The Year in Tech 2021: The Insights You Need รวมบทความของ Harvard Business Review

Jate Saitthiti
NONFICTION BOOK CLUB
3 min readNov 26, 2020

ผมเลือกที่จะอ่านเล่มนี้เพราะอยากรู้ว่าเทคโนโลยีที่ Harvard Business Review
คาดการณ์เอาไว้ว่าปี 2021 จะมีเทคโนโลยีอะไรน่าสนใจบ้าง

ในเล่มแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ

1. เทคโนโลยีใหม่ๆที่พัฒนาสำหรับประสบการณ์ของลูกค้า (New Tech And The Evolving Consumer Experience)
2. เทคโนโลยีขั้นสูงที่จะพัฒนาการทำงานของเรา (Working Better With Advanced Technology)
3. เทรนด์เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจ (The Next Tech Trends In Business)
4 ปัญหาที่จะเกิดขึ้นเมื่อการเทคโนโลยีขยายตัวเพิ่มมากขึ้น (Big Tech, Big Problems)

Voice Assistant (ระบบการสั่งการด้วยเสียง)

สาเหตุที่เทคโนโลยีการใช้เสียงเติบโตขึ้นเพราะการพูดของเราเร็วกว่าการพิมพ์

ขั้นตอนในการใช้ง่ายกว่าการใช้แอพอื่นๆ การใช้แอพอื่นๆจะมีขั้นตอนดังนี้
1.ยกเครื่องขึ้นมา
2 ปลดล๊อคเครื่อง
3.เลื่อนหาแอพ
4.เปิดแอพ
5.รอโหลด

กรณีศึกษาบริษัท The Mars Agency ได้ทดลองติดตั้งระบบการสั่งการด้วยเสียง ชื่อระบบปฎิบัติการว่า SmartAisle โดยติดตั้งระบบไว้ในร้านค้าปลึก ตรงส่วนที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยให้คำปรึกษา และรายละเอียดสินค้า เช่นวิสกี้ ผลจากการติดตั้งระบบเอาไว้ ค้นพบว่าคนที่เข้ามาเลือกซื้อวิสกี้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ซื้อตามคำแนะนำทั้งหมด แต่ก็ยังพบอีกว่าบางทีแล้วการคุยผ่าน Voice Assistant สามารถทำให้ลูกค้าที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อวิสกี้(แค่เดินผ่านมาเลือกๆดู) ให้เกิดการซื้อได้

สิ่งที่ท้าท้ายเมื่อต้องการใช้เทคโนโลยีนี้ในร้านค้าปลีก
-การครอบครองข้อมูล (Data Ownership)
การพัฒนาซอฟแวร์จะขึ้นอยู่กับ2 แพลตฟอร์มคือ Alexa และ Google Assistant ดังนั้นข้อมูลของทุกอย่างของลูกค้า และกิจกรรมต่างๆในธุรกิจของคุณ

-ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น
ในการชำระเงินซื้อสินค้า เพื่อให้ง่ายที่สุดการใช้เทคโนโลยีเสียง ก็ต้องใช้ระบบการชำระเงินของแพลตฟอร์มเช่น Amazon Pay หรือ Google Pay ซึ่งก็จะมีเรื่องของค่าธรรมเนียม หรือค่าคอมมิชชั่นของระบบ

-เมื่อการรับข้อมูลเป็นการพูดและฟัง การมองหาสินค้าและฟังไปด้วย ถ้าลูกค้าไม่ได้จดจ่ออยู่กับคำตอบ การจะดูข้อมูลย้อนหลังอาจจะยากกว่าการอ่าน

บริษัทที่ปรึกษา OC&C คาดการณ์ว่าการช๊อปปิ้งออนไลน์โดยใช้เสียงจะโตขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2022 ทั้งในอเมริกาและอังกฤษ

Augmented Reality

เทคโนโลยี AR ในปัจจุบันที่ถูกนำไปปรับใช้กับธุรกิจส่วนใหญ่เช่นพวกเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์แต่งบ้าน (Ikea) เครื่องสำอางค์ (Sephora) และแฟชั่น (Net-A-Porter)ในการจำลองผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพมากขึ้น

กรณีตัวอย่าง
Sephora Virtual Artist จะมีฟังก์ชั่น Try on เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพการใช้เครื่องสำอางค์มากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการขายอีกด้วย

ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นการใช้เทคโนโลยี AR ในการทำโปรโมชั่นสินค้า หรือขายสินค้า แต่ในความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีแล้วสามารถปรับใช้ในสื่อการสอน หรือการจำลองการฝึกทักษะต่างๆได้อีกด้วย

