9 กิจกรรมเด็ดที่ต้องทำ เมื่อมาเซอร์เบีย

teerap
Nuch Stories
Published in
5 min readFeb 28, 2018

อย่างที่รู้กันว่าเราไปฝึกงานที่ประเทศเซอร์เบียมาเป็นระยะเวลาเกือบสองเดือน ได้มีโอกาสได้เที่ยวหลายเมืองเลย ไม่ว่าจะเป็นนิส (Nis), เบลเกรด (Belgrade), โนวิสาด (Novi Sad), ซลาติบอร์ (Zlatibor) และพาราซิน (Parasin) แต่ละเมืองมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากๆ ถ้าถามว่าชอบเมืองไหนที่สุดก็คงตอบไม่ได้ อยู่ที่เรามีอารมณ์แบบไหนในตอนนั้นมากกว่า แต่ถ้าถามว่ามีกิจกรรมอะไรเด็ดๆที่ไม่ควรพลาดล่ะก็ มาเบิ่งกัน!

1. โดดร่ม

นี่เป็นกิจกรรมไฮไลต์ของประเทศนี้เลยนะ จริงๆ ฝรั่งเค้าเรียก Paragliding แต่พี่ไทยเราเรียกว่า กีฬาร่มร่อน กิจกรรมนี้ฮิตมากๆ ในหมู่ชาวเซิร์บ ช่วงเวลาที่คนนิยมเล่นกันจะอยู่ช่วงประมาณเดือนมีนาถึงเดือนตุลา หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือไม่เล่นช่วงหน้าหนาวนั่นเอง คิดสภาพลมหนาวตีหน้าสิครับท่านผู้โชมมมมม สั่นสะท้าน 8.7 ริกเตอร์เลยอะ ช่วงนั้นคนเซิร์บเลยจะเปลี่ยนไปเล่นพวกสกี ฮอกกี้หรือกีฬาหน้าหนาวอื่น ๆ แทน

เห็นนั่งนิ่งๆ จริงๆโคตรเสียวเลยครับ

กลับมาที่พาราไกด์ดิ้งของเรา เราสามารถเล่นได้ตามเมืองที่มีภูเขาสูงๆ เช่น เมืองโนวิสาด (Novi Sad) เมืองนิส (Nis) ซึ่งวิธีการไปเล่นก็จะแตกต่างไปในแต่ละเมือง ขอยกตัวอย่างเมืองที่เราไปเล่นก่อน คือเมืองนิส เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตอนใต้ของเซอร์เบีย นั่งรถจากเมืองหลวงมาประมาณสามชั่วโมงครึ่ง! ปวดตูดซีกซ้ายกันเลยทีเดียว หลังจากลงจากท่ารถบัสเดินมาตรง City Center ประมาณ 10 นาทีหลังจากนั้นนั่งรถเมล์สาย 1 ไปลง Niska Banja สุดสายเลย ราคาตั๋ว 60 rsd หรือประมาณ 20 บาท ก่อนจะถึงที่หมายเราจะสัมผัสได้ว่ารถเมล์จะเปลี่ยนเป็นรถไฟเหาะเล็กๆ เพราะต้องขับข้ามถนนที่ชันมาก แต่วิวตั่งต่างก็สวยมากเช่นกัน อย่าเผลอหลับกันเลยเชียวคุณผู้ชม

ในส่วน Niska Banja นั้นเป็นส่วนสาธารณะที่สงบที่สุดในเมือง เพราะล้อมรอบไปด้วยภูเขา บรรยากาศดีมากๆ ที่นี่เหมือนเป็นสวนจตุจักรถูกผ่าเสี้ยว เน้นว่าเสี้ยว เพราะว่ามันเล็กมากอะ หลังจากเราเดินเข้าไปจะเจอร้านขายของ (kiosk) อยู่สองสามร้าน จำคำนี้ไว้ดีๆนะ คำว่า kiosk อ่านว่า เคียส แต่เราอ่านให้เข้าใจง่ายว่าคิวบ์ เพราะบ้านมันเป็นซุ้มสี่เหลี่ยมๆ คำนี้ใช้บ่อยโคตรๆ เพราะเวลาเราหิวๆ จะหาเซวงเซเว่นงี้ไม่มีหรอก มีแต่ร้านพวกนี้นี่แหละที่สามารถฝากท้องได้ (จริงๆไปรพ.ก็ฝากท้องได้นะ แฮร่!)

