ตัวเราเองพัฒนามากขึ้นจริงๆหรือเปล่า

Napat Suriyapun
Napat’s Corner
Published in
1 min readOct 27, 2017
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก unsplash อีกครั้งด้วยครับ

ถ้าทำงานมาซักระยะหนึ่ง มันจะมีโมเม้นต์ที่นึกกลับไปว่า ทำไมเราไม่เห็นเก่งขึ้นเลยอ่ะ เราอยากจะเก่งให้มากกว่านี้จัง เราอยากจะไปอยู่ในจุดที่สูงกว่านี้แล้ว

แต่เราก็ไม่เห็นว่าตัวเองพัฒนาไปไหนเลย

ต้องบอกก่อนว่า การคิดอยากพัฒนาตัวเองนี่เป็นอะไรที่ดีที่ถูกต้องแล้ว อยากให้รักษาความคิดที่อยากทำอะไรให้ดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

ผมพยายามนั่งนึกว่า ความสามารถหรือความรู้ของผมเริ่มแผ่วๆไปตอนไหน และก็ได้คำตอบว่า น่าจะประมาณสามถึงสี่ปีมาแล้ว ที่ผมเดินได้ช้าลง

ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย มีหลายปากหลายเสียงเหลือเกินต่างบอกว่า ตั้งใจเรียนนะ มันยากมาก มันไม่เหมือนมัธยมนะ ต้องช่วยเหลือตัวเองแล้วนะ แต่ตอนนั้นผมเป็นคนที่คิดว่าตัวเองต้องอายแน่ๆ หากมีเป้าหมายและทำไม่ได้

ใช่แล้วล่ะ ผมลั่นไว้กับตัวเองตั้งแต่วันแรกเลยว่า ผมจะจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (3.50)

เทอมแรกสุดผมได้ 3.75 มันทำให้ทุกคนเรียกผมว่าเทพโน้ต เอาจริงๆ ผมภูมิใจและทนงตนมาก ว่าผมนี่มันเทพจริงๆ 555555

และมันเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งจบสองปี ผมยังมีคะแนนเฉลี่ยอยู่เกิน 3.50 ใช่แล้วล่ะ มันทำให้ผมประมาท และไม่กระตือรือร้นอีกต่อไป

แต่เวลามันก็โบยบินผ่านไปเร็วนะ ไม่กี่อึดใจก็รู้แล้วว่า เราไม่เก่งเหมือนเดิมแล้ว แม้ว่าจะจบด้วยเกรดเฉลี่ย 3.50 พอดี แต่ผมดิ้นและทรมานแทบตายเลยล่ะ

โชคดีขนาดไหนที่มีเป้าหมายในการเรียนตั้งแต่แรก….

หลังจากวันที่ผมเรียนจบ จำได้ว่าผมก็ทำงานเลย คนที่เริ่มไม่มั่นใจในความเก่งของตัวเอง เจอกับธรรมชาติของพี่ๆทุกคนที่โคตรเก่ง มันทำให้ผมเสียความมั่นใจในตัวเอง

แต่เชื่อผมเหอะ ทุกการเดินทางเข้าไปที่ใดๆที่หนึ่ง มันมักจะมีทางออกเสมอ แม้แต่ทางเข้าเองก็สามารถนับเป็นทางออกที่ดีได้เช่นกัน ในเกมที่ยากเกินไป ยังมี NPC ยืนให้เราไปถามได้เลยเนอะ

และผมคิดว่าผมโชคดีแล้ว ที่ผมเจอ NPC ที่สามารถให้คำใบ้ดีๆ ได้

ผมย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว ผมได้ไปเจอคลิปที่ผมทำไว้ เพื่ออยากจะสอน อยากจะแบ่งปันความรู้การเขียนโปรแกรม ทั้งที่ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรเลย ทำไมใจผมตอนนั้นสั่งให้ผมกดอัดหน้าจอและสอนเฉยเลยวะ?

นึกถึงเกือบ 6 ปีที่แล้ว ผมคิดว่าผมเขียนโปรแกรมที่ยากที่สุดในชีวิตออกมาด้วยภาษา C และผมสามารถเล่าให้เพื่อน หรือให้เพื่อนของผมเอาไปเล่นด้วยความภาคภูมิใจ

ทั้งที่มันเป็นแค่โปรแกรม แรนด้อมเลข 1 – 6 (ลูกเต๋า) และเดินหน้าไปเรื่อยๆ แสดงผลใน console ธรรมดา

แต่ตอนนั้นมันก็เป็น 562 บรรทัดที่เราโคตรภูมิใจเลยไม่ใช่หรอวะ

ผมนึกออกหมดแล้วล่ะ ว่าผมเคยไม่เก่งกว่านี้เยอะ ผมค่อยๆเก่งขึ้นช้าๆโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลย ผมเข้าใจแล้ว ว่าสมองผมไม่ได้หยุดเรียนรู้เพียงเพราะผมหยุดสูงไปกว่า 175 cm

เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องไม่หยุดเดินนะ ถ้าท้อก็ลองมองกลับไปว่า เราพัฒนาไปขนาดไหนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราอาจจะเดินไม่ทันคนที่วิ่งอยู่ แต่เราเดินเร็วกว่าคนที่หยุดยืนเฉยๆแน่นอนขอแค่…

มั่นใจในตัวเอง อย่าหยุดเรียนรู้ และมีเป้าหมายที่ชัดเจน เท่านั้นจริงๆ

--

--