Google Wifi Review

Trust Tanapruk
Nextzy
Published in
4 min readNov 21, 2018

ในออฟฟิศมีปัญหาอินเตอร์เน็ตไม่ทั่วถึง สัญญาณอ่อนบางจุด โดยเฉพาะในห้องประชุม สาเหตุหนึ่งเป็นธรรมชาติของสัญญาณ​ Wifi ทะลุผ่านกำแพงไม่ดีเท่าไหร่ และอีกอย่างคือตัวกระจายสัญญาณอยู่มุมห้อง หรือบางครั้ง Wifi ก็หลุดเอง และแก้ปัญหาแบบโปรแกรมเมอร์ ด้วยการ ปิด-เปิด ใหม่

ทางออกที่ดีที่สุดคือ ลากสาย LAN ใหม่ให้กระจายตรงกลางออฟฟิศ และลากเข้าห้องประชุม แต่มันยากเกินไป ทาง Ake Exorcist บอกว่าเดี๋ยวเดือน พย.​(เดือนนี้) จะไปงาน Android ที่อเมริกา และจะหิ้ว Google Wifi กลับมา พร้อมขายว่ามันมี 3 ตัว และกระจายสัญญาณ Wifi ให้กันได้

นับตั้งแต่วันที่บอกว่าจะซื้อ จนถึงวันที่ติดตั้ง ก็ราว 6 เดือนได้ ในที่สุดมันก็มาถึง….

แสงสีขาว คือ online,​แสงสีน้ำเงินคือกำลังเชื่อมต่อ

ของในกล่อง

Google Wifi 3 ชิ้น พร้อมสายไฟ (เหมือนกันหมด) และมีสาย LAN หนึ่งเส้น

ติดตั้ง

โชคดีนะใช้ Android ถ้าเป็นของ iOS ต้องเปลี่ยน store เป็น US ถึงจะโหลดได้

ด้วยความเป็นสายลุย ไม่ชอบอ่านคู่มือเท่าไหร่ เข้าใจว่าแอพ Google Home ที่ใช้ต่อ Wifi Speaker หรือ Chromecast จะครอบจักรวาลหมด กด Add Device อยู่ 10 นาทีแต่ก็ไม่สำเร็จซักที เลย Google และเจอกับแอพบน Play Store

UI ใช้งานงาน Material Style ของ Google

อันนี้ไม่ได้คาดหวังเลย ตอนเอก แนะนำสนแค่ว่า Hardware ดีทำให้เน็ตไม่หลุด ไม่คาดคิดถึง Software เลย ปกติติดภาพการ setup Router/Modem ที่ต้องเข้าผ่าน 192.168.1.1 แล้ว ต้องงมหาคำว่า Wifi/Wireless รีบตั้งและกดปิดออกมา กลัวจะไปกดโดนปุ่มแปลกๆ ที่ไม่เข้าใจ

แต่ Google จัดให้เป็นแอพใน Play Store/App Store ออกแบบ Material Design และบอกอย่างละเอียด ตั้งแต่วางเครื่องตรงไหน อย่าลืมเสียบปลั้กนะ เสียบสายแลนด้วยนะ โคตรประทับใจ

เงื่อนไขของ Google Wifi คือมี 1 ตัวเสียบสาย LAN ต่อเข้ากับ Internet และอีก 2 ตัวจะช่วยกระจายสัญญาณที่ Google โฆษณาว่าเป็น Mesh Network ดังนั้น ก็เป็นเหมือน Access Point อีกจุด ต้องตั้งพาสเวิร์ดใหม่ และเมื่อเราต่อเข้ามาใน Access Point นี้ ตัว Google Wifi จะเลือก node ที่ต่อเน็ตได้ไวที่สุดให้

scan เพื่อต่อ mesh network

ตัวแรกผมเสียบเข้ากับ Fiber Router เดิม ตัวถัดมาผมวางในห้องประชุมเพราะเป็นจุดอับสัญญาณ วิธีติดตั้งก็หงายก้นขึ้นมา และแสกน qrcode ที่อยู่ข้างหลัง และจุดสุดท้าย ผมวางกลางออฟฟิศอีกอันนึง เป็นอันเสร็จสิ้น การติดตั้งที่ต้องขยับตัว จากนั้นก็ทำทุกอย่างผ่านแอพได้เลย