….

ไอ่ร้านคิวบ์นี่มันเจ๋งอย่างนึงคือมันเป็นร้านเล็กๆที่สามารถทำได้ทุกอย่างตั้งแต่ขายน้ำ รับเติมเงินยั้นนนนแลกเงิน มาพร้อมกับพนักงานที่โคตรใจดีและมีสรรพคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ภาษามือเป็นเยี่ยม ตอนนั้นถามทางไปห้องน้ำ ฮีแกพูดอิ๊งไม่ได้เลย แร๊ปเซิร์บพร้อมภาษามืออยู่พักใหญ่ๆ เราก็เข้าใจว่าฮีแกจะนำทางเราไปแหง่มๆ ซึ่งเราบอกไม่ต้องงงงงง คิดในใจแต่อยากพูดออกมามากๆว่า มึงจะทิ้งร้านเพื่อนำทางกูไปห้องน้ำไม่ด้ายว้อยยยยย ภารกิจพากูไปนั้นยิ่งใหญ่กว่าขายของมึงอีกหรอวะ วอทททท นี่เลยได้แต่กลั้นหน้าเขียวๆที่น้ำฉี่อยู่หน้าด่านละเดินออกไปอย่างเงียบๆ

ทำภารกิจเสร็จแล้ว พร้อมลุย! การขึ้นไปโดดร่มร่อนเราสามารถทำได้สองวิธีคือ โทรให้ agency หรือครูฝึกขับรถมารับขึ้นไปบนเขา หรือเดินขึ้นเขาไปเองและแน่นอนว่าเราเลือกวิธีที่สอง จริงๆไม่ได้เลือก แต่ไม่รู้ว่ามีวิธีแรกด้วย พึ่งรู้ตอนเดินถึงยอดแล้ว
แฮปปปปปรี้!!!!!! ในส่วนวิธีการเดินขึ้นเขาก็ง่ายๆ เลยคือเดินตามสัญลักษณ์สีแดงที่เขาขีดไว้ไปเรื่อยๆ ซึ่งบางทีก็ลืมขีด บางทีก็จาง บางทีก็ขีดหลายทาง กำพระแน่นๆและภาวนาเอาแล้วกันให้เดินไปถูกทาง เอาจริงๆ มันไม่ยาก ถ้าเดินไม่หลงใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แต่ถ้าเดินแบบพวกข้านั้นก็จะใช้เวลาไปเกือบสองชั่วโมงครึ่ง เดินๆ หยุดๆ หลงๆ นั่งชมนกชมไม้ สลอตไลฟ์ไปเรื่อยจนถึงยอด แต่พอตอนถึงสุดจุดยอดบอกเลยว่าฟินมาก (วิว) และแข็งมาก (มือ) เพราะข้างบนอากาศหนาวจริ๊ง

มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญกันแล้วครับท่านผู้โชมม เรากำลังจะร่อนลงไปข้างล่างด้วยเครื่องร่มร่อนกัน เค้าบอกจะใช้เวลาร่อนอยู่บนอากาศประมาณ 20 นาที ค่าเสียหาย โดนไป 4500 rsd หรือประมาณ 1500 แหนะ ราคานี้รวมค่าชุดค่ารับส่งขึ้นเขาลงเขาหมดทุกอย่างเลยนะ น้ำตาต้องมาเลยฮะจุดนี้ ทำไมกูไม่รู้ตั้งแต่แรกว่าสามารถโทรให้เค้ามารับได้ แค้นว้อยแค้นน แต่เอาเถอะ แค่นี้ก็โคตรคุ้มแล้ว เพราะวิวระหว่างร่อนลงมันฟินมาก เห็นภูเขาหัวโล้น และ หลังคาสีส้ม อยู่เมืองไทยคงไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้แน่ๆ ตอนวิ่งเอาเครื่องร่อนลงสัมผัสได้เลยว่า นี่คือสิ่งที่กูตามหามาตลอดทั้งชีวิต ใช่ครับ! ที่พูดมากูประโชดดดดด เอาจริงๆ มันก็ดี อากาศดีมาก ครูดีมาก นั่งไปกับเราด้วย แนะนำตลอดไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย มาถึงเซอร์เบียแล้ว ต้องลอง!

