READ IT, GET IT, AND NEVER FORGET IT เขียนโดย Mark Tigchelaar

Jate Saitthiti
NONFICTION BOOK CLUB
1 min readMay 23, 2019

Objective

สิ่งที่ทำให้เลือกหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาแชร์เป็นเล่มแรกใน NONFICTION BOOK CLUB ทั้งๆที่เป็นหนังสือเล่มที่เพิ่งอ่านจบเมื่อวันที่ 21/05/2019 และเป็นเล่มที่ 32 ของปี 2019 (ยังใช้ Reading Challenge ใน Goodreads อยู่) ตอนที่เลือกที่จะอ่านเล่มนี้ผมต้องการที่จะรู้เทคนิค หรือวิธีการที่จะทำให้อ่านหนังสือและเก็บข้อมูลเร็วกว่าที่เป็นอยู่

Short Note :

อัตราความเร็วในการอ่านโดยเฉลี่ยของคนเราคือ 200 คำต่อนาที
*ข้อมูลส่วนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น รวมทั้งภาษาไทยด้วยรึเปล่า?

สมาธิเป็นส่วนสำคัญในการจดจำข้อมูล ซึ่งสิ่งที่ทำให้เราขาดสมาธิตอนที่อ่านหนังสือมีดังนี้
1. สิ่งรบกวนภายใน (คิดว่าจะทำอย่างอื่นในระหว่างอ่านหนังสือ เช่นเช็ค Email)
2. สิ่งรบกวนภายนอก (เสียงโทรศัพท์)
3. สิ่งรบกวนด้านเนื้อหา (ในระหว่างอ่านเกิดมีคำถามเช่น ฉันเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือไม่?)

เทคนิคการใช้ลูกตาในการสร้างความเร็วในการอ่าน พยายามอ่านตามเส้นบรรทัด
อย่าให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบไร้แบบแผน อาจจะใช้นิ้วลากหรือปากกาลากนำสายตาไปก่อนก็ได้​ *ในเล่มนี้ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่เราไปในที่ที่ไม่คุ้นเคยเช่นห้องประชุมใหม่ๆ สายตาเราจะเคลื่อนไหวกวาดไปไร้ทิศทางเนื่องจากมีข้อมูลใหม่ๆจากหลากหลายทิศทาง

เทคนิคการโฟกัสการอ่านเพื่อจับใจความ แทนที่จะอ่านไปแล้วก็จดสรุปไป
ลองอ่านให้จบทั้งบทแล้วค่อยสรุปทีเดียว รวมไปถึงเชื่อมโยงข้อมูลใหม่และความรู้เดิม อาจจะดึงข้อมูลมาจากความจำ ในแง่การจด ก็จดแบบจับใจความเพราะข้อมูลหลายๆอย่างถึงจะจดไปก็ไม่ได้ช่วยให้เราจับใจความได้มากขึ้น

Device :

คิดว่าเหมาะกับทั้งหนังสือเป็นรูปเล่มและ Ebook เนื่องจากหนังสือไม่ได้มีจำนวนหน้าเยอะ Ebook อาจจะดีกว่านิดนึงตรงที่้ผู้เขียนจะมีวิธีการคิด และวิธีการอ่านที่อยู่ใน Website UseClark.com ด้วย น่าจะคลิกเข้าไปหาข้อมูลต่อได้ง่ายกว่า

Opinion :

เนื้อหากระชับดี น่าจะเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการพัฒนาทักษะการอ่านให้เร็วขึ้นและจับใจความเช่นผมเป็นต้น

Writer : Mark Tigchelaar

--

--