จริงๆ แค่นี้ก็จบแล้ว ใช้อินเตอร์เน็ตได้ และมาดูกันว่าหลุดบ่อยมั้ย แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แถม UI ใช้ง่ายมาก ก็กดมันทุกปุ่มบนแอพ เจอ Feature เด่นๆ ตามนี้

Real-time Monitoring ดูว่าใครโหลดบิทอยู่ได้

หน้า dashboard มีแจ้งว่าขณะนั้นมีกี่เครื่องต่อกับ Wifi นี้อยู่ และแต่ละเครื่องใช้ Download/Upload เท่าไหร่ แบบ Realtime!! ถ้าใครโหลดบิทอยู่นี่รู้เลย

และเมื่อกดเข้าไปแต่ละเครื่องก็มีบอกว่าเครื่องนี้ต่ออยู่กับ Node ตัวไหนอยู่ ต่อแบบ 5GHz หรือ 2.4GHz (ตรงนี้เดาว่า Google เลือกให้เลย)

สั่ง Priority กันความเร็วไว้เฉพาะเครื่องได้

เราสามารถเลือกเครื่องที่ให้ใช้ bandwidth เน็ตสูงสุดได้ อาจจะเป็นช่วงที่ video call งานสำคัญ หรือ streaming เกม/หนังอยู่ ตามสะดวก แต่ทำได้แค่เครื่องเดียว และในช่วงเวลาจำกัดเท่านั้น

จำกัดการใช้เน็ตผ่าน Family Wi-Fi

ฟีเจอร์นี้คงไม่ได้ใช้ในออฟฟิศ แต่หยิบมาให้ดู เพราะน่าสนใจดี เราสามารถใส่ Tag ว่าเครื่องนี้เด็กใช้งาน และสั่งไม่ให้ใช้เน็ตตอน 4 ทุ่มของทุกวันก็ได้ และสั่งให้ Search ภาพโป๊ผ่าน Google ไม่ได้ด้วย

นอกจากนี้ยังสั่งหยุดใช้เน็ตทันทีได้เลย โดยการกด pause อันนี้ผมลองใช้ดู กดปุ๊บ เน็ตเครื่องนั้นหลุดปั๊บเลย

เน็ตเน่า? ใช้ Network check ว่าตรงไหนมีปัญหา

เราสามารถเช็คได้ 3 แบบ แบบแรกสุด คือ เช็คความเร็วเน็ต เหมือนใช้บริการผ่าน speedtest แต่ในที่นี้จะยิงเข้า Google server เลย

ถัดมาเช็คคุณภาพการเชื่อมต่อระหว่าง router node

อยากอัพเดต Firmware ก็กดได้เลย

ถ้าตัวไหนส่อสัญญาณไม่ดี ก็สั่ง Restart ได้ผ่านแอพได้เลย

ท้ายที่สุด คือ เช็คความเร็วแต่ละ device ใน network เลย

สะดวกฝุดๆ

Performance

เพิ่งติดตั้งวันศุกร์ที่ผ่านมา ใช้มา 3–4 วัน คุย video call ในห้องประชุมที่สัญญาณอับได้ราบลื่น และไม่มีใครบ่นว่าเน็ตหลุดเลย ปกติ จะต้องหลุดวันละครั้ง เล่น DOTA2 จากปกติจะบ่น Lag ทุกเกม หลังติดตั้งไม่มีปัญหาเลย

แต่ sample size ของข้อมูลยังน้อย เพราะแค่ 3–4 วัน อาจจะบังเอิญเน็ตดีพอดีก็ได้ ไว้ถ้ามีปัญหาอะไรจะมาอัพเดตในภายหลังครับ

อยากรีบมา review เพราะประทับใจใน software มากๆ

สรุป

Google Wifi มีจุดแข็งที่ software เป็นแอพมือถือ กลิ่นอาย Material Design ของ Google และ มีฟีเจอร์ Real-time Monitoring ไว้ดูว่าใครต่ออยู่ใน network สามารถจัด priority device ให้เน็ตแรงเฉพาะเครื่อง และสั่งตัดเน็ตผ่านแอพได้เลย มีเครื่องมือสำหรับ Test 3 แบบ เช็คความเร็ว,​เช็คการเชื่อมต่อระหว่าง node และเช็คความเร็วระหว่างแต่ละเครื่องกับ node ท้ายที่สุด Hardware ก็เจ๋งอยู่ ต่อได้ความเร็วไม่สะดุด

--

--