2. ซื้อตั๋วไปดูคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

Exit Festival เป็นคอนเสิร์ตที่โคตรพ่อโคตรแม่ใหญ่ที่สุดในยุโรปแล้วครับพี่น้องครับ อย่ารอช้าถ้าหากท่านมาเที่ยวเซอร์เบียในช่วงหน้าร้อนพอดิบพอดี รีบเปิดดูรายชื่อศิลปินที่ชื่นชอบแล้วกดบัตรโดยด่วน คอนเสิร์ตนี้จัดการแสดงทั้งหมด 7 วันจัดที่ป้อมปราการของเมืองโนวิสาด (Novi Sad) บัตรนี่มีราคาตั้งแต่หลายพันจนถึงเป็นหมื่นๆดีนาเลย ถ้ายิ่งจองช้าบัตรจะยิ่งแพงมากๆ โดยเฉพาะบัตรผีหน้างานที่แพงสลัดๆ นอกจากบัตรคอนที่แพงแล้ว ราคาที่พักก็ไม่น้อยหน้านาจา ราคาจะแพงขึ้นเป็น Expo เลย คือยิ่งเข้าใกล้วันคอน ราคาจะยิ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้จองตั้งแต่เนิ่นๆ หรือใครอยู่เบลเกรดให้พักที่เบลเกรดไปเลย เพราะดูคอนเสร็จก็เช้าแล้วอะ นั่งรถต่อไปเบลเกรดได้เลย ใช้เวลา 1–2 ชั่วโมงเอง แต่ถ้ากลัวเหนื่อย แนะนำให้หาหอพักนศ.ที่เค้าเปลี่ยนมาเป็นห้องพักให้นักท่องเที่ยวอยู่แค่ช่วงจัดคอน ราคาจะถูกกว่าโรงแรมมากๆ ส่วนของเรา ช่วงที่ดูคอนเราได้เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ห้องเพื่อนที่มาฝึกงานที่โนวิสาด หลังจากนั้นก็ไปคอนยันเช้า แล้วค่อยนั่งรถไฟไปเบลเกรดเพื่อบินกลับไทย

บรรยากาศในคอนเสิร์ตโคตรสนุก เพลงบางเพลงติดหูง่ายมาก บางเพลงไม่เคยฟังเลย แต่มาฟังที่นี่วนๆท่อนเดิมๆเริ่มร้องได้ เริ่มสนุก ลำโพงเสียงดังดี เบสสะใจมาก นักร้องร้องสดดีมาก ไม่มีเสียงตกเหมือนกับลิปซิ้งอยู่เลย เอฟเฟ็กต์ พลุเพลอะ อลังการดาวสิบแปดล้านดวงมากแกร แต่!!! ข้อเสียงานนี้มันก็มีอะ เอาตรงๆเลยคือในงานฝุ่นเยอะมาก เยอะแบบโรคปอดติดเชื้อกักมาเรียกแล้วอะ และอีแก๊งฝรั่งข้างๆนี่เปรี้ยวจั๊งเต้นแรงมากเฟว่อ เต้นไม่ได้ดูพื้นที่เล้ย อย่าว่าแต่พื้นที่เลย ได้ดูกูบ้างรึป่าวเหอะ ว่ากายหยาบกูยืนอยู่ข้างๆมึงน่ะโรเบิร์ตตต ฮีเต้นไปฝุ่นกระเด็นไปอีก แต่ที่สำคัญสุดเลยคือ มันสูง!!! ทำเอาแก๊ง Chinese guy อย่างพวกกูเป็นหลุมเป็นบ่อเลย ยังยังไม่หมด เต้นกินพื้นที่ บังพวกกูยังพอทน พีคกว่านั้นคือมันเสือกเมาแล้วระรานชาวบ้านอีก ทะเลาะกับการ์ดอีก เห้ออออ อย่างที่บอกอะ คนชั่วคนดีไม่ได้อยู่ที่ชนชาติจริงๆ นอกจากเด็กกระโปกพวกนี้ ก็ไม่ค่อยมีคนให้น่าปวดเฮดแล้วล่ะ โดยภาพรวมของงานงานนี้เป็นงานที่เราโคตรชอบเลยนะ