ปัญหาของ AR ในการนำมาใช้ในธุรกิจ ปัจจุบันราคาในการพัฒนายังราคาสูงอยู่ การหาจุดคุ้มทุนค่อนข้างยากในบางธุรกิจ และปัญหาอีกอย่างของ AR คือความช้าในการแสดงผล

การสร้าง AI เพื่อการบริหารทรัพยากรบุคคล

นอกจากที่เราจะเห็นการใช้เทคโนโลยี AI มาแนะนำสินค้าใน Amazon หรือซีรีย์ใน Netflix แล้ว เราสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ช่วยในการบริหารทรัพยากรบุคคล หรือกระทั่งหาทีมงานได้

โดยปัจจุบันระบบ AI หลายๆระบบได้ใช้คนที่อยู่ในตำแหน่งนั้นๆที่องค์กรต้องการมาสร้างแบบจำลอง (Model) และใช้ระบบ AI ในการหาทีมงาน หรือประเมินงาน โดยการที่องค์กรจะต้องเตรียมพร้อมเรื่อง Dataset และอื่นๆก่อนที่จะเริ่มพัฒนาระบบ ส่วนการจัดการกับข้อมูลหรือขั้นตอน สามารถประยุกต์จากขั้นตอนการหาทีมงานแบบเดิมได้

มนุษย์เรามีทักษะในการเรียนรู้ (Learn) แต่อาจจะไม่ได้มีทักษะในการละทิ้งสิ่งที่เราเคยเรียนรู้ว่า (Unlearn) ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดปัญหาคือเรื่องของความอคติ โลกนี้ซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะประมวลผลอย่างมีเหตุผลและรอบคอบตลอดเวลาซึ่ง AI จะสามารถเข้ามาช่วยให้เราทำงานง่ายขึ้นได้

ปรับรูปแบบของ AI ให้สมดุลระหว่างความเป็นธรรม และความถูกต้องของข้อมูล เนื่องจากเป็น AI ที่ใช้สำหรับการบริหารบุคคล โดยการพัฒนาก็ควรจะทำควบคู่ไปกับเรื่องของกฏหมาย และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของทีมงานด้วย

แนวทางการใช้งาน Blockchain สำหรับธุรกิจ

ในบทนี้จะมีการยกตัวอย่างแนวทางในการใช้ Blockchain ในธุรกิจ การเตรียมตัวก่อนที่จะเริ่มใช้บริษัทหรือธุรกิจเองก็จำเป็นจะต้องลดการควบคุมข้อมูลบางส่วนลง เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถเชื่อมต่อไปที่เครือข่ายภายนอกได้

องค์กรที่กลัวที่จะตกเทรนด์ เรื่องเทคโนโลยี บางบริษัทก็สร้าง Blockchain ขึ้นมาเองและยังรวมข้อมูลทุกอย่างอยู่ที่ศูนย์กลาง และระบบเป็นระบบปิด หรือเปิดให้เชื่อมต่อแบบจำกัด การลงทุนสร้างแบบนี้เกิดประโยชน์น้อยที่สุด

การใช้ Blockchain ในกุลยุทธ์แบบ Trojan Horse คือใช้เพื่อตรวจสอบบางส่วนของธุรกิจเช่นการในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มใช้ในการ Tracking วัตถุดิบสำหรับการทำอาหาร เพื่อดูแหล่งผลิตทางการเกษตร หรือกระทั่งใช้ในการตรวจสอบสินค้าปลอมไม่ว่าจะเป็นนม, ไวน์ หรือน้ำผึ้ง

การใช้ Blockchain เพื่อตรวจสอบระบบการทำงานแบบเดิม กรณีศึกษาคือ Australian Securities Exchange (ASE) หรือตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียใช้ระบบนี้เพื่อการตรวจสอบกระบวนการซื้อขายหุ้นในตลาด

ใช้เพื่อพัฒนาระบบที่มีอยู่ มีกรณีศึกษาอย่างเช่น Union of European Football Associations (UEFA) สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปซึ่งใช้เทคโนโลยีนี้ยกระดับการขายบัตรฟุตบอลร่วมกับ SecuTix ในแอพพลิเคชั่น TIXnGO โดยที่แอพจะมีการใช้ Token เพื่อยืนยันว่ามีการซื้อตั๋วจริง เพื่อลดกรณีที่มีบัตรชมฟุตบอลปลอม และการใช้ Token เองก็ยังจะสามารถที่จะยืนยันว่าเป็นบัตรจริงได้ กรณีที่คนที่ซื้อบัตรไปแล้ว ไปขายต่อ

