รีวิวสอบ JLPT N5 ครั้งแรก จะเป็นยังไงน้า~

ความสำเร็จก้าวแรกเล็กๆ ที่เป็นกำลังใจให้เรียนต่อไป

Manusaporn Treerungroj
Noob Learning
3 min readFeb 1, 2021

--

ช่วงธันวาคมปลายปี 2020 ถือว่าเป็นช่วงโชคดีที่ปลอด COVID19 ไปพักนึง ทำให้การสอบ JLPT กลับมาจัดสอบได้อีกครั้ง ซึ่งเราเองได้ลงสอบครั้งนี้เป็นครั้งแรก เลยจะมาเขียนรีวิวตัวเอง จะได้เป็นกำลังใจให้คนที่สนใจและมาอ่านว่ามีเราเป็นเพื่อนเรียนนะ ฮ่าๆ

JLPT?

เป็นการสอบวัดระดับทางภาษาญี่ปุ่น มี 5 ระดับ N5, N4, N3, N2, N1 เรียงจากง่ายไปยาก ปกติจัดสอบปีละ 2 ครั้ง ทดสอบ 2 ทักษะ คือ การอ่าน (ไวยากรณ์ คำศัพท์ การอ่าน) และการฟัง

สำหรับเราเองก็ได้ลงสอบ JLPT N5 ซึ่งคือระดับง่ายสุด และก็สอบผ่านแล้ว ดีใจ แฮร่ๆ

✏️ เรียนยังไง

เราเริ่มสนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นตอนช่วงต้นปี 2020 โดยอยากเรียนเป็นกิจกรรมเวลาว่าง สนุกๆ เผื่อจะฟังการ์ตูนออกบ้าง 😆 ดังนั้นก็เลยไม่ซีเรียส เพราะว่าไม่ได้ต้องเอาผลสอบไปทำอะไร เพียงแต่อยากรู้ระดับความรู้ของตัวเองก็เลยลองสอบดู

ช่วงเริ่มต้น เมษา-กันยา (6 เดือน) เราลงเรียนคอร์สของสถาบัน เนื้อหาที่เรียนตามหนังสือ Minna no nihongo เล่ม 1 บทที่ 1–10 ถือว่าเรียนแบบค่อยเป็นค่อยไป ได้ฝึกฟังฝึกพูดกับเซนเซชาวญี่ปุ่นชิลๆ

Minna no nihongo เป็นตำรายอดนิยมของเด็กไทย -.,- ถ้าเรียนจบ 2 เล่ม ความรู้จะเทียบเท่า N5

จนกระทั่งวันหนึ่งช่วงกรกฎามั้งนะ?​ (จำช่วงเปิดรับสอบไม่ได้) ก็ตัดสินใจลงสอบ N5 ทั้งๆ ที่ยังไม่จบเล่ม 1 ด้วยซ้ำ (กล้ามากฉันนน) ชีวิตต้องดำเนินด้วย Deadline driven ถถถถถ หัวร้อนเลยทีนี้

ทีแรกก็คิดว่าสอบได้เท่าไหนก็เท่านั้น แต่ก็อดไม่ได้ เห็นว่าเปิดสอบน๊านนานที พอจบคอร์สของสถาบันก็รีบติดสปีดอ่านเองจนจบเล่ม 2 ช่วงเดือนพฤศจิกายน… ปิดฉากมินนะอย่างไว

🤓 เตรียมตัวสอบ

ด้วยความที่อ่านเอง และไม่เคยลงสอบมาก่อน เลยไม่ได้มีความมั่นใจในการสอบเลยแม้แต่น้อย 555+ ช่วงเดือนตุลา-พฤศจิกาก็เลยมีไปลงเรียนติวสอบ N5 โดยเฉพาะ เน้นติวไวยากรณ์ แล้วก็ฝึกทำข้อสอบเลย (ตอนเรียนติวยังอ่านเล่ม 2 ไม่จบเลยล่ะ T.T นั่งเรียนเอ๋อๆ ไปก่อน)

