Make Time: How to Focus on What Matters Every Day เขียนโดย Jake Knapp และ John Zeratsky

Jate Saitthiti
NONFICTION BOOK CLUB
2 min readDec 1, 2019

Objective
สนใจหนังสือเล่มนี้ จากจุดประสงค์ที่เขียนในเล่มว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นหนังสือเกี่ยวกับ Productivity แบบทำนู่นทำนี่ให้เสร็จ แต่เป็นเรื่องของ Framework ในการจัดการเวลาเพื่อให้เกิดเวลามากขึ้น คนเขียนทำงานเป็นดีไซเนอร์อยู่ที่ Google และได้ออกแบบ Feature อย่างเช่น Gmail’s Priority Inbox และเป็นผู้ออกแบบกระบวนการ Design Sprint เขียนร่วมกับผู้ที่ออกแบบ Youtube Channels Platform

Short Note
Framework ของ Make Time แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน

Hilight : เริ่มต้นในแต่ละวันด้วยการเลือกสิ่งที่อยากจะทำ
Lazer : เลือกที่จะโฟกัสด้วยด้วยการลดสิ่งที่ดึงดูดความสนใจออกไป
Energize : ใช้พลังงานร่างกายชาร์จพลังงานสมอง
Reflect : ปรับเปลี่ยนและพัฒนาระบบ ด้วยการทบทวนสิ่งต่างๆทั้ง 3 ขั้นตอน

Hilight :
สนใจภาพระยะยาว (1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี )แล้วค่อยเลือกสิ่งที่อยากทำ อย่าลืมเรื่องน่าเบื่อทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นตอบ Email หรือทำความสะอาดที่พัก เลือกว่าอะไรจะเป็นสิ่งที่สำคัญในวันนั้น

วิธีการเลือกสิ่งที่อยากทำให้เสร็จเป็น Hilight ของวัน (อิงจากภาพระยะยาวด้วย)
1. ความเร่งด่วน
2. ความพอใจ
3. ความสุข

*เขียนออกมาเป็นลิสต์ และสามารถสลับไปสลับมาได้ ถ้าอันไหนไม่เสร็จ ก็ทำใหม่
* การมีตารางเวลาอัดแน่นอาจจะดูน่าเบื่อ (และดูไม่มีอิสรภาพ)แต่ถ้าคุณเลือกที่จะใส่สิ่งที่ต้องทำใส่ในตารางแล้ว คุณจะไม่ต้องเสียเวลาเลือกว่าจะทำอะไรดี และสิ่งที่คุณตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะทำสิ่งนี้ในเวลานี้ จะเสร็จตามเวลา

Lazer :
เลเซอร์ในความหมายของคนเขียน คือการโฟกัสลงไปทำสิ่งที่เราเลือก และวางแผนมาแล้ว เนื่องจากคนเขียนหนังสือทำงานอยู่ในสายเทคโนโลยี ก็จะเน้นไปที่เรื่องของการทำ Digital Detox ทั้งหลายเช่น การลบแอพพลิเคชั่นต่างๆ การ Log-out Social Media หรือกระทั่งการปิด Notification

เทคนิคตลกๆในการลดทอนการใช้งานอินเตอร์เน็ท คือถ้าคุณอยากรู้เรื่องไหน ที่ไม่ได้เกี่ยวกับงานหรือสิ่งที่คุณทำอยู่ เช่น ดาราคนนี้แสดงหนังเรื่องไหนบ้าง แทนที่จะเข้า google เลย และว่อกแว่กไปกับการอ่านเรื่องราวจากผลการ search ให้คุณจดเอาไว้ในสมุด และเมื่อว่างหรือทำสิ่งสำคัญเสร็จแล้วค่อย search

Energize : ใช้พลังงานร่างกายชาร์จพลังงานสมอง
รักษาพลังงานในร่างกายด้วยการออกกำลังกาย ใช้การเดินให้มากขึ้น รวมไปถึงขยับเล็กๆน้อยๆระหว่างทำงานอยู่ ส่วนเรื่องของอาหารการกิน กินอาหารที่ทำสดใหม่ มากกว่ากินอาหารสำเร็จรูป หรือปรับรุปแบบการกินเป็น Intermittent Fasting (IF) การกินอาหารที่ไม่ต้องกินครบ 3 มื้อ

มีเทคนิคการดื่มกาแฟให้เกิดพลังงานและเป็นประโยชน์สูงสุดที่น่าสนใจในเล่มนี้คือ การตื่นก่อนที่จะดื่มกาแฟตามปกติ และการดื่มกาแฟก่อนที่จะง่วง และรักษาความตื่นตัวระหว่างวันด้วยการดื่มชาเขียว และการตั้งเวลาดื่มกาแฟถ้วยสุดท้ายในแต่ละวัน

การทำสมาธิเพื่อรักษาพลังงานในร่างกายก็เป็นเทคนิคนึงที่จะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งที่เราต้องการได้สำเร็จ

Reflect : ปรับเปลี่ยนและพัฒนาระบบ ด้วยการทบทวนสิ่งต่างๆทั้ง 3 ขั้นตอน
แบ่งออกเป็นอีก 4 กระบวนการอิงจากวิธีการทางวิทยาศาสตร์
1. สังเกตุ
2. เดา
3. ทดลอง
4. ประเมิน

Device
Ebook หรือสิ่งพิมพ์ก็ได้ครับ เล่มไม่ได้หนามาก

Opinion
ชอบทัศนคติผู้เขียนที่บอกว่า “อย่าใช้อคติแบบบริษัทใหญ่ที่ชั่วร้ายรังแกหรือเอาเปรียบผู้ใช้งาน เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ตัดสินใจเลือกที่จะเสียเวลากับสิ่งต่างๆ เช่นการดู Youtube หรือ Netflix เป็นเวลา 4 ชั่วโมงต่อวัน และเล่น Facebook ทั้งวัน ซึ่งเกือบจะเทียบเท่าเวลาทำงาน 8 ชม. ต่อวันคือตัวเราเอง และในการออกแบบผลิตภัณฑ์ดิจิตอลทั้งหลาย เค้าต้องตั้งใจทำแบบนั้นอยู่แล้ว”

Target
ผู้ที่สนใจเรื่องบริหารเวลา และชอบอ่านเนื้อหาที่กวนตีน (ไม่เครียด)

Writer
Jake Knapp และ John Zeratsky

--

--