หูยยย ใหญ่จริง รูปเนี่ยยยใหญ่จริง แต่คอนจริงใหญ่กว่าในรูปนี้มาก ลำโพงก็ดี เสียงนักร้องดีมาก คนก็เยอะมากกก ฝรั่งตัวสูงมาก กูก็เตี้ยมากกกก โดนบังมิด! อะอะไม่อยากอวยเยอะ ไปพิสูจน์เองกับตากับหูตัวเองกันดีกว่า จองตั๋วด่วนเลยทุกคน!

3. เล่นกีฬา Outdoor

เราไปเซอร์เบียตอนฤดู Spring + Summer พอดี เพราะฉะนั้นอากาศข้างนอกจะสบายๆ ประมาณ 20–25 องศา เหมาะแก่การทำกิจกรรมข้างนอกบ้านมากๆ อย่างเราอยู่เมืองนิส วันเสาร์จะตื่นเช้ามาปั่นจักรยานรอบๆเมือง สายๆไปขี่ม้า ตอนเย็นแช่สปาที่ Niska banja วันอาทิตย์แว๊บไปเบลเกรดไปยิงธนู ที่ Fortress ตกเย็นก็นั่งดูพระอาทิตย์ตก ถ้าเรารู้สึกเหนื่อย รู้สึกท้อ มาทำกิจกรรมแบบนี้ มันรู้สึกดีขึ้นมากๆเลยนะ

ปล่อยวางเรื่องเครียดๆ แล้วพักผ่อนบ้าง

4. เยี่ยมชมค่ายกักกันนาซี

ประวัติศาสตร์ของเซอร์เบียเป็นเรื่องราวที่วัยรุ่นที่นี่ชอบเม้าเวลาอยู่ร้านอาหาร เป็นเรื่องที่เอามาเล่าแล้วเล่าอีกไม่จบไม่สิ้น เพราะมันสนุกมากๆ หนึ่งในประวัติศาสตร์ที่เพื่อนเล่าให้ฟังแล้วเราอินมากคือเรื่องสงครามโลกนี่แหละ โดยสถานที่สำคัญในสงครามโลกคือค่ายกักกันใช่มะ หลายคนคิดว่าส่วนใหญ่ต้องอยู่ในเยอรมันแน่เลย ซึ่งนั่นก็ถูก แต่ส่วนนึงก็มีที่เซอร์เบียด้วย ซึ่งค่ายกักกันนาซีนั้นอยู่เมืองเราเอง เมืองนิส (Nis) ใกล้กับ Bus Station ของเมืองเลยใช้เวลาเดินไปแค่ 10 นาทีเท่านั้น ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ระหว่างเดินเข้าไปมีไกด์แนะนำและเล่าประวัติคร่าวๆ เกี่ยวกับสงครามโลกและค่ายกักกันให้ฟัง เราจะรู้สึกอินเข้าไปอี้ก กลับมาแล้วอยากดูหนังสงครามเลย

5. กินอาหารพื้นเมือง

เวลามายุโรป อาหารการกินของคนที่นี่ที่หลายๆคนคิดจะต้องเป็นพวกเบอร์เกอร์ แป้งเยอะๆ ไขมันเยิ้มๆไรงี้ใช่ปะ นั่นแหละคุณคิดถูกแล้ว

ภาพแย่เพราะเราถ่ายกากเอง จริงๆอร่อยมาก

อาหารที่นี่จะเน้นหนักไปทางเค็มและเค็มมากๆ หรือถ้าไม่เค็มก็จะ greasy มากๆ แต่เค้าจะมีสลัดตัดเลี่ยนตลอดนะ เมนูที่แนะนำว่าต้องไปกินสักครั้งในชีวิตคือเบอร์เกอร์เนื้อแกะ เนื้อมันดีมาก หอม นุ่ม เวลากัดเราสัมผัสได้ถึงความ แต่กินนี่ต้องเลือกร้านดีๆนะ ถ้าร้านไม่ดีจะเหม็นมากๆ อีกเมนูที่อยากแนะนำคือ Nachos เป็น snack กรุบกริบเอาไว้กินเล่นในโรงหนัง ซอสคล้ายๆ เชดดาชีส เค็มๆ มันๆ ฟินมาก