และก่อนสอบราวๆ 1 อาทิตย์ เราก็ให้เวลากับการอ่านหนังสือ และก็ฝึกทำข้อสอบวนไป (เดี๋ยวไปรีวิวหนังสือ📚ข้างล่าง👇นะ) ที่กังวลที่สุดก็คือการฟัง เพราะว่าตอนสอบจะได้ฟังรอบเดียว แถมขนาดในบทเรียนมินนะยังฟังไม่ทันเลยแม่เจ้า (สำหรับเราเสียงประกอบหนังสือมินนะมันพูดเร็วมว๊าก โฮ~)

🎧 .. 🤓 .. 📚 .. 👓 .. ✍ .. ️📖

ก่อนวันสอบก็เลิกอ่าน ทำใจสบายๆ นอนให้พอ และตื่นเช้าไปสอบอย่างสดใส จำได้ว่าช่วงเช้าวันสอบเราไปถึงสถานที่สอบประมาณก่อน 8 โมง อากาศดีมว้าก ลมเย็นสบาย ได้ผ่อนคลายไปในตัว และแล้วก็ถึงเวลาสอบ…

ในห้องสอบมีแต่น้องๆ มัธยม ใส่ชุดนักเรียนมาสอบ เขินเลยยยย

ห้องสอบใหญ่มักๆ ส่วนเราก็พกดินสอคู่ใจที่ถนัดมือ+ยางลบไปให้พร้อม (ไม่ต้องใช้ปากกา) แล้วก็ลุยเลยจ้า

🔖 ผลสอบออกแล้ว

รอเกือบๆ 2 เดือน ในที่สุด 25 มกรา 2021 ก็ได้รู้ผลลลลล รอนานมาก…

แต่คุ้มรอมากกกก สอบผ่านแล้วดีใจมากมาย~ ถือเป็นก้าวเล็กๆ ที่ทำให้ใจชื้น และมีกำลังใจเรียนต่อทุกวันนี้

พาร์ท Language knowledge คือเกินคาดมาก มีข้อที่ไม่มั่นใจหลายข้อแต่รอดมาได้ ไวยากรณ์ไม่ได้ออกยาก ถ้าอ่านมินนะมาคือครอบคลุมคำศัพท์ที่ออกสอบนะ ส่วนการอ่านคือตั้งสติค่อยๆ อ่าน อย่าพึ่งตกใจตัวอักษรเยอะๆ ยาวๆ

พาร์ท Listening ก็เกินคาดเหมือนกัน พูดไม่เร็วมาก รู้สึกฟังทันแต่แปลไม่ทัน /ย้อนแยงสุด ถถถ+ ดูจากคะแนนแล้ว รู้สึกไม่โดนหลอกแต่โดนหลอกสินะ 555555

ใดๆ ก็ตาม N สูงกว่านี้ต้องยากกว่าเยอะแน่เลยยยยย ใครแพลนว่าจะสอบก็สู้ๆ กันนะทุกคน~ ^^

📚 รีวิวหนังสือที่อ่าน

จริงๆ ช่วงแรกที่เริ่มเรียน เราซื้อหนังสือของ TPA book มาทุกเล่มเลย บ้าจริง 555

รูปจาก TPA book

แต่ว่าอ่านไม่หมดทุกเล่มหรอก แค่ตั้งไว้ก็อุ่นใจ /ผิด 555 เอาเฉพาะเล่มที่อ่านจริงๆ คือ 2 เล่มที่วงกรอบสีแดงจ้า 📗📕

ช่วงแรกที่เรียนเรารู้สึกว่าจำศัพท์ไม่ค่อยได้ จะเปิด Dict ก็หาไม่ค่อยเจอ เล่มสีม่วงสุดท้ายในรูป รวมศัพท์ ช่วยได้นะ (แต่ไม่ต้องมีก็ได้)