การทำงานระหว่างคนและโรโบติกส์

บทนี้พูดถึงเรื่องการใช้งานโรโบติกส์ในเชิงการแพทย์ เน้นไปที่เรื่องโรโบติกส์สำหรับการผ่าตัด

สิ่งน่าสนใจคือ Shadow Learning ปกติแล้วจะมีข้อผิดพลาดหรือความเข้าใจผิดระหว่าง คำแนะนำในการทำงานและวิธีการทำงาน

การใช้โรโบติกส์ช่วยในการทำงาน จะสามารถลดช่องว่างระหว่างขั้นตอน 3 ส่วนนี้ได้ คือการตรวจสอบว่าคำแนะนำ เพื่อทีมงานไปปฎิบัติงานจริงแล้วตรงกับคำแนะนำหรือไม่ ขั้นตอนการทำงานติดขัดตรงไหน หรือเมื่อได้ข้อมูลว่าขาดขั้นตอนบางอย่างไปก็สามารถเพิ่มขั้นตอนขึ้นมาใหม่ได้ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจากการที่โรโบติกส์ เรียนรู้โดยสังเกตุการทำงานรวมไปถึงปฎิบัติงาน

5G

เทคโนโลยี 5G จะทำให้ Internet Of Thing เกิดขึ้นได้เพราะว่าทุกๆ Device จะสามารถเชื่อมต่อกันได้จริงโดยการส่งข้อมูลข้ามผ่านอุปกรณ์และยังส่งข้อมูลกลับไปเก็บไว้ที่ Cloud ได้ทันทีด้วย

เมื่อปี 2017 บริษัทที่ปรึกษา Accenture เคยคาดการณ์เอาไว้ว่าเมื่อเทคโนโลยี 5Gs เกิดขึ้นและถ้านำมาใช้พัฒนาเป็น Smart City จะสามารถสร้างการจ้างงานได้มากขึ้นประมาณ 3 ล้านอัตรา และสามารถทำให้เกิดรายได้เข้าสหรัฐอเมริกาประมาณ 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพราะว่าเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดนี้จะลดความสิ้นเปลืองทางพลังงาน หรือกระทั่งมลภาวะสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เทคโนโลยี 5G เองนอกจากจะใช้กับ Smart Home แล้วยังสามารถประยุกต์ไปใช้ในเชิงการเกษตรได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นการใช้ Drone ในการตรวจสอบฟาร์มโดยการบินและถ่ายวีดีโอที่มีคุณภาพของภาพสูงจนเกษตรกรเห็นรายละเอียด เพื่อลดเวลาในการตรวจสอบฟาร์มแบบเดิม หรือการใช้เซนเซอร์ตรวจสอบผิวดินและส่งไปตรวจสอบแร่ธาตุสารอาหาร

แอพพลิเคชั่นสำหรับเทคโนโลยี 5G ส่วนใหญ่จะทำงานเชื่อมต่อกันเป็น Ecosystem ไม่ใช่ทำงานเดี่ยวๆเหมือนเดิม

Biometric กับ Marketing

เทคโนโลยี Biometric ที่นักการตลาดสามารถนำมาใช้เพื่อการทำนาย Viral Marketing จะมีตั้งแต่การใช้ GSR (Galvanic Skin Response) เป็นวิธีการวัดการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆทางร่างกาย *คล้ายๆเครื่องจับเท็จ

นักการตลาดสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ในการทำ Market Research หรือกระทั่งการทดสอบ Content ว่าจะเกิด Viral หรือไม่ คนเข้าใจเนื้อหาหรือไม่ เนื้อหาที่ต้องการจะนำเสนอทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกยังไง

การใช้ GSR ร่วมกับ EEG (Electroencephalography)หรือการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง รวมไปถึงเทคโนโลยีอย่าง Eye Tracking เมื่อใช้ร่วมกันจะสามารถประเมินผลของ Marketing Campaign ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

Wearable AI

ประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้และติดตัวเราไปได้ตลอดเวลา นอกจากจะสะดวกแล้ว ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ได้ เช่นการใช้ Apple Airpod ร่วมกับ Siri ซึ่งใน Airpod เองก็มีเทคโนโลยี Biometric ที่สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายของเรา รวมถึงการเต้นของหัวใจ ซึ่งนั้่นแหละว่าระบบสามารถที่จะให้คำแนะนำที่เป็นส่วนตัวรวมไปถึงจัดการตารางเวลาที่เหมาะกับผู้ใช้งาน

