การเมือง — Bas Vodde

Chokchai Phatharamalai
odds.team
Published in
2 min readSep 25, 2019

Bas Vodde ที่พูดในงานวันแรกของ LeSS conference 2019 เรื่อง Politic (การเมือง)

โดยบาสเริ่มจากความหมายของคำว่า การเมือง จากการตีความของหนังสือหลายเล่ม สุดท้ายเขาเอามา 5 อันซึ่งองค์ประกอบที่เหมือนกันเลยของทั้ง 5 คือ การเมืองคือการบรรลุเป้าหมายโดยใช้วิธีการที่ไม่เป็นทางการ ความน่าสนใจคือจากคำนิยามเหล่านี้ การเมืองอาจจะไม่ใช่สิ่งไม่ดีเสมอไป เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังบรรลุเป้าหมายของใคร

การเมืองเชิงบวกและการเมืองเชิงลบ

บาสบอกว่า ถ้าเราใช้วิธีการที่ไม่เป็นทางการเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันสำหรับทั้งองค์กร เรียกว่าการเมืองเชิงบวก (constructive politic) เพราะมันทำให้คนเห็นภาพรวมร่วมกันมากขึ้น เห็นเป้าหมายเดียวกันง่ายขึ้น นำไปสู่การร่วมมือกันมากขึ้น แต่ถ้าเราใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายของส่วนน้อย เช่น เป้าหมายของแผนกเรา ทีมเรา หรือเป้าหมายส่วนตัว นับเป็นการเมืองเชิงลบ (destructive politic) เพราะมันนำไปสู่ sub-optimization และความขัดแย้ง ซึ่งส่งผลเสียกับภาพรวมขององค์กร

https://twitter.com/curlypeter/status/1172093716829544448?s=21

Scrum Master คือบทบาทที่ไม่มีอำนาจจะไปสั่ง team หรือ product owner แต่ต้องชวนเค้าทำตามสกรัมให้ได้ เป็นบทบาทที่ต้องเล่นการเมืองตามคำนิยามของคำว่าการเมืองที่เล่ามาข้างต้นชัด ๆ

บาสพูดถึงตรงนี้ ผมนี่ paradigm shift เลย เพราะผมคิดมาตลอดว่าการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการโค้ชของผม เพิ่งมีตอนนี้แหละที่เห็นว่า การโค้ชของผมก็เป็นการเล่นการเมืองเหมือนกัน และที่หลายครั้งรู้สึกกำลังสู้กัน เป็นการปะทะระหว่างการเมืองเชิงบวกกับการเมืองเชิงลบต่างหาก

ทำไมเราเจอการเมืองเชิงลบเยอะจังนะ?

หนังสือ Moral mazes ที่อ่านอยู่บทที่ 4 เล่าไว้ค่อนข้างดี แต่เอาไว้ค่อยบล็อกเรื่องนี้ต่างหาก ตอนนี้ขอยกตัวอย่างย่อ ๆ สักอันก่อน เช่น มีใครหวังว่าจะเห็นพวกการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาวบ่อยกว่านี้ในที่ทำงานของฉันบ้าง? ไม่ว่าจะเป็นการส่งคนไปเทรน การ upgrade version ของระบบ การปรับฐานการจ่ายเงินให้พนักงาน

ทำไมถึงเห็นไม่บ่อย? เพราะคนในองค์กรสมัยนี้เปลี่ยนตำแหน่งกันเร็วมาก ผลการลงทุนระยะยาวมันไม่ค่อยมีผลกับการเลื่อนตำแหน่ง เราอยากถูกปรับในปีสองปี อะไรที่ทำแล้วหวังผล 5 ปี 10 ปีข้างหน้า มันไม่ด่วนเท่างานอื่น ๆ ที่สร้างผลงานตอนนี้

ผมไม่เชื่อว่าคนเหล่านั้นเห็นแก่ตัวนะ เพราะจากประสบการณ์ที่ผมโค้ชมาผมไม่เคยเจอคนเห็นแก่ตัวแบบนั้น บางครั้งผมก็เห็นเราพยายามของบเพื่อพัฒนาระบบ แล้วมันก็ไม่ผ่าน เพราะผลการลงทุนระยะสั้นมันวัดเป็นตัวเลขง่าย แต่ผลการลงทุนระยะยาวมันวัดยาก ส่วนใหญ่มันต้องรู้สึกเอา และโครงสร้างขององค์กรส่วนใหญ่ เราแยกคนที่มีอำนาจตัดสินใจ กับคนที่มีโอกาสรู้สึกถึงของเหล่านี้ออกจากกัน การตัดสินใจประเภทนี้เลยเกิดยาก

ตอบโต้การเมืองเชิงลบด้วยการเมืองเชิงบวก

ตัวอย่างเช่น เวลามีคนมากระซิบบอกอะไรผม (1–1 discussion) แล้วผมเห็นว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์กับทีม ผมก็จะชวนเค้าไปคุยพร้อมกันทั้งทีม (open group discussion) ตอนนี้ผมเห็นแล้วว่าหน้าที่ผมไม่ใช่หลบหลีกการเมือง แต่ให้ชวนให้การเมืองที่เกิดขึ้น ขยับเข้าด้านเชิงบวกขึ้นอีกนิด

และการเมืองเชิงบวกอีกอันที่ผมพยายามทำตลอดเวลาคือ ให้คิดส่าทุกคนมีเจตนาดี ซึ่งส่งผลให้เราจะทำดีกับทุกคนโดยธรรมชาติ แม้จะเป็นในสถานการณ์ที่ความขัดแย้งสูง ๆ ก็ตาม

Credit

Bas Vodde for sharing a great talk and reviewing my blog.

One slight mistake… you can also use constructive politicis for when there is e.g. a sub-optimal goal. But most of the constructive political activity work towards creating shared meaning and thus likely change that goal eventually

ผมสารภาพว่ามันลึกซึ้งไป ผมย่อยไม่ทัน คงต้องนั่งแช่กับ definition ใหม่ของคำว่าการเมืองอีกซักพัก ผมถึงจะเข้าใจกลไกของมันลึกพอ ใครเข้าใจรบกวนแบ่งปันหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

--

--