เรื่องเล่าสนุกๆ กับการซื้อบ้านครั้งแรก

Napakkhamon Thammananthakul
Nextzy
Published in
2 min readJun 28, 2018

เรื่องไกลตัวของการซื้อบ้านที่ทุกคนกลัว แล้วถ้าไม่มีตังเราจะซื้อบ้านได้ไหม๊

เมื่อทุกลมหายใจของเรา คือ การที่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง

เป้าหมายหลังจากเรียนจบเดือนแรก คือ “เราต้องซื้อบ้านให้ได้”

ต้องเล่าท้าวความสักหน่อยที่บ้านเราก็ไม่ได้ฐานะร่ำรวยอะไร แต่ก็ไม่ได้ลำบาก สิ่งนึงที่ทำให้เราอยากซื้อบ้านเพราะ “แม่”

แม่เกิดมาเพื่อเป็นแม่จริงๆ เคยเจอไหม๊คนที่เรารับรู้ได้เลยว่าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ไรงี้ แม่เราเป็นแบบนั้น แม่ดูแลลูกทุกคนอย่างดี ทั้งเรื่องสุขภาพอนามัย เรื่องระเบียบวินัย เรื่องอาหารการกิน what ever ที่แม่คนนึงจะทำให้กับลูกได้ แม่เราทำหมด

แต่……………………………….

แม่เป็นผู้หญิงที่ขี้กลัวสุดๆ แม่ไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลย ไม่กล้าทำอะไรเลย แม่ไม่รู้อะไรเลยนอกจากงานที่แม่ทำ น้อยมากที่แม่จะทำอะไรใหม่ๆ เครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรที่มันใช้ยากแม่ก็จะไม่ใช้ นอกจากจักรยานแล้วพาหนะอื่นๆ she ก็ไม่สามารถนะ

อะ! บ่นแม่มาเยอะแหละ นั่นแหละบ้านที่อยู่หลังเก่าแม่ก็เช่ามาตั้งแต่น้องคนกลางเกิดจนกระทั่งเราเรียนจบอะ คิดดูว่านานมากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) และอีกอย่างเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ นั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่เราคิดว่าเราเนียะแหละเป็นคนเลือกทางชีวิตของเราเอง

กฏของแรงดึงดูด

หาบ้านตั้งแต่เรียนจบปี 2548 เกือบ 2 ปี (ไม่อยากบอกเลยว่าจบมากี่ปี) ไปดูบ้านเกือบทุกอาทิตย์ สุดท้ายเราก็เจอบ้านที่เราอยากอยู่ อาจจะเป็นเพราะสวรรค์หรือเป็นกฏของแรงดึงดูดที่ตอนนั้นเรา Focus กับเรื่องซื้อบ้านมากๆ ทำให้เราได้เจอบ้านหลังนี้

(Search มั่วๆ พระเจ้าไม่อยากจะเชื่อทำไมบ้านเรามีคนปักหมุดใน google map ด้วยอะ สยอง แต่ไม่ต้องไปหานะจ๊ะไม่ได้อยู่แล้ว)

ได้ข่าวจากเพื่อนบ้านว่า ว่ามีคนสนใจจะขายบ้านให้เรา แอบแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไปคุยไม่เสียโอกาสอะไรอยู่แล้ว คุณลุงเจ้าของบ้านใจดีมากนั่งคุยกันอยู่นานตอนนั้นบอกเลยเข้าไปในบ้านความรู้สึกเหมือนบ้านเรียกเรา ยังคงจำ Feeling นั้นได้ไม่ลืมเลย บอกคุณลุงว่าหนู๋อยากได้มากเลยคะ แต่ไม่มีตังเลยตอนนี้ (ตอนนั้นไม่มีจริงๆ เงินมีแค่พอใช้แถมยังใช้เกินอีกแต่ละเดือนเพราะต้องดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านกับค่าเทอมน้องอีก) สุดท้ายคุณลุงขายบ้านที่ราคา 1,700,000 และตบท้ายว่าหนู๋ไปเขียนสัญญามาแล้วกัน

ตอนนั้นก็งงๆ แล้วก็ไปนั่ง search ใน internet เกี่ยวกับการซื้อขายบ้านต้องใช้อะไรบ้างสิ่งที่ต้องเตรียมคือ “สัญญาจะซื้อจะขาย” (อ่านเพิ่มเติม)

สัญญาจะซื้อจะขาย คือ สัญญาที่ระบุถึงความประสงค์ของผู้ซื้อและผู้ขายในสินทรัพย์หนึ่งๆ อย่างชัดเจนว่ามีใครที่เกี่ยวข้องในสัญญานี้บ้าง ซื้ออะไร ตกลงราคากันที่เท่าไหร่ จะสิ้นสุดการซื้อเมื่อไหร่ และสุดท้ายคือ ถ้าใครคนใดคนหนึ่งผิดสัญญาจะมีความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง ด้วยความที่อยากได้บ้านหลังนี้มากทำสัญญาอย่างละเอียดแต่แต่ตัดเฉพาะส่วนที่เป็นความรับผิดชอบในการรับผิดเมื่อกรณีมีการผิดสัญญา ตอนที่เอาไปให้คุณลุงเซ็นนี่กลั้นหายใจเลย กลัวว่าจะไม่ยอมเซ็น แต่ก็ผ่านมาด้วยดี

เนื้อหามีเท่านี้ด้านล่างเป็นลายเซ็นที่ตัดออก

หลังจากเซ็นเสร็จฉบับจริงก็เก็บนอนอยู่บ้านเลยทำฉบับใหม่ที่ไว้สำหรับกู้ธนาคาร หลังจากที่เก็บข้อมูลธนาคารว่าหลักเกณฑ์ในการซื้อบ้านมีอะไรบ้าง เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการกู้ซื้อบ้านมีอะไรบ้านก็เตรียมเลย ลุย!!!