การใช้งาน Wearable AI จะง่ายขึ้นเพราะมีทั้งการสั่งงานด้วยเสียง การใช้ Sensor และลดขั้นตอนการทำงานต่างๆผ่าน Interface รวมทั้งลดขั้นตอนการสั่งงานลงเนื่องจากมี AI ในการประมวลผล

กรณีศึกษา AlterEgo โปรเจคของ MIT Media Lab เป็น Wearable ขยายสัญญาณการสั่งงานของสมอง โดยการวัดสัญญาณไฟฟ้าที่สมองส่งไปยังอวัยวะ โดยตัวอุปกรณ์จะสามารถสวมไว้ที่หูและแนวกรามของผู้สวมใส่ วิธีการใช้งานคือผู้ใช้งาน “คิด”คำที่จะสั่งการใช้งาน ซึ่งทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ต่างจากเทคโนโลยี Brain-Computer Interface (BCI) อื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานได้โดยไม่ต้องพูดออกเสียง

Arnav Kapur (เจ้าของโปรเจคนี้) เคยพูดถึงโปรเจคนี้ไว้ว่า “การพูดออกเสียงสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆ ยังมีความเป็นส่วนตัวไม่พอ การคิดสั่งงานคือสิ่งที่มีความเป็นส่วนตัวที่สุด”

https://youtu.be/RuUSc53Xpeg

The Antisocial Social Media

Social Media ไม่ได้สำคัญกับวัยรุ่นยุคปัจจุบัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่รับรู้เรื่องของการใช้ข้อมูลและความปลอดภัย
*ในเล่มนี้ใช้คำว่า Public Social Media ในการเรียก Facebook,Twitter,Youtube

ZAK (เอเจนซี่โฆษณา) ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งาน Facebook ของกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 30 พบว่าประมาณ 38% ของกลุ่มสำรวจ ใช้งาน Facebook เพื่อส่งข้อความหากันเท่านั้น หรือ Social Media อย่าง Instagram ก็ตามก็ยังมี Application ที่เอาไว้สำหรับแชทอย่างเดียวชื่อว่า Threads

ตัวอย่างกรณีศึกษาแอพพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อ Micro-community

Text Rex เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำหรับแอพพลิเคชั่นที่เน้นการพิมพ์ และการพูดคุยเป็นกลุ่ม และเน้นไปที่เรื่องนั้นๆเป็น Micro-community

Discord เป็น Micro-community แอพพลิเคชั่นที่สามารถส่งได้ทั้งเสียงและตัวอักษร ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อกลุ่มคนที่เล่นเกมส์โดยเฉพาะ

ตัวอย่างแบรนด์เครื่องสำอางค์ที่ไม่ได้สร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมา แต่ใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วอย่าง Slack ในการรวบรวมกลุ่มลูกค้าและสื่อสารตรงกับลูกค้า คือแบรนด์ Glossier ซึ่งได้ใน Slack ในการทำ Market Research ในกลุ่มลูกค้าของแบรนด์เองอีกด้วย

Opinion
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วเห็นภาพรวมของเทคโนโลยีต่างๆที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งตัวอย่างการใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านนิตยสาร Harward Business Review ทุกเล่ม โดยรวมก็เป็นหนังสือรวมฮิตเทคโนโลยีที่อ่านเพลินดีครับ

Device
หนังสือเล่มนี้ผมอ่านใน Kindle มี Link ให้อ่านต่อไม่ได้เยอะมาก ส่วนตัวผมคิดว่า อ่านจากหนังสือเป็นเล่มหรือ Ebook ก็ได้ครับ

Writer
OMAR ABBOSH, MATT BEANE, BHASKAR CHAKRAVORTI, TOMAS CHAMORRO-PREMUZIC, BEN DATTNER, LARRY DOWNES, DAVID FURLONGER, MATTHEW GILLESPIE, ASIT GOEL, LAUREN GOLEMBIEWSKI, JACOB L. H. JONES, KELSEY LIBERT, STUART MADNICK, FRIDA POLLI, DARRELL K. RIGBY, KANE SIMMS, THALES S. TEIXEIRA, CHRISTOPHE UZUREAU, MIKEY VU, DAVID WEINBERGER, SARA WILSON

--

--