6. โดดบันจี้จั้มพ์

บันจี้จัมพ์เป็นกีฬาผาดโผนที่เราอยากเล่นมากกกก แต่ตอนเราไปมันปิด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำให้ไปลองกัน หอคอยสำหรับโดด มีความสูง 55 เมตร ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบอะด้า (Ada Ciganlija Lake) ในเมืองเบลเกรด (Belgrade) สามารถขี่จักรยานไปหรือนั่งรถบัสไปก็ได ้เปิดตั้งแต่เวลาบ่ายสองถึงสองทุ่ม (2:00 PM — 8:00 PM) นอกจากบันจี้จั้มพ์แล้วทะเลสาบอะด้ายังมีกิจกรรมให้ทำอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น สกีน้ำ ยืนพายเรือ ปั่นจักรยาน เล่นวอลเล่ย์ โอ้ยเยอะ

ภาพจาก http://www.belgradestagweekends.co.uk/activities/bungee-jumping/

7. เข้าโบสถ์ / ชมพิพิธภัณฑ์

เซอร์เบียมีโบสถ์และพิพิธภัณฑ์เยอะมากกกกกกกกกกกกกก มีแทบทุกเมือง ทุกอนุรูขุมขน ที่สำคัญเค้ารักษาสมบัติของชาติเค้าดีมากเลย พิพิธภัณฑ์นี่มีให้ทั้งเข้าฟรีและเสียเงิน เสียเงินส่วนมากจะมีแบบจ่ายแยกแต่ละที่ หรือเป็นแพคเกจแบบเหมาชมพิพิธภัณฑ์ทั่วทั้งเมือง ซึ่งอย่างหลังจะคุ้มกว่าแบบแรกมากๆ หลังจากที่เราลองเข้ามาหลายโบสถ์หลายพิพิธภัณฑ์ โบสถ์ที่เราชอบมากสุดเลยคือ Saint Sava ส่วนพิพิธภัณฑ์ที่เราชอบมากสุด คือ Nikola tesla ทั้งสองที่อยู่ในเมืองเบลเกรด

เราขอเล่าเรื่องโบสถ์ก่อน Saint Sava เป็นโบสถ์ของชาว ออร์โธดอกซ์ ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ตอนเราไป (2017) ยังคงปรับปรุงอยู่ในส่วนด้านใน

ส่วน Nikola tesla เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมผลงานต่างๆของเทสลาไว้มากมาย ซึ่งขอบอกเลยว่าเทสลาดังมากๆในหมู่เซิร์บ เพราะผลงานเค้าน่าทึ่งมาก พิพิธภัณฑ์สวยและมีอะไรให้น่าตื่นเต้นตลอดเลย แนะนำอย่างแรง

8. เข้าผับ

มีคนเคยบอกว่าเบียร์แท้เบียร์อร่อยคือเบียร์ยุโรป ไหนๆ มาถึงเซอร์เบียจะไม่ได้กินเบียร์ได้ไงละเนอะ แต่จะกินแบบธรรมดามันไม่ได้ฟีลลิ่ง ไปลองกินในผับหน่อยดีกว่า

9. ไปเมืองสงบๆ

ไปเมืองสงบๆพวกเมืองซลาติบอร์ พาราซิน นี่ทำให้เราจิตใจสงบขึ้นเยอะเลย /ทำเสียงศรีริต้า เอาเป็นว่า ไม่อยากพูดเยอะ ไปดูรูปดีเต๊อะ

เซอร์เบียเป็นประเทศที่ค่าครองชีพพอๆกับบ้านเราเลย เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างๆ ค่อนข้างรับได้ ถ้ามีโอกาสมาเซอร์เบีย อย่าได้พลาด 9 กิจกรรมเหล่านี้เลยเชียวคุณผู้โชมมม

--

--

teerap
Nuch Stories

embarking on a journey by sharing stories while following a passion for writing.