นอกจากนี้ 2 เล่มที่อ่านก่อนสอบก็คือออ

📔Nihongo So-matome (เล่มซ้าย) จะสรุปไวยากรณ์ คำศัพท์ แบ่งเป็นบทๆ อ่านง่ายมาก มีโจทย์ให้ฝึกทำระหว่างบท ละก็ปิดท้ายด้วยชุดข้อสอบ ใดๆ คือเนื้อกระดาษดี สัมผัสดี ชอบ~ อ่านเล่มนี้ก่อน แล้วค่อยอ่านเล่มขวา

📔แนวข้อสอบวัดระดับภาษา (เล่มขวา) อันนี้แบบฝึกเสมือนข้อสอบจริงล้วนๆ ทั้งฟังและอ่าน ทำซัก 2–3 วันก่อนสอบ จะได้ชินกับลักษณะการสอบ

ส่วนตัวชอบรูปแบบของ 2 เล่มนี้ คิดว่าก่อนสอบ N4 ก็คงซื้อระดับ N4 มาอ่านอีก

นอกจากนี้ เราชอบเล่มนี้เป็นการส่วนตัว (แต่ยังอ่านไม่จบนะ)

📗Lecture สรุปเข้ม ญี่ปุ่น ม.ปลาย โดย BeamSensei และอิซากะเซนเซ (มี Youtube ด้วยยย) เป็นหนังสือที่เหมือนอ่านชีทสรุปเพื่อน อ่านเสริมชิลๆ ได้ เนื้อหาดี ตัวอย่างประโยคเยอะ (ชอบตรงนี้) มีสีสัน อ่านง่าย ภาษากันเอง คนเขียนก็น่ารัก /ผิด เนื้อหาได้ประมาณ N4 เลย

แต่เรื่องหนังสือไม่เข้าใครออกใคร แนะนำเดินตรงไปร้านหนังสือ แล้วเปิดดูเนื้อหาข้างในเลยว่าใช่สไตล์เราหรือเปล่า เราชอบหรือเปล่า ก่อนจะตัดสินใจซื้อน้า 👍

😎 Fun facts

  1. มีช่วงนึงเราหยุดเรียนไปประมาณเดือนนึง กลับมาเรียนต่อแทบจะลืมตัวอักษร (Hiragana, Katakana) มือแข็งเขียนไม่ออก ไม่ต้องพูดถึงคันจิที่จำไม่ได้อยู่แล้ว ถถถ
  2. ทำข้อสอบได้ไม่เท่าเอาไปใช้ได้จริง! โดยเฉพาะสกิลการพูดเรานี่อ่อนแอมาก เทียบกับภาษาอังกฤษคือเรียนไวยากรณ์อย่างดี เวลาพูดคือ This is … จบ 55555 แง้ อยากฟังพูดได้มากกว่านะ~ (มาฝึกพูดกับเราได้นะ สอนด้วยยยย)
  3. ตอนเราสลับมาอ่านเองรู้สึกเหงาเว่อ ไม่เหมือนตอนเรียนในคลาสที่มีเพื่อนเรียนด้วย เลยได้รู้จัก #studygram (Study + Instagram) จะได้เจอคนเรียนภาษาจากทั่วโลกเลย เห็นชาวต่างชาติเรียนภาษาไทยก็น่ารักดี สร้าง Inspiration ให้อยากมาเรียนต่อได้
  4. หนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นต่างๆ ที่ซื้อมาดองกองแทบจะสูงเท่าเอว ทว่ากลับรู้สึกสบายใจอย่างเหลือเชื่อ 🤣

โดยสรุป วันนี้จดรีวิวการสอบครั้งแรกไว้ เผื่อวันหลังกลับมาอ่าน จะได้เป็นกำลังใจให้ตัวเองในอนาคตด้วย ฮิๆ สำหรับใครกำลังเรียนอยู่เหมือนกันก็แวะมาคุยกันได้นะคะ 頑張ってね ^^~

--

--