับ Keycard เพื่อใช้ใช้ในการเข้าห้องใช่มั้ยล่ะ จบแล้วครับ ทุกอย่างของที่นี่ถูกผูกด้วยระบบ Face Recognition ไปเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว!! ผมไม่ต้องกังวลว่าจะลืม Key Card อีกต่อไป ใช้หน้าเป็นบัตรผ่านทุกกรณีแจ่มเลย

เริ่มจาก Lift ล็อคชั้น หน้าผมขึ้นได้ชั้น 3 เท่านั้นอย่านะ กดชั้นอื่นไม่ได้นะจ้ะ ต่อด้วยประตูเข้าห้องพักของคุณ ล็อคหน้าให้เข้าเฉพาะเจ้าของห้องเท่านั้น มันแจ่มมาก

ว่าด้วย Facilities ในห้องเข้าไปผมก็เฉยๆนะ ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรจนกระทั่ง .. เหลือบไปเห็น TMall Ginie ลำโพงอัจฉริยะ สั่งด้วยเสียงของค่าย Alibaba เค้าล่ะ พยายามสั่งอยู่ครึ่งชั่วโมง ไม่ Work เพราะไม่รู้ว่าทุกอย่างต้องสั่งด้วยภาษาจีนครับ T_T แถมช่วงแรกเรียกมันมันว่า Alexa มันงอนไม่ยอมพูดด้วย..

ปิด-เปิดไฟ / ม่าน / TV / เปลี่ยน Scence แสงในห้อง เปิดเพลง ถามอะไรได้หมด ตอนแรกเข้าห้องมาเค้าไม่ให้รหัส Wifi เค้าบอกให้ถาม เจ้า TMall Ginie เอง ความสามารถล้นเหลือสามารถรองรับความต้องการตรงนี้ให้ได้หมดครับ แต่รองรับภาษาจีนเท่านั้นนะครับ ผมลองใช้ภาษาจีนสำเนียงเพี้ยนๆของผม พอสั่งการได้อยู่ไม่อดตายละครับ รอดๆ

จากสิ่งนี้มันทำให้ผมคิดได้ว่าเมื่อ Voice Recognition Full Integrate กับ Device และ Aplliance ในบ้าน มันทำให้ผมเห็นภาพได้ชัดเจนเลยว่ามันจะเข้าสู่ยุค App Killer ที่แท้จริง ตามที่เคยจินตนาการไว้ในอดีตจริงๆ

แต่ยังไม่หมดครับสิ่งที่ทำให้โรงแรมนี้เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมไร้พนักงาน (จริงๆก็มีแหละแค่เค้าแอบ) นั่นคือการนำเอา Robot มาใช้ในส่วนต่างๆของงานบริการของโรงแรมครับ เช่น หุ่นยนต์ขายไอศกรีม และน้ำผลไม้ / หุ่นยนต์ชงกาแฟ และ เครื่องดื่ม Moctail

Highlight ที่เห็นจะขาดไม่ได้ คงเป็นเจ้านี่ หุ่นยนต์ Room Service ขวัญใจ Social ส่งตั้งแต่อาหาร เป็นพนักงานเสริฟอาหารในห้องอาหาร หรือแม้แต่ส่งของถึงห้องพัก

สุดท้ายที่ผมชอบเอามากๆ ก็เป็นห้อง Fitness ของที่นี่ ที่มีบริการเครื่องมือออกกำลังกายสุดล้ำที่ชวนให้เราเพลิดเพลินไปพร้อมกับการเสียเหงื่อและสนุกไปกับมัน

เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้แล้วทุกคนคงจะบอกว่ามันสุดยอดและชาวโรงแรมเตรียมตกงานกันได้เลยใช่มั้ยครับ เรื่องสุดยอดนี่ผมไม่เถียงเลยแต่ผมอยากจะขอย้อนกลับไปจากบทสัมภาษณ์ของท่านศาสดา Jack Ma ในงาน The WAIC 2019 (World Artificial Intelligence Conference) และภาพจริงที่ผมเห็นผมยังคิดว่าการที่เรามี A.I. เข้ามาช่วยในอุตสาหกรรมโรงแรมแบบนี้เป็นเรื่องที่ดีและมันไม่ได้ทำให้คนตกงาน ยังมีงานอีกมากมายและเหมาะสมกว่าในการใช้คนในการทำหน้าที่เดิมๆ เช่น ผมยังพบว่ายังมีแม่บ้านทำความสะอาดห้องอยู่เช่นเดิม หุ่นยนต์ยังทำแทนไม่ได้ ผมยังเห็นภาพเจ้าหุ่น Room Service เกิด Hang ขึ้นมาจนเกิดภาพน่ารักแม่บ้านเข็นหุ่นยนต์ไปซ่อม เพิ่มงานไปอี๊ก เสียดายมากถ่ายไม่ทัน..

