It Doesn’t Have to Be Crazy at Work เขียนโดย Jason Fried และ David Heinemeier Hansson
ผู้เขียนเล่มนี้คือ Jason Fried และ David Heinemeier Hansson ซึ่งเป็น Founder ของ Basecamp (Software ที่ SUFFIX เองก็ใช้อยู่ในการจัดการ Task งานรวมไปถึงการสื่อสารในทีม) จริงๆเคยอ่านเล่มอื่นของผู้เขียนคือ Rework เมื่อนานมากๆแล้วและลืมไปแล้ว… เล่มนี้คุณ Polpong Yob Jiraphan แนะนำให้อ่าน
Objective :
จุดประสงค์ในการอ่านเล่มนี้คือเริ่มสนใจเรื่องของ Effective หลังจากช่วงที่ผ่านมาอ่านเรื่อง Productivity ต่างๆมาพอสมควร และอยากศึกษา Company Culture ของบริษัทอื่นๆด้วย
Short Note :
- การทำงาน 8 ชม.ต่อวัน จริงๆมันมากพอแล้ว ผู้เขียนยกตัวอย่างเวลา 8 ชั่วโมง คุณสามารถบินจาก Chicago ไปถึง London ได้ ลองเช็คดีๆว่า 8 ชั่วโมงที่ทำงานอยู่เราโดนรบกวนจากอะไรบ้าง ทำไมเวลาทำงานจึงไม่พอ
- ส่วนเวลาการทำงานต่อสัปดาห์คือ 40 ชม.ต่อสัปดาห์ ถ้าคุณไม่สามารถทำงานได้เสร็จทัน สิ่งที่คุณต้องทำคือการเลือกงานที่จะทำ เลือก Task งานที่จะทำหรือหลีกเลี่ยงสิ่งที่รบกวนการทำงาน ไม่ใช่เพิ่มเวลาการทำงาน
- การประชุม จริงๆแล้วคือสิ่งที่เสียเวลาการทำงานที่สุด ตัวอย่างเช่นการที่ 8 คนประชุมกัน 1 ชั่วโมง จริงๆแล้วเราเสียเวลาไปทั้งหมด 8 ชั่วโมง (8 คน คนละ 1 ชม.) ไม่ใช่แค่ 1 ชม.
- การทำงาน ไม่ได้ทำงานแบบครอบครัว ทำงานแบบทีม (ข้อนี้คล้ายๆ วิธีการทำงานของ Netflix)
- Benefit ของบริษัท เช่น Game Room, Snack Bar หรืออาหารเที่ยงฟรี ลองตั้งคำถามดูว่าจริงๆแล้วเป็น Benefit ของบริษัท หรือของทีมงาน
คำถามคือ Benefit ทั้งหลายนี้ทำให้ทีมงานไม่ได้ออกไปนอกออฟฟิซรึเปล่า? ทำให้ทีมงานอยู่ออฟฟิซนานขึ้นจนไม่มีเวลาส่วนตัวรึเปล่า? - Hire the Work, Not the Résumé จ้างคนที่งาน ไม่ใช่ที่ใบสมัคร ส่วนนี้ผู้เขียนแนะนำให้ทดลองงานก่อน โดยที่บริษัทแบ่งงานออกเป็น Task เพื่อให้ทดลอง
- เงินเดือน ส่วนนี้ Basecamp คิดแบบ Level คือถ้าเป็น Level เดียวกันเช่น Junior Developer ก็เงินเดือนเท่ากันหมด Senior Developer ก็เท่ากันหมด โดยคิดจากรายรับของบริษัท และจากแนวคิดนี้เองทำให้ Basecamp ไม่ต้องมี Process การต่อรองเงินเดือน
- ถ้าเรารู้สึกว่าเราทำงานมากขึ้น แต่งานไม่เสร็จ หรือไม่ได้ผลลัพท์ของงานออกมามากพอให้ตั้งคำถามว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันต้องมีบาง Task หรือบางอย่างที่มันทำให้เสียเวลา การแก้ปัญหาไม่ใช่การเพิ่มเวลาในการทำงาน แต่คือการลดทอนสิ่งที่ทำให้เราเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หรือทำให้เราว่อกแว่ก
- มองธุรกิจให้เป็น Product เพื่อที่จะหามุมต่างๆในการพัฒนา เช่นวิธีการทำงานของบริษัทมีขั้นตอนเยอะไปรึเปล่า? การทำงานเร็วพอมั๊ย หรือส่วนไหนช้าไปเพราะอะไร ส่วนไหนพัง ส่วนไหนต้องซ่อม
- แนวความคิดเรื่องการเปลี่ยนโลก ความเป็นจริงไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่ Product หรือสิ่งที่ีทำอยู่ให้มันดี (ดีในที่นี้หมายถึง Product ของเราทำให้คนอื่นใช้ชีวิตง่ายขึ้น)
- Basecamp ไม่ได้เน้นวิธีการจัดการหรือทำงานแบบ Tech Startup ส่วนใหญ่ที่โตไวไวใช้เงินทุนจากนักลงทุน แต่วิธีการทำธุรกิจใช้เงินจากลูกค้า หรือยอดขาย ซึ่งผู้เขียนก็แซวตัวเองว่า “เป็นธุรกิจที่แข่งขันกันสูงแต่วิธีการทำงานของเราเป็นแบบ Old Fashion”
Device :
เหมาะกับทั้ง Ebook และสิ่งพิมพ์เพราะจำนวนหน้าไม่เยอะมาก จริงๆ Audiobook ก็น่าจะได้ด้วย เพราะเนื้อหาไม่เยอะ น่าจะใช้เวลาฟังไม่นาน
Opinion :
เป็นหนังสือธุรกิจที่เขียนกวนตีนมาก จะมีประโยคเช่น “If it’s constantly crazy at work, we have two words for you: Fuck that. And two more: Enough already.” อะไรพวกนี้แทรกตลอดเวลา อ่านไปขำไป หรืออีกประโยคที่พูดเรื่องการแข่งขัน
ในการแย่งส่วนแบ่งการตลาด “We come in peace. We don’t have imperial ambitions. We aren’t trying to dominate an industry or a market. We wish everyone well. To get ours, we don’t need to take theirs.”
Keyword : FOMO : The fear of missing out แสลงที่หมายถึงการกลัวการพลาดโอกาส
Target : เล่มนี้น่าจะเหมาะกับคนทำงานทุกคน
Writer : Jason Fried & David Heinemeier Hansson