อันนี้ก็คิดเอาเองแบบเด็ก ก็ไม่มีตังอะเราก็ทำฉบับที่ไว้สำหรับกู้ธนาคารอีกฉบับเราคิดเองตอนนั้นว่ายังไงก็ต้องกู้ให้ได้พอดีกับที่ซื้อเพราะถ้าได้น้อยกว่าเท่ากับว่าเราจะไม่มีตังไปจ่ายส่วนที่เกิน นั่นก็แปลว่าจะซื้อบ้านหลังนี้ไม่ได้ ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารบ้านมือ 2 จะปล่อยกู้ให้ได้ไม่เกิน 95% ของราคาประเมิณ เพราะฉะนั้นสัญญาจะซื้อจะขายฉบับนี้ทำที่ 1,800,000 บาท (ธนาคารจะมาเอาเรื่องเราไหม๊เนียะ) หลังจากนั้นก็ Survey ธนาคารแล้วก็เลือกตอนนั้นว่าจะยื่นกู้ 3 ธนาคาร แต่……ชีวิตก็ไม่ได้ง่ายขนาดน้าาาาาาาาน ตอนนั้นดันลาออกจากงานสิ้นเดือนวันที่จะออกเดินไปบอก HR ว่า พี่คะถ้ามีธนาคารโทรมาสอบถามเรื่องการทำงาน พี่ช่วยบอกเค้าได้ไหม๊ว่าหนู๋ทำงานที่นี่ HR คนนั้นตอบมาอย่างไม่ลังเลใจเลยว่า “ไม่ได้คะ” ความฝันพังทลาย

ไม่ได้…..ไม่ได้

ทำไงดีอะ……กู้ไม่ได้

ถ้าไปเริ่มงานใหม่ก็ต้องรอให้มีอายุงานเกิน 6 เดือนก่อน เวรเลยทีนี้ นั่งคิดอยู่หลายวันเลยทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี สัญญาก็ระบุชัดเจนว่าให้โอนภายใน 45 วัน มันเหมือนหลังชนฝาไม่รู้อะลองดูยังไงก็ต้องซื้อบ้านนั้นให้ได้ งานหน้าด้านก็มาเลยโทรหาคุณลุงเลยวันนั้นว่า

“คุณลุงคะถ้าจะขอเช่าบ้านไปจนกว่าจะกู้ได้จะได้ไหม๊คะ”

ก็เล่าให้ลุงฟังว่ามีปัญหาอะไรติดอะไร แล้วก็จะส่งเงินให้ลุงเป็นค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท ตอนนั้นก็ย้ายงานแล้วได้เงินเดือนเพิ่มมากกว่าเดิมเยอะ เลยคิดว่าไหนๆ ถ้าจะซื้อบ้านแล้วก็ต้องผ่อนประมาณนี้ ก็ยอมจ่ายเป็นค่าเช่าแล้วกัน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อคุณลุงเค้าก็โอเคและให้เราจ่ายค่าเช่าไปจนกว่าจะกู้ได้ วันนั้นท่าทางที่สุขุมแต่ในใจกรีดร้องสุดเสียง เต้นแร้งเต้นกาดีใจสุดๆ Finally สิ้นเดือนนั้นก็ย้ายบ้านเลย อิอิ

ฝันที่เป็นจริง

6 เดือนผ่านไป……….

จะว่าไปแล้วการได้เช่าบ้านอยู่ 6 เดือน ก็มีข้อดูอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว

  • การเตรียมเอกสารในการกู้โดยเฉพาะรายการเดินบัญชี (statement) ทำได้สมบูรณ์แบบมาก
  • ได้เคลียร์บัตรเครดิตการ์ดซึ่งตอนนั้นก็ถือเป็นปัญหาหนักหน่วงเหมือนกันปรับลดจนยอดกลายเป็นศูนย์ก่อนที่จะกู้บ้าน
  • เงินที่เรากู้บ้านได้จาก 1,710,000 โอนให้คุณลุง 1,700,000 มีเงินเหลือ 10,000 บาท รวมกับเงินที่เช่าบ้านคุณลุง 10,000 บาท 6 เดือน ซึ่งลุงคืนให้หลังจากโอนเสร็จ (คุณลุงเป็นคนดีจริงๆ ยังซึ้งน้ำใจจนถึงทุกวันนี้) ทำให้มีเงินเหลือ 70,000 บาท นี่เป็นการกู้เงินซื้อบ้านแบบไม่ต้องใช้เงินตัวเองเลยครั้งแรกในชีวิต
  • บ้านหลังนี้ทำให้เราเป็นคนที่กล้ามากขึ้น และมันก็พิสูจน์แล้ว่าสิ่งที่เราต้องการมันไม่ได้มาหาเราเองหรอก เราเองต่างหากที่ออกไปหามัน

เป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่มีความฝันอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองนะคะ อย่ารอจนพร้อมเพราะเราไม่รู้เลยว่าเราจะพร้อมเมื่อไหร่ ถ้าอยากจะใช้ชีวิตให้เต็มกำลังต้องลงมือทำตั้งแต่อายุยังน้อยๆ

สุดท้าย

ขอบคุณแม่มากๆ ที่แม่เป็นแบบที่แม่เป็น ดูแลลูกๆ อย่างดี จนทำให้เรารู้สึกว่าไม่เป็นไร สิ่งที่แม่ทำไม่ได้เราเนียะแหละจะเป็นคนที่ทำแทนแม่เอง

ไว้คราวหน้าจะลองเขียนเรื่องการลงทุนบ้างนะ

--

--