แต่ที่ถ่ายทันแน่ๆ และจะเผาตัวเองเพื่อเล่าถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ A.I. ก็คือ ผมได้สั่งซื้อเลนส์ Wide จาก TMALL มาลองเล่นกับกล้อง Osmo Pocket ตัวเก่ง เพื่อมาทำ Content ในครั้งนี้นี่แหละครับ ด้วยความตื่นเต้นขณะนั้นกำลังจะไปอาบน้ำ จึงนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ออกไปลองถ่ายห้อง เดินถ่ายเข้ามาจากประตู คุณพระ!! ประตูหลุดมือ ล็อค!! …. ไม่เป็นไรเราใช้ Face หล่อๆของเรา สแกนก็เข้าห้องได้ แต่ไม่เลย เจ้า A.I. มันดันวิเคราะห์ว่าผมที่แต่งกายครึ่งท่อนด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่อยู่นั้นเป็นการ Harassment!! ปกป้องเจ้าของห้องซะ ไม่เปิดให้ เยี่ยม…ผมจึงยืนเดียวดายด้วยร่างกายที่หนาวเหน็บรอความช่วยเหลืออยู่หน้าห้องตัวเอง….ก็ด้วยประกาศละฉะนี้แล

FlyZoo Hotel เป็น Concept Hotel ที่ทดลองเปิดในเมืองหางโจว ประเทศจีน โดย Fliggy บริษัทในกลุ่ม Alibaba ระดับราคาคืนละประมาณ 3500–5000 บาท ต่อคืน ในระดับ 4 ดาว

ในภาพรวมเท่าที่ได้คุยกับผู้บริหารของ Fliggy ยังไม่มีการขยายสาขาเจ้าโรงแรมนี้ออกไปในเวลาอันใกล้แน่นอน เนื่องจากการลงทุนอันมหาศาล และ Infrasturcture อีกมากมายหลังบ้านที่ต้องตระเตรียมไปบ้านอื่นเมืองอื่นคงไม่พร้อมแน่ๆ เรียกได้ว่าเป็นที่โชว์เคสเท่านั้นแหละจ้า แต่ก็ทำได้น่าประทับใจทีเดียวกับโรงแรมระดับ 4 ดาว

กลับมาสู่คำถามแรกที่ตั้งไว้ สำหรับผมเมื่อมันไม่มีคนจิตวิญญาณแห่งบริการมันหายไปจริงๆนะ มันอาจจะสนุกในช่วงแรกที่เราได้สัมผัส ได้ถ่ายรูปลง social ได้เล่นอะไรหวือหวา แต่พอเกิดเป็น standard มันคงไม่ต่างอะไรกับการที่เราเลิกโทรศัพท์หากันแล้ว Chat คุยกันแทน การแก้ Paintpoint บางอย่างนับเป็นเรื่องที่น่าสนใจในมุมของธุรกิจและอำนวยความสะดวกกับลูกค้า กรณีใช้ Facerecogintion แทนไม่มีบัตรนี่ผมว่ามันดีเอามากๆ แต่ถ้าคุณคิดจะทำโรงแรมไร้มนุษย์บริการลูกค้าที่เป็นมนุษย์ด้วยกันจริงๆแล้วล่ะก็… คิดอีกทีเถอะครับผมว่า แต่ที่แน่ๆผมคิดว่ามันกำลังเข้าสู่ยุคของความเหมาะสมในการเลือกใช้ Solution มา Fit in กับธุรกิจของเรา เพื่อสยายปีกมากกว่า Replace Human ด้วย A.I. หรือ Robot ครับ สวัสดี….

--

--

First | Natthaphon S.
My Little Journey

Man who love technology and marketing. And always challenge himself to combine it to create the new world. Co-Founder Thaiconnect 2019 co,. Ltd.